11
คนเรามีที่มาและที่ไปไม่เหมือนกัน
แตกต่างกันในรายระเอียดของฐานะ ชาติตระกูลและการศึกษา
แต่มีอยู่เพียงสิ่งเดียวที่เหมือนกัน
นั่นก็คือ ศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์
ซึ่งทุก ๆ คนล้วนมีคุณค่าและมีความยิ่งใหญ่อยู่ในตัวเอง
เรียนรู้ชีวิตให้มาก ๆ
ศึกษาโลกให้กว้าง ๆ
เอาใจใส่ต่อคนอื่นบ้าง
แล้วเราจะไม่มีความแตกต่างใด ๆ เลย
12
ในชีวิตของคนเราทุก ๆ คน
บางเวลาเราไม่มีความจำเป็นเลย
ที่จะต้องลืมตาขึ้นมามองดูโลกรอบด้านอยู่ตลอดเวลา
เราอาจหลับตาแล้วเดินผ่านเลยไป
โดยไม่ต้องไปสนใจใยดีกับสิ่งใด ๆ เลยก็ได้
ถ้าหากสิ่งนั้นทำให้เราต้องเกิดความทุกข์หรือเจ็บปวด
ด้วยว่า….การที่เราจะสามารถดำรงตนอยู่ในทุกสังคมได้นั้น
จะต้องมีทั้งการลืมตาและหลับตา….มิใช่หรือ ?
13
นกน้อยตัวหนึ่ง……
กำลังผกผิน…..โบยบินขึ้นสู่ฟากฟ้ากว้าง
ดูน่ารัก….งดงาม….มีความสุข
สนุก….อิสระ…..เสรีไร้ขอบเขต
นกน้อยเอย….สิ่งใดหรือคือสิ่งที่เจ้าโบยบินค้นหา
นกน้อยเอย….เจ้าจะรู้บ้างไหมว่า…..
บางเวลา….ฉันเองก็อยากจะมีชีวิตเป็นเช่นเจ้าบ้าง
อยากจะโบยบิน.…ข้ามขอบฟ้าและขุนเขา
เพื่อเสาะแสวงหาอิสระ….เสรีภาพ….ที่งดงามและความเป็นคนที่สมบูรณ์
แต่อนิจจา…..นกน้อยเอยถึงวันนี้ เจ้าก็ยังคงเป็นเจ้า
ฉันก็ยังคงเป็นฉัน…..เหมือนเดิม
14
เพื่อนเอ๋ย……บนทางเดินที่เธอกำลังก้าวไป
อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างรออยู่ข้างหน้า
ทั้งความฝันและความหวังนานา
ที่เธอปรารถนาและวาดหวัง
อยากจะไขว่คว้าและแสวงหาตราบนิรันดร์
แต่เพื่อนเอ๋ย…..เธอจะรู้บ้างไหมว่าสิ่งที่เธอกำลังค้นหานั้น
บางที มันอาจเป็นเพียงความฝัน
ซึ่งไม่เคยเลยที่จะเป็นความจริง
ในขณะที่สิ่งที่เธอไม่เคยค้นหาเลยต่างหาก
ที่เป็นความจริง
ที่หล่อเลี้ยงชีวิตและจิตวิญญาณของเธอ
ให้คงอยู่ตลอดกาลเวลา…..เสมอมา
15
หากเธอมีความปรารถนาที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า
เพื่อเสาะแสวงหาความฝันใฝ่ให้กับตนเอง
ขอให้เธอจงมีความกล้าหาญและอดทนอยู่เสมอ
อย่าท้อแท้หรือหวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่เธอได้พบเจอ
เพราะนั่นอาจจะทำให้เธอล้มเหลวได้
ขอให้เธอจงเชื่อมั่นในตัวเอง
สร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นกับชีวิตตลอดเวลา
เรียนรู้ที่จะตัดสินใจและรับผิดชอบด้วยตนเอง
ดูแลและเอาใจใส่ตัวเองให้ดี ๆ
พร้อมกับหมั่นคอยดูแลผู้อื่นบ้าง
แล้วเธอจะพบเจอแต่สิ่งที่ดี ๆ ตลอดทาง
กำลังจะก้าวเดินไปข้างหน้า....
ชอบบทที่ ๑๕ มาก..ขอบคุณครับ
ไพเราะลึกซึ้ง
ได้ความคิดดีมีมุมมองครับผม
ขอบพระคุณมากๆ ครับ สำหรับดอกไม้และกำลังใจที่ได้รับ
ผมลืมบอกความเป็นมาให้ทุกท่านได้ทราบว่า.....บันทึกริมทาง ที่ทุกท่านกำลังอ่านอยู่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกย่อๆ ที่ผมได้เขียนขึ้นระหว่างปี 2530-2542 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมกำลังอยู่ในช่วงของการเป็นหนุ่มน้อยนักฝัน นักเดินทาง เห็นอะไรก็ฝัน คิด และเขียนเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึก ได้ประมาณ 200 กว่าบท....แต่ในจำนวนนั้น มีแค่ 60 บทเท่านั้น ที่ผมคิดว่าคนอื่นๆ สามารถที่จะอ่านเล่นๆ ได้ ส่วนที่เหลือนั้น เป็นความละเมอแบบหลุดโลกเสียมากกว่า
ขอบพระคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาติดตามอ่าน