ว้นสิ้นโลก พ.ศ. - ๔๐ ตอนความรู้ใหม่


วันสิ้นโลก

ดวงอาทิตย์ไม่เที่ยงโลกจึงสิ้น

                      
                      จากการศึกษาทางดาราศาสตร์พบว่า ดวงอาทิตย์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้แท้จริงแล้วมันไม่เที่ยง ตัวมันเองก็มีวันตายได้เหมือนกัน จากภาพข้างบน ดวงอาทิตย์เราตอนนี้มีอายุประมา ๔.๕ พันล้านปีมาแล้ว เรียกว่าอยู่ในช่วงวันกลางคน อีกประมาณ ๘ พันล้านปีข้างหน้า มันจะบวมขึ้นขยายตัวเต็มที่จนเป็น “ดาวแดงยักษ์” ที่สมบูรณ์ ต่อจากนั้นแกนกลางของดวงอาทิตย์ จะระเบิดออกเป็นฝุ่น “เนบิวลา” แล้วหดตัวลงเป็น “ดาวแคระขาว” ในอีก ๑ หมื่น ๔ พันล้านปี
                      ในระหว่างที่ดวงอาทิตย์กำลังเดินทางสู่จุดจบ มันได้สร้างอิทธิพลไว้ต่อดาวเคราะห์บริวารทั้งหลายเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากพฤติกรรมของดวงอาทิตย์ที่กำลังเดินทางเข้าสู่จุดดับสิ้น มันจะขยายตัวตลอดเวลา เพราะมวลของมันเมื่อถูกเผาไหม้ทำให้ตนเองมีมวลน้อยลงไป อำนาจของแรงโน้มถ่วงที่จะดึงรั้งเปลือกผิวนอกของตนเองที่เป็นก๊าซร้อนน้อยลงไปด้วย เปลือกนอกของดวงอาทิตย์มันจึงหนีห่างออกไป จึงดูเหมือนดวงอาทิตย์ขยายตัวออก
                      คาดว่าในอีก ๑ พันล้านปีจากนี้ไปโลกจะร้อนเป็นไฟ แหล่งน้ำบนโลกจะค่อย ๆ แห้งไปไล่ลำดับไปเริ่มตั้งแต่ แม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร ระเหยหมดตามลำดับ และเก็บไว้ในชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจกอย่างยิ่งยวด ยิ่งกว่าตอนนี้ที่เราเกรงกลัวกันมาก ต่อจากนั้นน้ำจะระเหิดออกนอกออกนอกชั้นบรรยากาศของโลก เข้าไปสู่อวกาศไม่กลับมาเป็นฝนอีกตามวัฏจักรของน้ำอีกต่อไป ผิวดินจะแห้งผาก เมื่อปราศจากน้ำ จากนิตย์สาร Scientific America [2]กล่าวว่า โลกในท้ายที่สุดจะถูกดวงอาทิตย์ดูดกลืนกิน
                      นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่าดวงอาทิตย์เมื่อขยายตัวเต็มที่ จนเป็นดาวแดงยักษ์บวมออกไปกินพื้นที่ถึงวงโคจรของดาวพฤหัส [3] ก่อนที่มันจะระเบิดออกเป็นดาวแคระขาวในเวลาต่อมาเมื่อดวงอาทิตย์จะกลายเป็นดาวแคระขาว (White Dwarf) ที่ล้อมรอบไปด้วยดาวเคราะห์ที่เหลือรอดจากการเผาไหม้ อาจจะกลายเป็นร้อย ๆ ดวง มีวงโคจรเหนือดาวอังคารขึ้นไป
                      นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่า เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มขยายตัว ดาวพุธจะถูกดูดเข้ารวมกับดวงอาทิตย์เป็นดวงแรก เพราะอยู่ใกล้ที่สุด ต่อมาเป็นดาวศุกร์ ซึ่งช่วงในระยะเวลาระหว่างนั้น ดวงอาทิตย์ยังคงขยายตัวเรื่อย ๆ ผู้เขียนจินตนาการว่าในช่วงนั้นโลกของเราคงไม่มีมนุษย์อยู่แล้ว โลกจะไม่มีวันมืดดวงอาทิตย์สลับกันขึ้นตลอดวัน

เราก็เป็นเช่นเขา

 
  
