เกิดเมื่อกาล ...วสันตฤดู


สันติวิธีอาจเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่ถ้าเกิดขึ้นที่ใด ย่อมหมายความถึง ณ ภพภูมินั้น จะดับความหวั่นไหว หวาดกลัว ให้กับผู้ร่วมจักรวาลของท่านด้วย

  หมู่นี้มีฝนตกและฟ้าคะนองด้วย เสียงฟ้าแผดก้อง บาดเข้าไปถึงหัวใจ และก่อนหน้านั้น หลายคนก็หวั่นไหวกับแสงฟ้าแล่บ ที่ดูขาวสว่างโพลนจนน่าใจหาย ทั้งๆที่ทั้งหมดนี้ เป็นเหตุการณ์ในวสันตฤดู ที่เกิดมาเนิ่นนานแล้ว จนไม่มีใครบันทึกไว้ว่า ฟ้าแล่บ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด

  จำได้ว่า เมื่อสมัยเด็กๆ เราจะได้รับฟังเรื่องราวประกอบเหตุการณ์ ในวันฝนฟ้าคะนองเสมอ ทำให้เราจดจ่อรอฟังความเป็นไป จนคลายความหวั่นกลัวไปได้ชั่วขณะ ลองไปทบทวนเรื่องราวกันอีกสักครั้งเถอะค่ะ

 

 เจ้าของดวงแก้วมณี ที่ส่องแสงประกายวาววับ มาจนถึงโลกมนุษย์ ให้ได้เห็นด้วยตาเนื้อนี้ คือ นางเมขลา ผู้เป็นเจ้ามหาสมุทร มีหน้าที่ดูแลน่านน้ำ และนางนี่แหละ ผู้มีฤทธา เคยช่วยพระมหาชนก(พระพุทธเจ้าที่เป็นพระโพธิสัตว์) ให้รอดพ้นจากภัย พายุกลางมหาสมุทรมาแล้ว นางเมขลาผู้มีแก้วมณีล้ำค่า และสามารถปกป้องคุ้มครองภัยได้ แต่เหตุการณ์คงไม่เลวร้าย ถ้ารามสูรย์ ยักษ์ตนหนึ่งผู้มีอาวุธเป็นขวานเพชร ได้จับใจจับตากับแสงแก้วมณียิ่งนัก อยากได้อยากครอบครอง จึงติดตามแสงนั้นไป จนใกล้มากแล้ว และคิดจะช่วงชิง นางเมขลาไหวทัน ชูแก้วมณีใส่ พลันแสงสว่างเจิดจ้าก็เข้าตารามสูรย์ จนเหมือนโลกมืดไปทันที มองไม่เห็นสิ่งใดไปชั่วขณะ แต่รามสูรย์ ก็ตอบโต้ได้ทันควัน ด้วยการขว้างขวานออกไป เพื่อหวังผล ให้หยุดนางเมขลาให้ได้ ด้วยโทสะ บวกกับอยู่ในสภาวะมองไม่เห็น การขว้างขวานนั้น จึงไม่ได้ถูกเป้าหมายแต่อย่างใด เพียงเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น จนพวกเราได้ยินกันนี้ การไล่ล่า ล่อแก้ว และขว้างขวานตอบโต้ ก็ยังดำเนินต่อไปทุกครั้ง ที่ได้ประชิดกัน

  เหตุที่ต้องมาเกิดช่วงฤดูฝนนี้ เพราะเป็นฤดูกาลของเหล่าอัปสร ต้องลงมาเล่นน้ำกัน รวมทั้งนางเมขลาผู้เป็นใหญ่แห่งน่านน้ำด้วย แสงของดวงแก้ว จึงปรากฏไปทั่วในกาลนี้

  เมื่อฟังเรื่องเล่านางเมขลาและรามสูรย์จบลง แถมทิ้งท้ายให้ชวนติดตาม และเอาใจช่วยตราบเท่าทุกวันนี้ กลับทำให้ผู้รับฟัง เห็นเหตุความเป็นไป เห็นความอยากได้ พึงพอใจกับสิ่งของของคนอื่น เห็นการบันดาลโทสะ ที่ใช้อาวุธประหัตประหารกัน เห็นการตอบโต้อย่างละมุนละม่อมของนางฟ้า เมื่อใดที่เสียงเหล่านี้สงบลง เราก็พลอยผ่อนคลาย และนึกภาวนา ขอให้เขาทั้งสองมีสติตริตรองในทางที่สมควร ในการพบกันครั้งต่อไปเถิด สันติวิธีอาจเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่ถ้าเกิดขึ้นที่ใด ย่อมหมายความถึง ณ ภพภูมินั้น จะดับความหวั่นไหว หวาดกลัว ให้กับผู้ร่วมจักรวาลของท่านด้วย

              จบเรื่องเล่า ในวันที่ฟ้าคะนอง ขอให้คลายความหวั่นไหว จากแสง เสียง อันบาดหัวใจกันทุกคนนะคะ

Large_448
                                            ภาพจากเว็บพลังจิต...ขอบคุณค่ะ
หมายเลขบันทึก: 436644เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2011 13:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท