มาร่วมสร้างประชาคมการสอนภาษาไทยให้มีหลักการ มีทฤษฎีและมีชีวิต
เฉลิมลาภ ทองอาจ[*]
“จุมเรียบ ซัวรฺ โลก” สวัสดีครับท่านผู้สนใจภาษาและวัฒนธรรมไทยทุกคน นักหลักสูตรและการสอนภาษาไทยที่ได้อ่านงานของผมคงจะเห็นว่า โดยส่วนมากผมให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรและการสอนภาษาไทยในระดับปรัชญาและในระดับของทฤษฎี แต่เนื่องจากการที่ตนเองมีประสบการณ์การอบรมในหลายที่ จึงมักจะมีครูภาษาไทยที่สอบถามเกร็ดความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมอยู่เสมอ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เกร็ดความรู้พวกนี้ไม่สำคัญเท่ากับวิธีการจัดการเรียนการสอน แต่เนื่องจากการสอนของเรายังไม่พ้นไปจากกรอบแนวคิดที่เน้นเนื้อหา ผมจึงปลงใจว่าจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเกร็ดความรู้ในภาษาและวัฒนธรรมตามที่ตนเองค้นคว้ามา เพื่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจก็แล้วกันนะครับ ซึ่งประเด็นในวันนี้ได้แก่ “ภาษาเขมรในภาษาไทย”
เขมร หรือ “คแม” นอกจากจะเป็นชื่อชนชาติที่ตั้งรกรากอยู่ในประเทศกัมพูชาปัจจุบันแล้ว ยังเป็นชื่อภาษาหนึ่ง ซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาคำโดดเช่นเดียวกับภาษาไทย เฉพาะในประเทศไทยนั้น พบว่ามีคนไทยเชื้อสายเขมรพูดภาษานี้กว่า ๕ แสนคน กระจายอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ รวมทั้งจันทบุรีและตราดด้วย (ประยูร ทรงศิลป์, ๒๕๔๒: ๓) ลักษณะที่สำคัญของภาษาคำโดดคือ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำเมื่อนำคำศัพท์ไปเรียงเข้าประโยค และมักเรียงลำดับบทของประโยคเป็น ประธาน กริยา กรรม ด้วยเหตุนี้หากกล่าวในภาษาไทยว่า
ผม จะ ไป กับ คุณ ครับ
ภาษาเขมรก็ว่า คฺญฺม นึง ตึว เจีย-มวย โลก บาต
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาษาเขมรแตกต่างจากภาษาไทยคือ ภาษาไทยจะสร้างคำใหม่ด้วยการนำคำมาประกอบกัน เรียกว่า “คำประสม” เช่น ปากกา ห้องครัว คนนอก ส่วนในภาษาเขมร เราสามารถสร้างศัพท์ขึ้นใหม่ด้วยการนำพยางค์หรือคำไปเติมหน้ารากศัพท์ เรียกว่า การลงอุปสรรค หรือ เติมกลางรากศัพท์ เรียกว่า ลงอาคม (อนันต์ อารีย์พงศ์, ๒๕๔๘: ๗๑) ตัวอย่างเช่น
๑. การลงอุปสรรค
รากศัพท์ว่า /เกีต/ (เกิด) ลงอุปสรรคเป็น /กเณีต/ (การเกิด)
/เวียน/ (ขด) ลงอุปสรรคเป็น /กงฺเวียน/ (ม้วนขึ้น)
/เลง/ (เล่น) ลงอุปสรรคเป็น /เภฺลง/ (ดนตรี, เครื่องดนตรี)
/เกียบ/ (คีบ, หนีบ) ลงอุปสรรคเป็น /ตงฺเกียบ/ (สิ่งที่ใช้คีบ, ไม้สอย)
๒. การลงอาคม
รากศัพท์ว่า /ธฺลาย/ (แตก, หัก) ลงอาคมเป็น /ธมฺลาย/ (ทำให้แตก, ทำให้หัก)
/เกีย/ (หนุน) ลงอาคมเป็น /เกฺนีย/ หรือ /เขฺนีย/ (หมอนหนุน)
/แจก/ (แบ่ง) ลงอาคมเป็น /จแนก/ (ส่วนแบ่ง, ส่วน, หน่วย)
/แตง/ (แต่ง) ลงอาคมเป็น /ตแณง/ (ตำแหน่ง, การแปลงกาย)
/ตฺรง่/ (ตรง) ลงอาคมเป็น /ฏํรง่/ หรือ /ตมฺรง่/ (ทำให้ตรง)
/แสฺฏง/ (แสดง) ลงอาคมเป็น /สมฺแฏง/ (สำแดง, การอธิบาย)
/เรียน/ (เรียน) ลงอาคมเป็น /รเบียน/ (ความรู้ที่ได้จากการเรียน)
/เรียบ/ (จัด, ตกแต่ง) ลงอาคมเป็น /รเบียบ/ (ระเบียบ, แบบแผน, แบบอย่าง)
/รำ/ (รำ) ลงอาคมเป็น /รบำ/ (การเล่นฟ้อนรำ)
วิธีการสร้างคำทั้ง ๒ วิธีนั้น คือการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของคำซึ่งนักเรียนจะเห็นว่าส่งผลต่อความหมายและชนิดของคำด้วย เช่น คำว่า “แต่ง” เป็นคำกริยา แต่เมื่อลงอาคมเป็นคำว่า “ตำแหน่ง” ก็จะกลายเป็นคำนาม เป็นต้น สำหรับภาษาไทยได้รับคำและนำวิธีการสร้างคำของภาษาเขมรดังกล่าวมาด้วย โดยจัดเป็นวิธีหนึ่งของ “การแผลงคำ” และเรียกคำลักษณะนี้ว่า “คำแผลง” กำชัย ทองหล่อ (๒๕๔๕: ๙๗) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาไทยอธิบายว่า การแผลงคำในภาษาไทยได้รับอิทธิพลจากเขมรและอินเดีย โดยได้ยกตัวอย่างการลงอุปสรรค “บ” (บ็อม) ลงหน้ารากศัพท์คำอื่นๆ ซึ่งในภาษาไทยนำมาใช้โดยเปลี่ยนเสียง บ็อม ในภาษาเขมร เป็น “บัง บัน และบำ” ดังมีหลักเกณฑ์ดังนี้
๑. ออกเสียง “บัง” เมื่อนำหน้าพยัญชนะวรรค ก และเศษวรรค เช่น บังเกิด บังควร บังคับ บังอาจ
๒. ออกเสียง “บัน” เมื่อนำหน้าพยัญชนะวรรค จ และวรรค ต เช่น บรรเจิด บันดาล
๓. ออกเสียง “บำ” เมื่อนำหน้าพยัญชนะวรรค บ เช่น บำบวง บำบัด บำเพ็ญ
จากลักษณะของการสร้างคำด้วยการแผลงหรือเปลี่ยนแปลงรูปพยัญชนะข้างต้น ทำให้เราได้หลักการสังเกตคำภาษาเขมรในภาษาไทยเป็นเบื้องต้น ดังนี้
๑. คำเขมรในภาษาไทยมักเป็นคำสองพยางค์ ซึ่งเกิดขึ้นจากคำพยางค์เดียวที่เติมหรือเพิ่มเสียงพยัญชนะอื่นๆ เข้าไปกลางคำได้ เช่น เกิด แทรกเสียง /น/ เป็น กำเนิด, กด แทรกเสียง /น/ เป็น กำหนด, ตรวจ แทรกเสียง / ำ/ เป็น ตำรวจ, รำ แทรกเสียง /บ/ เป็นระบำ เป็นต้น
๒. คำเขมรสองพยางค์ที่เกิดจากการลงอุปสรรค พยางค์หน้ามักประสมเสียงสระ / ำ/ ที่พบมากคือ บัง บัน บำ บรร เช่น บังเกิด (ทำให้เกิด) บำเพ็ญ (ทำให้เต็ม, เติมให้เต็ม) บรรจบ (ทำให้จบ) บรรจุ (ทำให้ลงไป) บรรเลง (ทำให้สบายใจ, สนุกสนาน) นักเรียนจะเห็นว่าความหมายของคำเหล่านี้จะอยู่ที่พยางค์หลังเป็นสำคัญ
การศึกษาเรื่องภาษาเขมรในภาษาไทยจะทำให้นักเรียนเข้าใจที่มาและความหมายของคำที่ใช้ในภาษาไทยบางคำ และสามารถใช้คำเหล่านั้นสื่อสารได้อย่างถูกต้อง
ดังที่ได้ค้นคว้ามา ก็หวังใจให้ทุกท่านเข้าใจและใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง สมกับที่เป็นกุลบุตรและกุลธิดาผู้ได้รับการศึกษาอันสูง
เพีย-ซา แคฺม อ็อต ปิ-บาอ เต
ภาษา เขมร ไม่ ยาก หรอก
สวัสดีครับ
____________________________________________
รายการอ้างอิง
กำชัย ทองหล่อ. ๒๕๔๕. หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ: รวมสาส์น.
ประยูร ทรงศิลป์. ๒๕๔๒. ภาษาเขมร ๑. กรุงเทพฯ: สถาบันราชภัฏธนบุรี.
อนันต์ อารีย์พงศ์. ๒๕๔๘. ภาษาเขมรที่สัมพันธ์กับภาษาไทย. : มหาวิทยาลัยทักษิณ.
[*] อาจารย์ประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เจริญพรโยมอาจารย์
คือว่าตอนนี้อยากรู้เรื่อง
เกี่ยวกับการเปลี่ยนภาษาเขมรในภาษาไทยนะครับ
โครงงาน เขมร เรียกว่าอะไรค่ะ
เขาเรียกว่า โกรง กา
ผมมีจิตเป็นกุศลที่จะสอนพี่น้องชาวไทยที่ต้องการเรียนภาษากัมพูชาด้วยใจจริงเพราะผมมีความรู้คุณว่าการที่ผมได้ดีทุกวันนี้ก็เพราะประเทศไทยที่ให้ผมได้เรียนได้ทำงาน ถ้าพี่น้องอยาเรียนเชิญติดต่อได้เลยครับผม [email protected] Tell. 0832912080 ขอบคุณประเทศไทยมากๆที่ให้ชีวิตผมใหม่
เคเรีอวใสโทรศัทัทุกยัาง