                      ปี ค.ศ.๑๙๙๒ ของ อเล็กซ์ โวลซาน (Alex Wolszczan) ค้นพบระบบสุริยะอื่น (Extra Solar System)ที่อยู่ภายในกาแลกซี่ทางช้างเผือก เช่นเดียวกับระบบสุริยะของเรา ระบบสุริยะนี้ยังคงมีดาวเคราะห์โคจรรอบพัลซ่านี้อยู่ (Pulsar คือ หมอกฝุ่นที่เกิดจากแกนกลางของดวงอาทิตย์ เมื่อมันขยายตัวเต็มที่แล้วได้ระเบิดออก แล้วยุบตัวลงกลายเป็นดาวแคระขาว) พัลซ่านี้ชื่อว่า “PSR B1257+12” [4] อยู่ห่างจากโลกประมาณ ๙๘๐ ล้านปีแสง มีดาวเคราะห์บริวารโคจรรอบดวงอาทิตย์ ๔ ดวง และสำรวจพบอีกว่าดาวเคราะห์บริวารเหล่านั้นได้ถูกเผาไหม้ ด้วยแรงระเบิดจากพลังงาน Supernova[5] ที่ระเบิดจากแกนกลางของมัน ก่อนที่ดวงอาทิตย์ดวงนั้นจะยุบตัว  จึงไม่น่ามีสิ่งมีชีวิตใด ๆ เหลืออยู่
                      การค้นคว้ายังคงมีต่อมาจนพบว่ามีดวงอาทิตย์ดวงอื่น ๆ ที่อยู่นอกระบบสุริยะเราอีกมากมาย ในกาแลกซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) เช่น ระบบสุริยะ Gliese 876[6] ซึ่งอยู่ห่างจากโลก ๑๕ ปีแสง , 51Pegasi (๔๒ปีแสงจากโลก), 55 Cancri (๔๓ปีแสงจากโลก), Upsilon And (๕๒ปีแสงจากโลก),70 Virginis (๗๘ ปีแสงจากโลก) ระบบสุริยะพิเศษ HD 188753 (๑๔๙ ปีแสงจากโลก)
                      ระบบสุริยะที่ค้นพบเหล่านี้ต่างมีดาวบริวารเป็นจำนวนมาก  ดวงอาทิตย์บางดวงอยู่ในช่วงที่เป็นดาวแดงยักษ์ บางดวงกำลังใกล้ดับ และจากการศึกษาดาวเคราะห์ที่เป็นบริวารของดาวแดงยักษ์เหล่านี้ พบว่ามีสภาพไม่ต่างอะไรกับผิวดินที่ถูกเผาอย่างรุนแรง และคาดว่ายังมีคงร้อนระอุอยู่  นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าระบบของเราน่าจะเป็นแบบนั้น และเราอาจจะไม่ใช่เป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวในจักรวาลนี้ต่อไป ซึ่งต่อนักวิทยาศาสตร์พบดาวเคราะห์ดวงหนึ่งชื่อ WASP -12b[7] ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะหนึ่งของกาแลกซี่ทางช้างเผือกเรานี้เอง มันโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ที่เป็นศูนย์กลางของระบบนั้นห่างกันประมาณ ๒ ล้านไมล์ กำลังถูกดวงอาทิตย์ที่เป็นแม่ข่ายดูดเข้าหา

[1] Doug L. Hoffman & Allen Simmons. The Resilient Earth: Science, Global Warming, and the Future of Humanity Copyright © 2008, page 110, Original image from NASA.
[2] http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=the-sun-will-eventually-engulf-earth-maybe
[3] Joseph Silk, The Infinite Cosmos (New York: Oxford Press, 2006), p.164. 
[4] Chris Salter. Radio Astronomy Highlights, National Astronomy and Ionosphere Center Arecibo Observatory, Number 33, New letter in October 2001.
[5] ซูเปอร์โนวา หรือ “มหานวดารา”  เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ระเบิดที่มีพลังมากที่สุดที่รู้จัก คือเป็นการระเบิดของดาวฤกษ์มวลมากเมื่อสิ้นอายุไขแล้ว จะเปล่งแสงสว่างมหาศาลและระเบิดออกรัศมีสว่างวาบเป็นรัศมีเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเลือนจางลงในเวลาสัปดาห์หรือเดือนเท่านั้น 
[6] http://apod.nasa.gov/apod/ap980626.htm. April 22, 2010.
[7]  http://hubblesite.org/newscenter/archive/releases/2010/15/image/a/
คำสำคัญ (Tags): #วันสิ้นโลก
หมายเลขบันทึก: 439374เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2011 03:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2012 18:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท