บทเรียนจากโรงเรียนวอลดอร์ฟ : main lesson (๑)


 

How they can learn Waldorf Education?  เป็นคำถามที่ก่อให้เกิดการอบรม ATT – Asian Teacher Training นับตั้งแต่ปี 2002 จนกระทั่งปัจจุบันนับเป็นครั้งที่ 10 แล้วที่มีการอบรมการเรียนการสอนแนววอลดอร์ฟให้กับครูชาวเอเชีย

 

ในเช้าวันแรก คุณครูอันนาคิน เล่าถึงกำเนิดของศิลปะ  “Origin of the Art” ที่รูดอร์ฟ สไตน์เนอร์ เล่าไว้ในปี ค.ศ.1928  ให้พวกเราฟังเพื่อสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจให้เราเข้าใจเรื่องราวของศิลปะในแบบที่คุณครูของโรงเรียนวอลดอร์ฟรับรู้

 

วันหนึ่ง ในขณะที่ทุกๆ ที่กลายเป็นน้ำแข็ง หนาวเย็น มีความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นที่ชายฝั่ง  ความเลื่อนไหวนั้นเกิดจากร่างของผู้หญิงสองคนที่กำลังยืนอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งกำลังหนาวจนตัวสั่น ขณะนั้นพระอาทิตย์กำลังจะตก ส่วนอีกคนหนึ่งเมื่อมองเห็นแสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกก็พูดขึ้นว่า “ช่างเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามอะไรเช่นนี้ !”

 

“เธอคือศิลปะ” ผู้ส่งสารจากสรวงสวรรค์กล่าวออกมา เมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น

 

ในขณะของความรู้สึกที่จริงยิ่งกว่าความฝัน หญิงคนนั้นเห็นรูปร่างหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวไปมาด้วยท่าทีที่เศร้าโศก จากซ้ายไปขวา  จากข้างล่างขึ้นข้างบน  และจากข้างหน้าไปข้างหลัง

          “มนุษย์กำลังสูญเสียฉันไป และฉันไม่สามารถทำอะไรได้” รูปร่างนั้นกล่าว

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “รู้สึกถึงการเคลื่อนที่ของฉัน และรู้สึกไปกับฉัน” รูปร่างนั้นกล่าวตอบ

         

แล้วเธอกับรูปร่างนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้วยกันทุกทิศทาง และรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว  ร่วมรู้สึกเป็นเจ้าของในทุกพื้นที่ที่เคลื่อนไป กลายเป็นที่มาของร่ายรำ

 

อีกรูปร่างหนึ่ง เคลื่อนจากข้างบนลงข้างล่าง จากซ้ายไปขวา แล้วหยุด รูปร่างนั้นดูเศร้าสร้อย

          “ฉันมาจากสวรรค์ และกำลังขาดความเชื่อมโยงกับโลกมนุษย์” รูปร่างนั้นกล่าว

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “เธอช่วยเป็นฉันสักครู่หนึ่งเถิด” รูปร่างนั้นกล่าวตอบ

 

แล้วเธอกับรูปร่างนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้วยกันทุกทิศทาง  ทุกท่วงท่าล้วนมีความหมาย แสดงความรู้สึกที่มีต่อโลก ต่อชีวิต และต่อสรรพสิ่งทั้งมวล กลายเป็นที่มาของละครใบ้ ที่เรียกว่า pantomime

 

อีกรูปร่างหนึ่ง เคลื่อนไหวเป็นเส้น แล้วหยุดเป็นจุด และเคลื่อนไหวเป็นเส้นต่อไปอีก รูปร่างนั้นดูเศร้าโศก

“บ้านของฉันอยู่ที่เบื้องบน ฉันอยากจะมีที่ทางอยู่บนโลกนี้ด้วย” รูปร่างนั้นกล่าว

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “เธอช่วยเป็นฉันสักครู่หนึ่งเถิด” รูปร่างนั้นกล่าวตอบ

แล้วเธอกับรูปร่างนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้วยกัน จากเส้น กลายเป็นจุด เมื่อหยุดเคลื่อนไหว ร่างของเธอก็หยุดนิ่งราวรูปปั้น กลายเป็นที่มาของประติมากรรม

 

อีกรูปร่างหนึ่ง ปรากฏด้วยท่าทีที่เข้มแข็ง เคร่งขรึม รูปร่างนั้นประกอบกันเข้าได้สักประเดี๋ยวก็แตกสลายลงไปอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า  รูปร่างนั้นดูเศร้าซึม

“รูปทรงที่แท้จริงไม่มีอยู่ในโลกนี้” รูปร่างนั้นกล่าว

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “เธอช่วยเป็นฉันสักครู่หนึ่งเถิด” รูปร่างนั้นกล่าวตอบ

แล้วเธอกับรูปร่างนั้นก็รวมกันเข้า คงอยู่ได้เพียงชั่วขณะ แล้ก็แตกสลายลงไปอีก กลายเป็นที่มาของสถาปัตยกรรม

 

ในอีกขณะหนึ่งเธอรู้สึกได้ถึงความร้อน ความเย็น ความเศร้า ความสุข และสีต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์

          “ฉันมาจากสวรรค์ ฉันคือญาณหยั่งรู้” รูปร่างหนึ่งพูดขึ้น

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “รวมเธอเข้ากับฉัน” รูปร่างนั้นกล่าวตอบ

แล้วเธอกับรูปร่างนั้นก็รวมกันเข้า นำเสนอความคิดต่างๆ ออกมาเป็นสีที่หลากหลาย

กลายเป็นที่มาของทิวทัศน์ และความสามารถในการเล่าเรื่องราวด้วยสี  รำลึกถึงสิ่งที่ผ่านมาด้วยสี  จดจำความรู้สึกด้วยใบหน้า และสีสันที่แสดงความรู้สึก และสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกด้วยสี

 

อีกเสียงหนึ่ง ดังขึ้นใกล้ๆ “ฉันคือแรงบันดาลใจ” เสียงนั้นกล่าว

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

          “รวมเป็นหนึ่งเดียวกับฉัน เงียบและฟังสิ่งที่เราได้ยิน แล้วลองทำเสียงตามที่เธอได้ยิน เมื่อเธอทำเช่นนั้น เธอกำลังทำเสียงท่วงทำนองและจังหวะ” เสียงนั้นกล่าวตอบ

 

เสียงที่ดังขึ้นกลายเป็นที่มาของเสียงเพลง แล้วมนุษย์ทุกคนก็สามารถที่จะเป็นนักดนตรี และมีชีวิตอยู่ในโลกของจินตนาการต่อไป  เธอช่วยโลกนี้เอาไว้

 

          “ฉันอยู่ในสวรรค์ ดูก็ไม่เห็น ฟังก็ไม่ได้ยิน ฉันอยู่ระหว่างบทกลอน และเสียงเพลง ที่กระทำต่อกัน”

          “ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” หญิงคนนั้นถาม

การโต้ตอบของเสียงดังขึ้น

Author… author… who…who…

Ha…ha…ha….da…da…

Them…them…da…do…do…da…do…

เสียงที่ดังขึ้นได้ช่วยให้ศิลปะการละคร คำร้อง และบทกวี ยังคงดำรงอยู่กับมนุษย์ต่อไป

 

เมื่อตื่นขึ้นจากภวังค์  เธอได้ช่วยให้เพื่อนอีกคนที่กำลังจะแข็งและตายไป กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

 

หมายเลขบันทึก: 440614เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2011 10:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นบทเรียนที่น่าสนใจมาก นะครับ

ขอบคุณ ครับ

มาชื่นชมคนคุณภาพ   มีความงดงามเต็มเปี่ยมในจิตใจ......

สวัสดีค่ะเพิ่งศึกษา  วอลดอร์ฟ  อยากได้ข้อมูลหรือแหล่งข้อมูล แนวคิด กิจกรรมที่พอจะนำมาปรับใช้เองกับลูกที่บ้าน ขอบคุณคะ


ลองหาจากคำค้น  ครูอุ้ย  อนุบาลบ้านรัก  วอลดอร์ฟ และ ปัญโญทัย หมอพร นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท