หลังจากจัดอบรมผู้บริหาร รพ.สต.แบบมืออาชีพไปแล้ว ๑ รุ่น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี จากผลการประเมินผู้ผ่านการอบรมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้จัดอีกให้สำหรับกลุ่มผู้ปฏิบัติการด้วย
ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน จึงได้จัดอบรมหลักสูตร “นักปฏิบัติการ รพ.สต.แบบมืออาชีพ” วันที่ 11-12 พฤษภาคม 2554 ณ โรงแรมเทวราช จ.น่าน ผู้เข้าอบรมเป็นผู้ปฏิบัติงานในระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 150 คน
นายแพทย์พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เป็นประธานในการเปิดอบรมและให้ข้อคิดในการทำงานแก่บุคลากรที่เข้าร่วมประชุม การอบรมครั้งนี้เป็นโครงการต่อเนื่องที่จัดทำใน 3 หลักสูตรที่เชื่อมโยงกัน เพื่อให้บุคลากรของ รพ.สต.ที่ถูกยกระดับจากสถานีอนามัย สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ทรัพยากรที่เพิ่มมากขึ้นจากหลายช่องทาง ประกอบด้วย หลักสูตรในระดับผู้บริหาร รพ.สต. หลักสูตรการพัฒนางานประจำให้เป็นงานวิจัย และหลักสูตรสำหรับผู้ปฏิบัติการ หลังการอบรม คือ จะได้ความคาดหวังของผู้ให้บริการต่อการพัฒนา รพ.สต.และแนวทางในการพัฒนา รพ.สต.ให้มีคุณภาพ ในมุมมองต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ของแต่ละ รพ.สต. และ CUP ต่อไป ซึ่งจะมีการติดตามและประเมินผลหลังการอบรมต่อไป
สำหรับการอบรมหลักสูตร “นักปฏิบัติการ รพ.สต.แบบมืออาชีพ” ครั้งนี้ ได้เชิญวิทยากรในระดับประเทศที่เชี่ยวชาญการพัฒนางานบริการปฐมภูมิ คือ นพ.วรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย มาบรรยายเรื่องการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิในวันแรก ส่วนวันที่สองเป็นการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยทีมกระบวนกร รพร.ปัว นำทีมโดย นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ และทีมงาน
...............................................................
สาระสำคัญของเนื้อหาและกระบวนการเรียนรู้มีดังนี้
นพ.วรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย ได้บรรยายเรื่อง “การพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ” มีสาระสำคัญบางตอนว่า
“...การพัฒนาสุขภาพไม่ใช่ ๑+๑ เท่ากับ ๒...การพัฒนา PCA จึงไม่ใช่การพัฒนาคุณภาพอย่างเดียว.....การพัฒนา PCA ต้องเข้าใจ Concept และหลักการมันก่อน...นิยาม “คุณภาพ” คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด...”
“...PCA คือ การบรรลุถึงการสร้างให้เกิดสุขภาวะ
“...สิ่งที่ควรระลึกถึงคือ สุขภาวะถูกกำหนดโดยแต่ละบุคคล...เราเป็นเสี้ยวส่วนของการสร้างสุขภาวะ...”
“....เริ่มอย่างไร...ต้องเห็น พื้นที่จริง คนจริง ชีวิตจริง (กลับไปศึกษาแล้วนำมาเขียนชีวิตจริง แล้วดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้างจากชีวิตจริงนี้ แล้วนำ Case เหล่านี้ไปคุยกับ รพ.สต.อื่นๆ ลองทำ Social map คล้ายๆ แผนที่เดินดิน เชื่อมไปสู่ระดับอำเภอ ให้ชาวบ้าน/อสม.เพิ่มเติม แล้วเราจะเห็นทางออกว่า รพ.สต.เราจะต้องทำอะไรบ้างจากชีวิตจริงเรื่องนี้ ....สิ่งสำคัญคือการมองด้วยตาที่สดใหม่....”
Barier of learning and change “ดูแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน สัมผัสแต่ไม่รู้สึก ” คือ ไม่รับรู้ในสิ่งที่เห็น ไม่พูดในสิ่งที่คิด ไม่ทำในสิ่งที่พูด และไม่เห็นในสิ่งที่ทำ”
..........................................................................
กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันที่ ๒
เริ่มด้วยกระบวนการทักทาย แนะนำตัว บอกเ
ล่ากติกา และชมวิดิทัศน์ “แผ่นดินไทย” และสรุปสาระการเรียนรู้จากวิดิทัศน์
หลังจากนั้นเริ่มด้วยกิจกรรมสร้างความคุ้ยเคยเพื่ออุ่นเครื่อง ตามด้วยกิจกรรมทักษะการฟัง เริ่มโดยให้แต่ละคนพูดถึงความสุขของเราอยู่ไหนบ้าง...ทั้งในในอดีต ปัจจุบัน อนาคต...ให้เขียนคนละ ๓๐ ข้อโดยให้นั่งหลับตาทบทวนก่อน และห้ามรบกวนกัน จากนั้นเขียนความสุขและให้เลือกว่าความสุขข้อไหนคือสุดยอดแห่งความสุขที่คิดถึงเมื่อไหร่แล้วทำให้เรานั่งอมยิ้ม......
และให้แต่ละคนเล่าถึงความสุขที่สุดยอดนั้น...โดยทุกคนลุกขึ้นยืน หลับตาลง ลองเดินช้าๆไปเรื่อยๆ ไม่พูดคุยกัน หลังจากนั้นลืมตาเจอใครอยู่ข้างหน้าให้จับคู่ และกำหนดให้เป็นหมายเลข ๑ และหมายเลข ๒
และให้แต่ละคนเล่าถึงความสุขที่สุดยอดนั้น...โดยเริ่มจากเบอร์ ๑ก่อนและให้เบอร์๒ ทบทวน..และสลับให้เบอร์ ๒ พูด
เสียงที่อยากสะท้อนความรู้สึกของการฟัง
“...เป็นความรู้สึกที่มีต่อครอบครัว ..ฟังแล้วมีความสุขเพราะเขาเล่าแบบมีความสุข...”
“...การเขียนความสุขใช้เวลานานแต่การพูดใช้เวลาไม่กี่นาที..และสะท้อนมาไม่กี่นาที...”
“...ความสุขมีมากมายแต่เราไม่เลือกมอง..ความทุกข์มีมาก..ความสุขก็มีมากเช่นกัน..การฟังบางคนจะฟังเพียงบางประเด็นและเก็บเอาเพียงบางประเด็น..โดยความรีบเร่ง..แต่ถ้าเราฟังอย่างตั้งใจและเก็บเอามากจะทำให้เราเก็บทุกอย่างได้มากขึ้น...”
หมอกิติศักดิ์ “...เราเคยฟัง-เล่าความสุขให้คนใกล้ชิดฟังหรือเปล่า..เราจะเล่าแต่ปัญหา..ยิ่งฟังยิ่งทุกข์ แต่เราไม่ค่อยเล่าความสุขโดยเฉพาะการฟังผู้ป่วย...ยกตัวอย่างการฟังผู้ป่วยที่มาตรวจโดยอาการปวดศีรษะ ฟังผู้ป่วยเล่า ๑0 นาที ทำให้ทราบสาเหตุของความเจ็บป่วย..และผู้ป่วยบอกว่า..หมอฟังผู้ป่วยทุกคนหรือเปล่า..วันนี้ผมมีความสุขมากที่มีคนฟังเรื่องของผม..เพราะไปมาหลาย รพ.แล้วไม่มีคนฟังผมเลย....สรุปว่าเราลืมความสุขหรือเปล่า..เราลืมเล่าความสุขของเราหรือไม่...”
กิจกรรมเล่าเรื่องความสุข โดยเข้ากลุ่มแบ่งรายอำเภอ
หมอกิติศักดิ์ “...ถ้าเราเงียบเราจะได้ยิน..ถ้าเราไม่เงียบจะไม่ได้ยิน..และให้เล่าการทำงานที่มีความสุขและให้ฟังอย่างลึกซึ้ง...”
หลังจากนั้นได้สรุปความสุขการทำงานเป็นรายอำเภอ..และให้ตัวแทนเล่าบางอำเภอ
อ.เวียงสา
“ความสุขจากการเป็นวิทยากร, การทำงาน”
“เปลี่ยนชีวิตคนจากคนพิการที่ท้อแท้มาเป็นคนทำงานที่สามารถสร้างฐานะตนเองและดูแลคนในครอบครัวได้/เห็นรอยยิ้มของผู้ป่วย”
“ความสุขที่ชุมชนเอื้ออาทรโดยไม่คำนึงถึงผูกพันสายเลือด”
“ความสุขที่ชุมชนให้ความร่วมมือในการทำงาน/มีของมาฝากตลอด/ทีมงานเข้าใจกัน”
“ความสุขได้ดูแลผป.เรื้อรังที่ถ่ายไม่ออกแล้วล้วงอุจจาระให้จนผป.ถ่ายออกมามาก..ทำให้มีความสุขมาก/การดูแลผป.ฉุกเฉินให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤต”
“ความสุขที่ได้ดูแล/บริการผป.มาก ไม่เกี่ยวกับKPI เพราะรู้สึกเป็นทุกข์”
“ได้รับความไว้วางใจจากชุมชนและท้องถิ่น”
“ทำงานคำนึงเป้าหมาย..และความสุขของประชาชน”
อ.เมือง “ทำงานอยู่ห่างไกลโดยมีชุมชนช่วยดูแลทำให้การทำงานมีความสุข/เรียนรู้ตลอดชีวิต”
อ.สันติสุข “ทำงานด้วยใจไม่ยึดเงินเป็นที่ตั้ง มีอุดมการณ์ในการทำงาน คิดบวกในการทำงาน ผป.มานอกเวลา คิดว่าเขาไม่ว่างต้องไปทำงานแต่เช้าจึงทำให้มีความสุข, เอาใจเขามาใส่ใจเรา, คนไข้ถูกเสมอ”
อ.ท่าวังผา “ผู้บังคับบัญชาดีเข้าใจและใส่ใจการทำงานงานบรรลุเป้าหมาย, มีการทำงานเป็นทีม, ทานอาหารกลางวันด้วย, มีสภากาแฟ, สิ่งแวดล้อมที่ดี”
.......................................................
กิจกรรมขายฝัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เราจะทำอะไร เมื่อกลับไป รพ.สต.ของเรา ที่จะทำให้งานได้ผล คนมีความสุข” แบ่งกลุ่มๆ ละ ๕ คน
๑) ให้ทุกคนนึกถึงการทำงานในการพัฒนา รพ.สต. เราอยากจะทำอะไรเมื่อเรากลับไปที่ รพ.สต.ของเรา เพื่อดูว่ากระบวนการทำงานเป็นทีมใน รพ.สต. ที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จและทีมงานเป็นสุข ให้แต่ละคนเขียนความคิดเห็นของตนเองลงบนกระดาษเอ ๔ แล้วให้แต่ละคนเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
๒) ให้แต่ละคน นึกถึงการต่อยอดจากความฝันที่เราอยากทำ อยากเห็น อยากให้เกิดขึ้นใน รพ.สต.ของเรา เราจะต้องทำอะไรเพื่อการต่อยอดจากงานเดิมที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน ให้แต่ละคนเขียนความคิดเห็นของตนเองลงบนกระดาษเอ ๔ แล้วให้แต่ละคนเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
๓) ทุกคนในกลุ่มช่วยกันสรุปประเด็นที่ได้ฟังจากเพื่อนในกลุ่มลงบนกระดาษชาร์ท แล้วนำเสนอให้ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
.....................................................................
กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นอกจากได้ความสุข สนุกสนาน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมองของแต่ละคน แต่ละพื้นที่แล้ว ยังได้เห็นความคาดหวัง ความปรารถนา และความมุ่งมั่นของนักปฏิบัติการมืออาชีพที่อยากให้ รพ.สต.มีการพัฒนาไปสู่การสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนได้อย่างแท้จริง
.................................................................
ขอบคุณวิทยากรและกระบวนกรทั้ง ๒ วัน
ขอบคุณคนต้นเรื่อง นักปฏิบัติมืออาชีพที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ขอบคุณลมหายใจ รอยยิ้ม และมิตรภาพ
ที่น่าน มีจุดแข็งที่การจัดการทรัพยากรที่จำกัด ให้เกิดคุณค่าสูงสุด ถ้าหากสืบสานเรื่องราวน่าน มีKM และPCA มาแสนนาน เพียงแต่ไม่มีชื่อเรียกเก๋ๆๆแบบปัจจุบัน แม้แต่ รพ.สต. รากเหง้าของงานพัฒนาระบบ สอ. เขาทำมานาน พอกิจการหรือนโยบาย ใดๆๆเข้ามา สามารถรับมือได้หมด หรืออาจเรียกงานที่เข้ามานั้นว่าเป็นโอกาสใหม่ๆให้ได้ปรับโฉมตามโลกาภิวัฒน์ หรือเรียกว่าEventก็ว่าได้ ทำให้บางเรื่องราวเกิดการตื่นตา ตื่นใจ แต่ไงเสีย น่านก็ยังเป็นน่านอย่างยั้งยืน บนจุดแข็งที่ว่า "น่านทำอะไรต้องคุยกันก่อน......."
เยี่ยมจริงๆ