วันแรกของเดือนมิถุนายน 2554 วันนี้มาโรงเรียนเช้าเป็นพิเศษ เพราะเพื่อนเจ้าของรถที่ดิฉันอาศัยมาด้วย ต้องมาอยู่เวรประจำวัน
การได้มีเวลาในช่วงเช้าก่อนเข้าแถว ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสเดินสำรวจโรงเรียน (บางจุด) ในส่วนที่ได้ไปสำรวจพื้นที่วันนี้ เรียกกันว่า "อุทยานการเรียนรู้" เป็นส่วนที่เพื่อนของดิฉันรับหน้าที่ยืนเวรค่ะ
พื้นที่ในส่วนนี้กว้างมาก ทางโรงเรียนแบ่งเป็นจุดสำหรับเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ อยู่หลายจุด ถือว่านักเรียนที่นี่ไม่ได้เรียนรู้แต่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ยังได้เรียนรู้นอกห้องเรียน และบางครั้งยังได้ลงมือทำปฏิบัติกิจกรรมเองด้วย (โชคดีมากเลย)
วันนี้ดิฉันมีคาบสอนตอนเช้า คาบแรกของวัน เป็นนักเรียนชั้น ม.1/4 ที่ฉันจะต้องดูแล หลังจากเช็คชื่อแล้วพบว่า ดิฉันคงต้องเตรียมตัวอย่างหนักในการสอนครั้งหน้า เพราะนักเรียนในห้องนี้ มีเด็กพิเศษร่วมเรียนด้วย 1 คน เป็นนักเรียนที่มีความพิการทางสายตา
ในครั้งที่นักเรียนคนดังกว่าวไม่ได้เข้าเรียน สอบถามเพื่อน ๆ ทราบว่า ไม่เห็นตั้งแต่เข้าแถว คาดว่าวันนี้คงขาดเรียน
ดิฉันแปลกใจว่า นักเรียนที่มีความพิการทางสายตา สามารถเรียนคอมพิวเตอร์ไปกับนักเรียนปกติได้ด้วยหรือ คำตอบจากนักเรียนร่วมห้องคือ ได้ค่ะ ปกติคาบคอมพิวเตอร์สัปดาห์ที่ผ่าน ๆ มา นักเรียนคนดังกล่าวก็เข้าเรียนด้วยตามปกติ โดยจะมีหนังสือที่เป็นอักษรเบรลล์ และคอมพิวเตอร์ส่วนตัวอยู่แล้ว
งานนี้สำหรับดิฉันคงไม่ธรรมดา เพราะฉันคิดว่า การดูแลเด็กพิเศษ เราจะต้องให้ความเอาใจใส่พวกเขามากทีเดียว
หลังหมดคาบสอนดิฉันและเพื่อนต้องช่วยงานโรงเรียน เป็นงานเสริม โดยวันนี้พวกเราประจำการกันที่ ฝายวิชาการ ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-12.30 น.
ส่วนงานที่ทำก็เป็นงานทั่วไป ตัดกระดาษ ปริ้นท์เอกสาร ฯลฯ
สุดท้ายช่วงเวลาระหว่างรอเพื่อนกลับบ้าน ดิฉันก็นั่งตรวจงานนักเรียนจนกระทั่ง 17.10 น.
...ชีวิตนักศึกษาตัวสำรอง ทุกเวลามีค่า คาบว่าง ทานข้าว เลิกงาน ก่อนนอน มีเวลาเมื่อไหร่ ต้องเอางานแต่ละวิชาขึ้นมาทำทุกที นี่ยังไม่นับรวมถึงแผนการสอน แค่คิดก็ไมเกรนขึ้นแล้วค่ะทุกคน...
ถึงแม้ "ไมเกรน" จะบังคับไม่ให้ขึ้นไม่ได้
แต่การบริหารเวลาที่ดีจะทำให้ "ไมเกรน" หนีหายไปได้
เห็นควรดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี ;)