เมื่อครั้งที่ได้ทำงานวิจัยเรื่องของการเชื่อมโยงเครือข่ายผ้าทอของจังหวัดอุตรดิตถ์และเครือข่ายผ้าทอของภาคเหนือตอนล่าง
ผมได้ทราบเรื่องความเชื่อของชาวลับแลเกี่ยวกับ
"หมายซิ่น"
คุณจงจรูญ (คุณโจ) ได้เล่าให้ผมฟังว่า
เมื่อก่อนที่ "ตีนซิ่น" ของผู้หญิงชาวลับแลสมัยก่อนจะมี "หมายซิ่น" ไว้ทุกผืน มีไว้เพื่อป้องกัน "คุณไสย" หรือ "มนต์ดำ" ต่าง ๆ ที่ผู้ชายมาจีบนั้นจะทำใส่ ครับ
แม้บรรดาคนทั่วไปในถิ่นบ้านสถานอื่น มีความเข้าใจว่าเมืองลับแลเป็นเมืองลี้ลับที่เต็มไปด้วยภัยร้ายนานาชนิดบ้าง เมืองกินคนบ้าง เมืองแม่หม้ายบ้าง หรือเมืองใต้พิภพ สุดแต่ความพึงพอใจของใครต่อใครที่จะว่ากันไป
แต่ทว่าความจริงแล้วเมืองลับแลใหญ่พอเป็นระดับเทศบาลเมืองได้ ถ้าหากต้อนผู้คนมาทั้งอำเภอ แต่ทว่าเป็นความจริงอีกนั่นแหละที่ลับแลมีฐานการปกครองเป็นอำเภอหนึ่งใน 9 อำเภอของจังหวัดอุตรดิตถ์
มีพุทธศาสนิกชนที่มีใจรักในการบำเพ็ญบุญสุนทร์ทาน ชาวเมืองรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบอย่างไทยแท้อย่างภาคภูมิใจยิ่ง ไม่รักการใช้สีสันแต่งแต้มให้ผิดแปลกธรรมชาติจนเกินไป
ดำรงชีวิตความเป็นอยู่อย่างง่าย อุทิศความรักในมิตรกับความเป็นมิตรต่อคนอื่นอย่างดียิ่ง และที่สำคัญอันเป็นสิ่งที่ชาวลับแลรักที่จะประพฤติตลอดไป คือ
ภราดรภาพและเสรีภาพ
จากนั้นผมเองก็ได้ทราบ อ.อุทัย อีกครับว่า
แถวอีสานก็มีความเชื่อที่คล้ายคลึงกับชาวลับแลเช่นกัน
อ.อุทัยเล่าให้ฟังว่า ชาวอีสาน เวลาออกรบจะนำ "ตีนซิ่น" ของแม่ติดตัวไปด้วยทุกครั้ง
เพราะจะทำให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง
แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ทางภาคอีสาน "ตีนซิ่น" จะอยู่ในลักษณะแนวนอน ช่วงล่างของผ้าซิ่น
แต่ของทางภาคเหนือ จะเป็นลักษณะแนวตั้งครับ
ภาพที่เป็นเป็นผ้าจกพื้นเมืองของชาวลับแลครับ
ถ้าได้ภาพผ้าซิ่นของชาวอีสานมาแล้วอย่างไร จะนำมาเผยแพร่ในคราวถัดไปครับ
ขอขอบพระคุณคุณจงจรูญ มะโนคำ
เอื้อเฟื้อภาพครอบครัวและภาพผ้าทอ
ผ้าจกย้อมสีธรรมชาติ ของชาวลับแล อุตรดิตถ์ครับ
หารูปผ้าซิ่นชาวอีสานไม่เจอคะ
ว่าจะเอามาร่วมแลกเปลี่ยนซะหน่อย
ภาคเหนือก็มีความเชื่อที่คล้ายคลึงกับภาคอีสานเช่นเดียวกัน
ชาวเหนือมีความเชื่อว่าหากเก็บตีนซิ่นของแม่ไว้กับตัวก็จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ
ยิ่งเป็นซิ่นผืนที่แม่นุ่งแล้วคลอดเราด้วยแล้วยิ่งขลังมาก
เท่าที่ผมอ่านหนังสือมา พบเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าซิ่นของแม่นี้
ก็มีปรากฏอยู่ในหนังสือ "แก้วลอดฟ้า" ตอนซิ่นอีแม่ ของมาลา คำจันทร์ครับ
ส่วนหมายซิ่นนั้นผมไม่แน่ใจว่าได้อ่านมาจากหนังสือเล่มใด แต่มีใจความที่จำได้คือ
หมายซิ่นนั้นเปรียบเสมือนลายเซ็นของผู้ทอ ที่เมื่อเห็นแล้วก็สามารถบอกได้ว่า ซิ่นผืนนี้ใครเป็นผู้ทอ
ผ้าตีนจกลับแลนั้น ถ้าเป็นไหมทั้งผืน ราคาจะอยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาทไปจนถึงสองหมื่น
แต่หากเป็นซิ่นตีนจกไหมสอดดิ้นเงินดิ้นทอง ราคาจะอยู่ที่สี่หมื่นบาทขึ้นไป
แต่หากไหมดิบขึ้นราคา ดิ้นเงินดิ้นทองขึ้นราคา ซิ่นตีนจกลับแลก็จะมีค่ายิ่งขึ้น
หากใครมีไว้ครอบครอง ก็เก็บรักษาไว้ดีๆนะครับ