หลายครั้งที่เจอผู้ป่วยวัยรุ่นมาที่ER
ด้วยอาการหายใจเหนื่อยหอบใจสั่น
บางรายแน่นหน้าอก
บางรายเกร็งมือจีบร่วมด้วยที่หนักกว่านั้นบางรายจะดิ้นกรีดร้องร่ำไห้เสียงดัง
ทำให้ERตอนนั้นดูเล็กและคับแคบไปถนัดตา
สิ่งแรกที่ต้องทำคือแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยอื่นอย่างแรกเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยหนักรายอื่นไม่ให้ดูวุ่นวายจากเสียงกรีดร้อง
อย่างที่สองเพื่อให้ผู้ป่วยที่มีภาวะเครียดได้อยู่ในมุมที่เงียบและเป็นสัดส่วนไม่มีเสียงอื่นๆมากระตุ้นให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น
สิ่งสำคัญคือท่าทีที่ผ่อนคลายเป็นมิตรการสร้างสัมพันธภาพและความไว้วางใจของตัวเรา
ผู้ที่จะให้การดูแลจะทำให้เขารู้สึกว่ามีคนที่พร้อมช่วยเหลือและรับฟังความทุกข์หรือสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของเขา
การสอนให้หายใจอย่างช้าๆจะช่วยลดอาการหายใจเร็วถี่นั้นได้ดีและดึงความสนใจมาอยู่ที่การหายใจเข้า-หายใจออกของตัวเขาเอง
ส่วนอาการเกร็งและมือจีบก็จะค่อยๆทุเลาลงตามมา
จากประสบการณ์การทำงานของตัวฉันพบว่าเด็กผู้หญิง วัยรุ่นมักมีอาการ Hyperventilation Syndrome มากกว่าผู้ชายและเกินครึ่งเป็นความเครียดและกดดันเรื่องแฟนและก็มีปัญหาทะเลาะกับเพื่อน น้อยรายจะเกิดจากปัญหาครอบครัว สภาพสังคมกับชีวิต ความเป็นอยู่ในปัจจุบันอาจทำให้พ่อแม่ต้องทำมาหากินไม่มีเวลาพูดคุยหรือให้คำปรึกษากับลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมากนัก เด็กๆส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเพื่อนหรือแฟนมากกว่าพ่อแม่
ที่แน่ๆฉันผ่านชีวิตการเป็นวัยรุ่นมาก่อนและฉันก็มีลูกๆวัยรุ่น 2 คนประสบการณ์ทำให้ฉันมีโอกาสรับรู้และเข้าใจปัญหาของพวกเขาเหล่านั้นแม้จะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม
ทำอย่างไรที่จะให้เข้าถึงจิตใจเราคงต้องฝึกฝนและเรียนรู้ด้วยตัวเราเองเมื่อเขาได้พูดเปิดใจระบายความรู้สึกออกมาเราก็จะเป็นเพียงคนรับฟัง
แม้ว่าจะใช้เวลาไม่มากหรือว่าสุดท้ายจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรมากไปกว่าการให้สติและใช้เทคนิคการให้คำปรึกษาเบื้องต้น
บางทีอาจเป็นหนทางที่ดีให้เด็กเหล่านั้นเลือกเดินหรือเลือกเผชิญกับปัญหาของตนเองในทางที่ถูกที่ควร
เมื่อครั้งที่ไปwork shop อาจารย์สอนไว้ว่า “การช่วยคนไม่ใช่การไปเปลี่ยนตัวตนของเขาต้องให้เขาเปลี่ยนวิธีคิดด้วยตัวของเขาเองหน้าที่ของเราคือการทำให้เรื่องราวที่เขาเห็นมันเด่นชัดขึ้นไม่จำเป็นต้องรู้มากกว่าเขาศรัทธาอยู่ที่มุมมองของเขาดึงจิตวิญญาณ ตัวตนของคนคนนั้นขึ้นมาให้รู้ว่าเขาทำได้” และทุกครั้งที่ได้มีโอกาสได้ช่วยเท่ากับฉันได้เรียนรู้การคิดเชิงบวกไปด้วยเช่นกัน
ใครสักคนที่เป็นมิตร เท่านี้แหละ สำหรับคนที่กำลังแย่
ชีวิตคนเราก็มี"กายกับจิต" ......จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว.......ทำอย่างไรจะทำให้"จิต"ที่หลงไปนั้น กลับมาอยู่ในสภาพปกติ บุคลากรสุขภาพมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมี "สติ" สำหรับการดึง"จิต" ที่หลงไปนั้นกลับมา.... ถือว่าเป็นกุศลนะ ขอเป็นกำลังใจให้ทำต่อนะ เรื่องดีๆแบบนี้
ขอบคุณกับคำแนะนำดีๆ นะครับ