ไปอินเดีย : 4. พิธีแต่งงานแบบเตลูกู


    เช้าวันที่ ๒๘ กค. ๔๙ เป็นวันศุกร์ผมตื่นด้วยนาฬิกาปลุกธรรมชาติ คือเสียงกา  กาเหว่า   กับนาฬิกาปลุกศาสนา คือเสียงร้องเรียกคนมุสลิมไปละหมาดที่มัสยิด     เสียงร้องเรียกคนมุสลิมดังกว่าปกติเพราะเป็นวันศุกร์

     ผมดีใจมากที่ฝนตกพรำเพียงเล็กน้อย    จึงออกไปวิ่งในแคมปัสของ NISIET (National Institute of Small Industry Extension & Trainig) เพื่อออกกำลังกายและสำรวจสถานที่ไปในตัว

    สถานที่คล้ายๆ วิทยาเขตในมหาวิทยาลัย    มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มมาก    พื้นที่ทั้งหมดน่าจะสักร้อยไร่    มีอาคารศูนย์ฝึกอบรม 2 หลัง   คืออาคารเก่ากับอาคารใหม่    และมีบ้านพักของอาจารย์  และ  อาคารรับรองอย่างที่เรามาพักอยู่นี้    เปรียบเทียบกับวิทยาเขตหาดใหญ่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ผมเคยอยู่แล้ว  ของเราดีกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

    ไฮเดอราบัดมีพลเมืองมุสลิมกับฮินดูอย่างละครึ่ง    และมีการกระทบกระทั่งกันเสมอ    บางครั้งถึงกับฆ่าฟันกัน    มีครั้งหนึ่งกลุ่มคนมุสลิมรวมตัวกันสำรวจรถเมล์    ลากผูชายลงไปจากรถ    จับแก้ผ้าสำรวจไอ้จู๋ว่ามีรอยขลิบหรือไม่    ถ้ามี เป็นมุสลิม - ตาย

    สภาพบ้านเมืองของอินเดียคือคนมาก   รถติดและขับกันแบบขวักไขว่ ไม่มีระเบียบในสายตาเรา    แต่ก็คงต้องถือว่ามีระเบียบแบบเขา คือเขารู้กัน    รถไม่ค่อยชนกัน และเขาก็ยอมรับพฤติกรรมซึ่งกันและกัน   แม้ถนนบางสายมีเส้นแบ่งเลน   คนขับรถก็ไม่ถือกฎเรื่องเลน     สถานที่โดยทั่วไป ไม่สะอาด    ผมสังเกตว่าถนนของเขาส่วนใหญ่  รวมทั้งเส้นที่ผ่าน NISIET ไม่มีระบบระบายน้ำ   ในเมืองมีขยะและระบบจัดการขยะไม่ดี

    พิธีต้อนรับทำพิธีมงคลแก่เจ้าสาวเริ่ม 8.00 น. ใช้ห้องพักของป้าอี๊ดกับต้องเป็นสถานที่ทำพิธี     คงจะสมมติว่าเป็นบ้านเจ้าสาว    ญาติๆ สนิทของพ่อแม่เจ้าบ่าวมากันประมาณ 20 - 30 คน    เขามีชาด  ขมิ้น  และเมล็ดข้าวสีเหลือง  เอามาทาหว่างคิ้ว  แก้ม 2 ข้าง และคาง   ส่วนเมล็ดข้าวเอาโรยศีรษะ     เป็นการชะล้างจิตใจให้สะอาดผ่องใส    เจ้าสาวจะก้มลงเอามือแตะเท้าพ่อแม่เจ้าบ่าว พ่อแม่ตนและญาติผู้ใหญ่     เป็นการแสดงความเคารพอย่างเป็นพิธีการ

     ญาติเจ้าบ่าวฝ่ายหญิงเป็นผู้แสดงบทเด่นในพิธี   หลังจากนั้นเป็นการจุดไฟการบูรในถาด  เอามาวนตรงหน้าเจ้าสาว  และฝ่ายหญิงร้องเพลงอวยพร     พิธีเหล่านี้สังเกตว่าเขาก็ไม่ได้ทำกันบ่อย   คนส่วนใหญ่ไม่รู้ขั้นตอน     คงแบบเดียวกับการไหว้พระของไทย 

     ในช่วงนี้เจ้าสาวแต่งชุดง่ายๆ เตรียมเลอะ    เสร็จแล้วเจ้าสาวอาบน้ำแต่งตัว    พี่ๆ แม่ และป้าจากเมืองไทยไปช่วยกัน    แต่งชุดส่าหรีสีชมพู ซึ่งสวยมาก 

        ใต้ (มุขยา) ในชุดส่าหรีสีชมพู    ทำให้ผมนึกในใจว่าลูกสาวเราสวยเหมือนกันแฮะ    ต่อไปก็เป็นขั้นตอนให้ช่างกล้องวิดีโออาชีพ (2 กล้อง) และกล้องภาพนิ่ง 1 กล้อง     กับช่างกล้องมือสมัครเล่น วิดีโอ - ต้อง  กับกล้องภาพนิ่ง - ผม  ถ่ายกันแบบไม่ยั้ง   ถอนทุนที่ซื้อกล้อง Canon EOS 30D โดนต้ม 

