กาละ-เทศะ-นิวซีแลนด์ ๖๔: แลกเปลี่ยน


แลกเปลี่ยน

โลกของเราจะน่าอยู่แค่ไหน

ถ้าคนแปลกหน้าผู้หิวโหย จะมีอาหารตกถึงท้องในบ้านหลังแรกที่เขาไปถึง

ถ้านักเดินทางผู้อ่อนล้า จะมีที่นอนสะอาดสะอ้านได้ พักกายในบ้านหลังถัดไป

ถ้าผู้มาเยือน จะนั่งคุยกับเจ้าของบ้านอีกหลังด้วยมุมมองต่างกันอย่างเปิดใจ

ถ้าผู้รับกลับไปเปิดประตูบ้านของตน ต้อนรับผู้อื่น อย่างผู้ให้ต่อไป

โดยไม่ต้องพึ่งพา..เงินตรา

  วางานูอี
  ๓ เมษายน ๒๕๕๑

๓ เมษายน ๒๕๕๑  ๑๑.๑๘ น.
วางานูอี เกาะเหนือ นิวซีแลนด์


   คีธกับอลิสันจัดโปรแกรมสำหรับวันนี้ให้ผมทั้งวันแล้ว เริ่มจากหลังรับประทานอาหารเช้า คีธจะเป็นคนพาผมนั่งรถไปเที่ยวชมตัวเมืองวางานูอี (Wanganui)* ก่อนจะกลับมารับประทานอาหารเที่ยงที่บ้านกับคุณหมอโจนาธานและภรรยา คุณหมอที่ทำงานในฮอสพีสหรือสถานดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับอลิสัน ในช่วงบ่ายคุณหมอโจนาธานจะพาผมไปดูฮอสพีสที่เขาทำงาน ตกเย็นคีธกับอลิสันจะพาผมไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดลูกชายคนโตที่ร้านอาหารในเมือง

   เจ้าของบ้านตั้งใจเป็นธุระให้ถึงขนาดนี้ ผู้มาเยือนอย่างผมจะนิสัยเสียปฏิเสธเขาไป โดยบอกว่ามีโปรแกรมท่องเที่ยวของตัวเองแล้วนะหรือ มันก็เกินไปนะครับ ผม เคยผิดพลาดเรื่องนี่กับมารีที่อินเวอร์คาร์กิลมาแล้ว จะไม่ทำผิดซ้ำอีก ความจริงผมต้องขอบคุณทั้งคู่อย่างแรงด้วยซ้ำ กับโปรแกรมพิเศษสุดแบบนี้ ส่วนเรื่องเที่ยวเอาไว้ทีหลัง

   หลังอาหารเช้า คีธพาผมบุกเข้าไปในห้องส่วนตัวของเขา เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์แนะนำผมเกี่ยวกับการดูภาพขุนเขาตารานาคีแบบเรียลไทม์ ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ วันนั้นมีแต่เมฆปกคลุมพื้นที่เต็มไปหมด มองไม่เห็นตัวภูเขาเลย คีธบอกว่า ถึงจะขับรถไปถึงที่ ก็อาจจะไม่เห็นอะไรเท่าไร  ส่วนผมก็สอนเขาเรื่องการใช้โปรแกรมกูเกิลแมป ดูคีธเขาชอบอกชอบใจมันเป็นพิเศษ เขาพูดติดตลกว่า ถ้าเขายืนอยู่นอกบ้านตอนดาวเทียมถ่ายภาพก็จะเห็นหัวเขาด้วย

   หลังหนุ่มสองวัยแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกันจุใจแล้ว ถัดจากนั้น ผมก็ได้ไปนั่งลอยหน้าลอยตาตรงที่นั่งข้างคนขับในรถของคีธ ที่พาผมชมตึกรามบ้านช่องยุควิคตอเรียในเขตเมือง ตามสองภาพข้างล่างนี้ ทำให้ผมเพิ่งจะคิดออกว่า เวลานั่งรถเที่ยวแบบมีคนขับรถให้ มันสบายกว่าแบบต้องขับรถเองแค่ไหน

๓ เมษายน ๒๕๕๑  ๑๑.๑๒ น.
วางานูอี เกาะเหนือ นิวซีแลนด์

   คีธพาผมแวะไปที่สำนักงาน i Site ประจำวางานูอี เพื่อช่วยผมหาที่พักในคืนวันถัดไปในเขตอุทยานแห่งชาติตองารีรอ เจ้าหน้าที่อาวุโสของที่นั่นเป็นเพื่อนกับคีธ จึงช่วยผมเลือกที่พักได้ทั้งถูกใจและถูกกระเป๋า

   ออกจาก i Site คีธขับรถพาผมข้ามสะพานแม่น้ำฟางานูอี (Whanganui River)*ไปฝั่งตะวันออกของเมืองเพื่อขึ้นเขาดูรี (Durie Hill) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอยอนุสรณ์สงคราม (War Memorial Tower) หอคอยสูงที่สามารถขึ้นลิฟท์หรือบันไดวนไปชมทิวทัศน์ของเมืองและบริเวณใกล้ เคียงได้อย่าง ๓๖๐​ องศา ตามภาพข้างล่าง

๓ เมษายน ๒๕๕๑  ๑๑.๒๑ น.

หอคอยอนุสรณ์สงคราม วางานูอี เกาะเหนือ นิวซีแลนด์

   จากบนหอคอย จะมองเห็นตัวเมืองวางานูอี แม่น้ำฟางานูอี และในวันที่อากาศดี ทัศนวิสัยดี ก็จะเห็นขุนเขาตารานาคีด้วย พอรู้อย่างนี้ เจ้าบันไดวน ๑๗๖​ ขั้นก็ไม่เป็นอุปสรรคกับผมเลย แต่พอขึ้นถึงบนยอด ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คีธทำนายไว้จากข้อมูลในคอมพิวเตอร์ คือ ทางตะวันตกฟ้าไม่เปิด จึงไม่เห็น..ขุนเขาที่หมายปองของผม ตามภาพและวิดิโอข้างล่าง เสียดายจัง

   เจอแบบนี้เข้า ขาลงบันไดผมถึงกับเข่าอ่อน หมดเรี่ยวหมดแรงไปเสียเฉยๆ

๓ เมษายน ๒๕๕๑  ๑๑.๑๗ น.

แม่น้ำฟางานูอี วางานูอี เกาะเหนือ นิวซีแลนด์


* วางานูอี (Wanganui) เมืองแห่งสายน้ำของเกาะเหนือ เพราะตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดับสามของประเทศ คือ แม่น้ำฟาคานูอี (Whanganui River) 

   ถึงตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อมันทำไม วาคาบ้าง ฟาคาบ้าง ซึ่งความจริงชื่อที่ถูกต้องในภาษาเมารีคือ ฟาคานูอี (Whanganui) มาจาก whanga=อ่าวจอดเรือ nui=ใหญ่ เมืองแห่งท่าเรือใหญ่ เพราะตามตำนานของคูเป (Kupe) วีรบุรุษคนสำคัญเล่าว่า หลังจากคูเปปราบอสูรกายปลาหมึกยักษ์ได้แล้ว ก็แล่นเรือสำรวจรอบเกาะใต้ ก่อนจะกลับมาที่ฝั่งตะวันตกของเกาะเหนือนี้อีกครั้ง ที่ตรงปากแม่น้ำสายนี้ เขาเจอกับพายุเข้า เลยต้องเอาเรือหลบพายุในอ่าวเสียก่อน จึงเป็นที่มาของชื่อเมือง ส่วนหน้าผาริมปากแม่น้ำที่มีคลื่นลมแรงนั้น ได้ชื่อว่า เต คาอีฮาอู ออ คูเป (Te Kaihau o Kupe) มาจาก kai=กิน hau=ลม หมายถึง ที่ที่คูเปมานั่งกินลม

   ปัจจุบันมีความพยายามจะเปลี่ยนชื่อเมืองให้ถูกต้องตามที่มา เป็น ฟางานูอี (Whanganui) อันนี้ก็ทำให้คิดถึง สาทร-สาธร แคราย-แคลาย ล้านนา-ลานนา ของบ้านเรา

หมายเลขบันทึก: 441222เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2011 21:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะคุณหมอ

พี่คิม  เดินทางถึงพังงาวันที่ ๑ มิถุนายนค่ะ  จัดค่ายวันที่ ๒-๔ ค่ะ  และเดินทางกลับวันที่ ๕ ค่ะ

กรุงเทพ-ภูเก็ต  ต่อรถไปพังงา  โรงเรียนบ้านเกาะหมากน้อย  ตำบลเกาะปันหยีโรงเรียนที่มีเด็ก ๆ เตะบอลกลางทะเลค่ะ  ถูกใจมากค่ะ

อ่านบันทึกถึงคุณหมอ  ตอนขึ้นต้นนึกถึงคุณย่าค่ะ สอนว่า "อาหารมื้อเย็น อันไหนพอทานได้ ให้เก็บใส่ตู้ไว้ก่อน  หากใครเผลอไผลมากลางค่ำ กลางคืน จะได้มีไว้ให้เขาทาน"ค่ะ

และการปฏิเสธความหวังดี พี่คิมเคยค่ะ  ทำให้จำมาจนทุกวันนี้ "ถูกเพื่อนฝรั่งต่อว่า  หากเกรงใจต้องรับความปรารถนาดีจากเขาด้วย"

ความต่างวัฒนธรรมค่ะ

Ico48

  • สวัสดีครับพี่คิม อย่าลืมถ่ายรูป สนามบอลลอยน้ำ มาฝากด้วยนะครับ
  • เรื่อง การต้อนรับแขก ผมเคยคิดว่าคงยาก แต่พอได้มาอ่านเรื่อง การเดินเท้าจากเชียงใหม่ถึงสมุยของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ แล้ว เชื่อเลยครับว่า สังคมไทยเรายังมีอะไรดีๆอีกแยะ แต่เรื่องราวแบบนี้ไม่ค่อยเป็นข่าว เพราะขายไม่ออกครับ

สวัสดีค่ะ

มีข่าวการจัดค่ายมาฝากค่ะ http://www.gotoknow.org/blog/bangheem/439941?refresh_cache=true

หนังสือของอาจารย์ประมวลพี่คิมอ่านวางไม่ลง แบบไม่อยากให้จบง่าย ๆค่ะ  ส่วนหนังสืออื่น อ่านแล้วอยากให้จบโดยเร็ว

หลังจากอ่านแล้ว พี่คิมเปลี่ยนตัวเองได้เยอะค่ะ  คืออะไรก็ได้ ไม่เป็นปัญหา  ไม่รีบร้อน ไม่ร้องขอจากใครและเป็นผลให้งดใช้โทรศัพท์แล้วด้วยค่ะ

หลายบันทึกดีมาก ๆ ในนี้ แต่ไม่มีคนอ่าน ไม่มีคนเม้นท์ให้กำลังใจ  ทั้งๆที่เป็นเรื่องมีคุณค่า  เช่นเดียวกันค่ะ

อยากสัมภาษณ์นักบอลทั้งชุดค่ะ

Ico48

  • ต้องสารภาพครับว่า ผมเห็นหนังสือมานาน แต่เพิ่งจะได้อ่านเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง หลังจากได้คุยกับอาจารย์สั้นๆ ตอนท่านมาบรรยายที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • พออ่านแล้ว ผมวางไม่ลงเลย อ่านรวดเดียวจบในคืนเดียว แล้วก็ยังวางหนังสือไว้หัวเตียง ไว้อ่านแบบละเลียดต่ออีกเรื่อยๆ เป็นหนังสือที่ต้องอ่านแล้วคิดตาม มันคือหลักธรรม ที่ไม่ใช่ทฤษฎีที่เอาไว้พูดให้ดูดี เท่านั้น
  • ว่าจะเขียนบันทึกถึงผลกระทบของหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกันครับ

Ico48

  • ผมไม่รับประทานกาแฟครับ แต่ขนมสีสันสุดสวยนี่ น่ารับประทานมากเลยครับ

เสาร์สวัสดีค่ะอาจารย์หมอเต็ม

ชอบคำโปรยอีกแล้วค่ะ เคยคิดฝันไว้ตั้งแต่วัยเด็กว่า อยากให้คนเราสามารถเดินทางไปที่ไหนๆ ก็ได้ทั่วโลกอย่างอิสระเสรี โดยมิต้องมีเงื่อนไข รึต้องระแวดระวังอะไรมากมาย ปูเคยมีประสบการณ์ตรงที่พบเจอเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น หากแต่พออ่านบันทึกอ.หมอ ได้เจอเจ้าของบ้านใจดี หลายๆ รายอย่างเส้นทางนี้แล้ว ก็ได้เพียงหวังว่า คงจะได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ เช่นนี้บ้างจัง .. ฝันดีนะคะ

  • เคยคิดว่า มันเป็นเรื่องในอุดมคติ แต่พอได้อ่าน การเดินเท้าจากเชียงใหม่ถึงสมุยของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ แล้ว ชอบมากครับ

สวัสดีค่ะท่านอาจารย์หมอเต็ม

มาส่งความระลึกถึง ด้วยอ.ห่างหายไปนานๆ มากๆ

นำภาพ สวนแม่ฟ้าหลวง มาแลกเปลี่ยน รอท่านไกด์กิติมศักดิ์ ทริปหน้าอีกนะคะ ระลึกถึงด้วยจิตคารวะ ... poo @ armchair traveller :)

Ico48

  • กลับมารายงานตัวแล้ว ครับผ้ม
  • แต่ก็ไม่รู้จะผลุบๆโผล่ๆอีกแค่ไหน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท