วันนี้แพนด้าและหลินฮุ่ย แวะไปเยี่ยมเครือข่ายที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาของชาวบ้านวังน้ำเขียว ได้พบกับ อำนาจ หมายยอดกลาง ผู้อำนวยการศูนย์ และคู่ชีวิต
ได้พูดคุยกันในหลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องของที่กำลังจะร่วมกันขับเคลื่อนเรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์อินทรีย์ อำนาจเล่าให้ฟังว่า... นอกจากจะทำหน้าที่จัดจำหน่ายกันเองในกลุ่มแล้ว ยังมีการกำหนด “มาตรฐานสินค้า” ขึ้นด้วย มาตรฐานดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า ”มาตรฐาน กรอ.“ หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า “มาตรฐานกสิกรรมไร้สารพิษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ“ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการกำหนดคุณภาพของตนเอง ที่เกิดจากการระดมความคิดของปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งก็คือเกษตรกรในพื้นที่
อำนาจบอกว่า... “ทำไมต้องไปตามมาตรฐานของฝรั่ง ทั้งที่ผลผลิตก็เกิดในประเทศไทย โดยเกษตรกรไทย“ อีกประเด็นก็คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อินทรีย์ก็มีไม่รู้กี่หน่วยงาน ซึ่งหากเกษตรต้องทำตามทั้งหมด จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมาก มาตรฐาน กรอ. ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ที่จัดทำขึ้นนี้ เพื่อช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะมาตรฐาน กรอ. เป็นมาตรฐานที่เหมือนและคล้ายกับของหน่วยงานอื่น ๆ เพียงแต่มาตรฐาน กรอ. เกิดขึ้นจากปราชญ์ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรที่ทำ ระบบการเพาะปลูกเพื่อรักษาความสมดุลย์ของธรรมชาติ ลดมลภาวะที่เป็นพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นมาตรฐาน กรอ. คือ มาตรฐาน “กูรับรองเอง” จึงเป็นคำตอบที่ เป็นผลดีต่อสุขภาพของทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค โดย “ไม่ต้องรอ ไม่ต้องหวัง พึ่งการตรวจสอบคุณภาพเพื่อการรับรองมาตรฐานจากองค์กรภายนอกใด ๆ แต่เรา (เกษตรกร)ทำเองได้”....อำนาจ กล่าวอย่างมั่นใจ ซึ่งเราทั้งสองก็เห็นด้วย โดยเฉพาะ อ.หลินฮุ่ย บอกว่าเราควรพัฒนาเกษตรกรไทยให้เป็นเกษตรกรคุณภาพเหมือนกับเกษตรกรญี่ปุ่น ที่ใช้ชื่อของตนเอง หรือ ชื่อฟาร์มของตนเอง เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพหรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์
สวัสดีครับอาจารย์
แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึงครับ
ชอบจังเลย "กรอ.-กูรับรองเอง"
สวัสดีค่ะ
- ตามคุณหนานเกียรติมา
- จึงได้อ่านบันทึกนี้
- อ่านจบ หยุดหัวเราะขำกรอ. ไปตั้งนาน
- ประเทศไทยมีเรื่องราวอะไรดีๆ น่ารักๆ เสมอนะค่ะ
- ที่ขำเพราะคาดไม่ถึงค่ะ
- แต่ชื่นชมในความคิดจริงๆ ค่ะ