    พอ 10 โมงก็ไปกินอาหารแบบอินเดียใต้ที่โรงอาหาร     อาหารแป้งอย่างหนึ่งคล้ายขนมถ้วยฟู ชื่อ อิ๊ทลี่  อีกอย่างหนึ่งคล้ายโดนัททอด ชื่อวาดา  กินกับน้ำจิ้ม  สีขาวอย่างหนึ่ง  สีเหลืองอย่างหนึ่ง และผงปรุงรสสีเขียวอ่อน   เขาบอกชื่อแต่เราจำไม่ได้สักชื่อเดียว 

     มีการพูดหยอกล้อกัน    ว่าหลานสาวคนสวยของแม่มูราลี่ น่าจะเหมาะกับลูกชายเรา     คนอินเดียชอบสนุก จึงชอบใจมาก

    พักผ่อนสักชั่วโมงเศษก็ไปเลือกซื้อสร้อยมุก (น้ำจืด)  ซึ่งคุณภาพดีและราคาไม่แพง   เป็นธรรมเนียมที่เจ้าบ่าวจะต้องซื้อของขวัญให้พ่อตาแม่ยาย

    แล้วไปเลือกส่าหรีอีกที่หนึ่ง    ชื่อร้าน Kalamandir   กำลังลดราคา    คนแน่นมาก    พนักงานประมาณ 30-40 คนเป็นชายทั้งหมด

    น่าสนใจที่พนักงานขายของ ทั้งที่ร้านเครื่องมุกเพชรพลอย  และที่ร้านส่าหรี เป็นชายทั้งหมด    ทั้งๆ ที่ของที่ไปซื้อทั้งสองอย่างผู้หญิงเป็นผู้ใช้

    วีซีดี   ภาพนิ่ง  และคอมพิวเตอร์ ช่วยสร้างสัมพันธภาพได้ดีมาก    ระหว่างรอตอนเช้า

    กินอาหารเที่ยงไฮเดอราบัดแท้ ที่คอนโดของพ่อเจ้าบ่าว    ข้าวเป็นข้าวขาวหุงตามปกติ กับข้าวผัดมะนาว    อร่อยดี    กับข้าวเป็นอาหารมังสวิรัต   และมีโยเกิร์ตด้วย    คนอินเดียเขากินมือ    แม้โยเกิร์ตก็เอาคลุกข้าวกินด้วยมือ    คนอินเดียใต้ตามปกติกินอาหารมังสวิรัต    เขาพัฒนาอาหารมังสวิรัตมานานจนมีชนิดของอาหารมากมาย     และคงจะให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนดี     เพราะเห็นผู้หญิงอินเดียพออายุเข้าสี่สิบขึ้นไป จะอ้วนทุกคน     ใต้บอกว่าผู้ชายอินเดียชอบผู้หญิงอ้วน

    ไฮเดอราบัดมีเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วจากอุตสาหกรรม ซอฟท์แวร์    ทำให้ความต้องการที่อยู่สูงมาก    บ้านเดี่ยวแพง    คนจึงนิยมซื้อคอนโด

     กินข้าวเสร็จไปซื้อผ้าคลุมไหล่ พาชมินา    ทำด้วยขนแพะทอมือ   ที่ร้าน Kashmir Carpets    คนพาไปคือมูราลี่ และเพื่อนชื่อรากูร์

    ระหว่างทางกลับที่พัก แวะซื้อผลทับทิม ซึ่งสีแดงและรสหวานอร่อย    สำหรับเป็นของฝาก

    อาหารเย็นกินที่ที่พัก   มูราลี่ซื้อข้าวหมกไก่  และข้าวหมกแพะมาฝากตอนสองทุ่มกว่า (คนที่นี่กินอาหารเย็นตอนสามทุ่ม)    พวกเรา     บางคนกินมาม่าก่อนแล้วแต่ก็ยังอดกินอีกไม่ได้ เพราะอร่อยทั้งข้าวหมก และขนม    ว่าที่ลูกเขยเอาใจว่าที่ภรรยาและครอบครัวเต็มที่   

     ยังไม่ถึงพิธีตัวจริงนะครับ    นี่แค่โหมโรง

                 

 ถาดสำหรับทำพิธีมงคล  ประกอบด้วยชาด  ขมิ้น  ข้าวขวัญ   และอื่นๆ

                 

      ญาติผู้ใหญ่สนิทของเจ้าบ่าวเตรียมมารับขวัญเจ้าสาว

                 

พ่อแม่เจ้าสาวกำลังรับขวัญเจ้าสาว โดยการทาชาด  ทาขมิ้น  โปรยข้าวขวัญ

                          

เจ้าสาวเคารพพ่อแม่ แบบอินเดีย  โดยก้มเอา ๒ มือแตะเท้าพ่อแม่

                  

             แม่เจ้าบ่าวกำลังทำพิธีปัดรังควาญให้เจ้าสาว

                            

                       พ่อแม่เจ้าบ่าวป้อนอาหารเจ้าสาว

                            

                                       เจ้าบ่าวเจ้าสาว

                             

                  มือเจ้าสาววาดลวดลายเฮ็นลี่เพื่อศิริมงคล

วิจารณ์ พานิช
29 กค. 49
ห้องพัก 101  NISIET, Hyderabad 
 

หมายเลขบันทึก: 43756เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2006 14:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท