ประชันความไพเราะของเพลงร้องทำนองไทย ค่ายสมาน vs. ค่ายสุนทราภรณ์ ตอนที่ ๑๔ ทำนอง “ลาวเฉียง” ระหว่างเพลง “ง้อรัก” กับ “ไฟรักในทรวง”


 

เพลงลาวเฉียง

 

เพลงลาวเฉียง ๒ ชั้น เป็นเพลงในตับลาวเจริญศรี ซึ่งประกอบด้วยเพลงลาวเล็กตัดสร้อย เพลงลาวเล่นน้ำ เพลงลาวกระตุกกี่ เพลงกระแตเล็ก เพลงดอกไม้เหนือ เพลงลาวเฉียง เพลงลาวครวญและเพลงลาวกระแซ คำว่า “ลาวเฉียง” หมายถึงมณฑลพายัพที่ตั้งขึ้นระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๒-๒๔๗๖ ประกอบด้วย ๖ เมือง คือ นครเชียงใหม่ นครลำปาง นครลำพูน นครน่าน แพร่ เถิน ตั้งที่บัญชาการมณฑล (ศาลารัฐบาล) ที่นครเชียงใหม่

 

 

เนื้อร้องเพลงลาวเฉียง ๒ ชั้น จากตับลาวเจริญศรี

พระลอเร่าร้อนในฤาทัย       จะเสด็จครรไลจากปรางค์ปรา

ด้วยความรักหนักอุรา         จะต้องยกโยธาไปหานาง

เมื่อถึงเวียงเข้าแล้วไซร้      คงจะได้สายใจมาแนบข้าง

ถึงตัวจะตายวายวาง           ก็ต้องไปหานางแก้วกัลยา

ตรัสสั่งพี่เลี้ยงให้เตรียมพล   เลือกล้วนแต่คนที่แกล้วกล้า

จะไปหาเพื่อนแพงสองกัลยา ก็ให้เตรียมโยธาในทันใด

สั่งแล้วบ่ช้าที                     ทรงเครื่องมณีงามวิไล

แต่พอได้ฤกษ์เบิกพลไกร     ก็ให้ยกทัพใหญ่ออกจากเวียง

 

 

เพลงง้อรัก

 

เพลงง้อรัก คำร้องโดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ ทำนองโดย สมาน กาญจนะผลิน ดัดแปลงทำนองเพลงลาวเฉียง ๒ ชั้น บันทึกเสียงครั้งแรกโดยชรินทร์ นันทนาคร และเพ็ญศรี พุ่มชูศรี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘

 

เนื้อร้องเพลงง้อรัก

“(ช) น้องพี่หมองหมาง เคืองระคางเรื่องไหนไหน หรือพะวงเฝ้าสงสัย เป็นฉันใดใจเจ้า

(ญ) ไหนว่าไม่ทิ้งให้น้องหงอยหงอย ไยน้องคอยพี่เหงาเหงา ใจน้องมีแต่เฉาเฉา คอยเหมือนเฝ้าคอยลม

(ช) โอ้เจ้ายอดหญิง มิใช่พี่ทิ้งให้ตรม พี่ห่างยอดชู้คู่ชม น้องเอยเหลือข่มเช่นกัน ทุกวันอาวรณ์

(ญ) ขอขอรักอย่าซ่อนรัก

(ช) จงประจักษ์รักพี่ใช่รักซ้อน

(ญ) ฟังคำน้องปลื้ม รักที่ว่าวอน

(ช) คลายความโกรธขอวอน เจ้ายิ้มยิ้ม

(ญ) แม้กลัวจะไม่ยอมให้พักตร์พริ้ม

(พ) ปลื้มเปรมเอมอิ่มพะนอรักกัน ทุกวันไม่จาง ทุกวันไม่จาง”

 

 

เพลงไฟรักในทรวง

 

เพลงไฟรักในทรวง เป็นเพลงร้องทำนองไทยของค่ายสุนทราภรณ์ คำร้องโดยธาตรี (วิชัย โกกิละกนิษฐ์) ทำนองโดยเอื้อ สุนทรสนาน ดัดแปลงทำนอง “ลาวเฉียง” ศรีสุดา รัชตะวรรณ รวงทอง ทองลั่นธม ชวลี ช่วงวิทย์ และวรนุช อารย์ เคยขับร้องร่วมกันมาก่อน 

 

เนื้อร้องเพลงไฟรักในทรวง

เมื่อดวงใจรักใคร รักยิ่งสิ่งใด ห่วงนักจักพะวง ด้วยใจลุ่มหลง ด้วยใจมั่นคงพะวงอาวรณ์

ดอกเอ๋ย... เจ้าดอกขจร จะทำฉันใดเขาจึงใจอ่อน เอ่ยคำอ้อนวอนรักเราสักครา

เมื่อดวงใจสมปอง หวานจริงเมื่อครองความรักปักอุรา เฝ้าคอยบูชา เฝ้าคอยรักษาทุกเวลาวัน

ดอกเอ๋ย... เจ้าดอกอัญชัน ห่างกันครั้งใดคะนึงใจสั่น นั่งนอนตื้นตันเพ้อครวญไม่วาย
เมื่อดวงใจพบลวง รักเอยเหน็บทรวงปวดนักรักเจ้าคลาย ปวดใจเจียนตาย ไม่มีวันหายฤทัยตรอมตรม

ดอกเอ๋ย... เจ้าดอกลั่นทม เพลิดเพลินเผลอตนหลงจนลงหล่ม เชื่อคำชื่นชมช้ำตรมอุรา

เบื่อดวงใจเหลือใจ ระบมอย่างไรไม่คิดจะระอา ต่างคนบูชา ต่างคนยังหารักมาเคียงใจ

ดอกเอ๋ย... เจ้าดอกมะไฟ ไม่มีพิษใดนั้นมายิ่งใหญ่ เท่าเทียมกับไฟรักในทรวงตน”

 

  • รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ดาวใจ ไพจิตร ศรวณี โพธิเทศ สุพรรณิกา ฉายาพรรณ http://www.youtube.com/watch?v=cTUCD3SnKDw
  • ศรวณี โพธิเทศ รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส จิตราภรณ์ บุญญขันธ์ และสุพรรณิกา ฉายาพรรณ http://www.youtube.com/watch?v=EGayVr7AIbs

 

วิพล นาคพันธ์

๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔

หมายเลขบันทึก: 440159เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2011 16:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท