Salutogenesis ต้นธารแห่งความสุข (1)


พวกเราจะไม่ได้เป็นในสิ่งที่เราพูด แต่พวกเราจะเป็นในสิ่งที่เราทำ

ถอดเทปจากการบรรยายของท่านอ.ดร.นพ.สกล สิงหะ ในเวทีการประชุม HA National Forum 12th ที่อิมแพคเมืองทองธานี ขออนุญาติแบ่งเป็นสามบันทึกค่ะ

เช้านี้เป็นการเริ่มต้นห้อง SHA  ขอแสดงความยินดีกับกัลยาณมิตร ทุกคนที่ได้มาอยู่รวมกันในห้องนี้ จริงๆแล้วการทำงานที่โรงพยาบาลของเรา ทุกวันเป็นเรื่องของความทุกข์ ความสุข สิ่งที่เราต้องการให้เกิดคือหายทุกข์มีสุขเกิดขึ้นตามมา

บางครั้งบางคราว ตอนที่เราเรียน จะเรียนพยาบาลก็ดี เรียนแพทย์ก็ดี เราเรียนเรื่องพยาธิกำเนิดค่อนข้างเยอะ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความทุกข์ เราเจอคนไข้ เรามักจะบอกได้ว่าคนนี้เป็นโรคอะไร คนนี้ปวดตรงไหน เจ็บตรงไหน ผมสอนนักศึกษาแพทย์ที่มอ.สงขลานครินทร์ นักเรียนแพทย์รู้จักคนไข้เป็นอย่างดีว่า เขาทุกข์เรื่องอะไรบ้าง สิ่งสุดท้ายแต่เมื่อเรามองดูดีๆ เราพบว่า เรามักไม่เจอว่า คนไข้แต่ละคนที่เราเจอนั้น เขามีความสุขจากอะไร

ความหมายของ salutogenesis

salutogenesis  จะเป็นการดูแลอีกแบบหนึ่ง ที่ SHA นำแนวคิดนี้มาใช้ ถือว่าเป็นการเปิดมิติทางการแพทย์ และเป็นการบริบาลใหม่ เทคโนโลยีต่างๆ นวตกรรมที่เดิมคิดค้นมาที่ใช้พยาธิกำเนิดเป็นตัวผลักดัน เมื่อเราหมดเครื่องมือในการเยียวยา หมดคลังยา หมดการผ่าตัด หมดการฉายรังสีรักษา พวกเราก็รู้สึกหมดหวังไปด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่คนไข้ใช้อยู่ตลอดเวลา แต่เรามักไม่ได้นึกถึง คือต้นทุนของเขา

 

WHO องค์กรอนามัยโลกได้ introduce แนวคิด people center healthcare การดูแลซึ่งมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มนุษย์ไม่ได้มีแต่โรคอย่างเดียว เราต่างก็มีต้นทุน ต่างก็มีที่มาแห่งความสุข สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าเราดูดีๆ ไม่ได้มีแต่ร่างกายของเรา พวกเราทำงานหลายอย่างไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง  บางคนทำงานทุกวันนี้ เพื่อพ่อแม่ได้ภาคภูมิใจในตัวเรา ทำงานทุกวันนี้เพื่อลูกหลาน เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง จะเห็นว่าความหมายของความเป็นมนุษย์ไม่ได้จำกัดที่ร่างกายอย่างเดียว 

 

salutogenesis หรือสุขภาวะกำเนิด คงจะพูดเป็นทฤษฎีลำบากนิดนึง ขอพูดเป็นน้ำจิ้มก่อน ในเรื่องต้นธารแห่งความสุข ขอให้พวกเรานั่งสบายๆ ฝ่าเท้าราบกับพื้น นั่งตรง ทำตัวสบายๆ มีสติติดตาม สิ่งที่เกิดขึ้น เรทำอะไรอยู่ เรารู้สึกอะไร เราเรียนรู้ อะไรบ้าง

 

 

 

ในความเป็นจริงอย่างหนึ่งก็คือว่า

เราไม่สามารถจะให้อะไรใคร ในสิ่งที่เราไม่มี

ถ้าพวกเราอยากจะให้คนไข้มีความสุข อยากจะให้ญาติคนไข้มีความสุข คำถามหนึ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องตอบคือพวกเราเห็นชีวิตเป็นอย่างไร ตัวเราเองเห็นชีวิตเป็นอย่างไร เวลาที่เราไป convince ไปพูดจาให้คนอื่นมีชีวิตต่อไป อยากสู้ชีวิตต่อไป เราเชื่อในคำที่เราพูดมากขนาดไหน หรือพูดเพราะคำพูดนั้นไพเราะเฉยๆ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการให้ความหมายของชีวิตของเราทุกคน  ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน พวกเราแต่ละคนสามารถสัมผัส ถึงความดี  ความจริง และความงาม ในรูปแบบที่แตกต่างกัน จากบริบทและประสบการณ์ตรงของพวกเราแต่ละคน

 มนุษย์โหยหาการยอมรับ 

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ตั้งแต่เราเกิดมาเราโหยหาการถูกยอมรับ การถูกรับฟัง เมื่อเช้าผมคุยกับอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า สามีของท่านป่วย สิ่งหนึ่งที่สามีของท่านอยากจะได้ตลอดเวลาคือ เมื่อไหร่ที่เจอหมอ พยาบาล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทันที่ที่เห็นหน้าหมอ พยาบาลแล้วรู้สึกว่าดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะคุณหมอท่านเมตตามากหรือพยาบาลพูดเพราะหรือเปล่า แต่เชื่อไหมว่าทันที่ที่พวกเรา มีคนมาหาเรา มีคนมาฟังเรา การเยียวยาได้เกิดขึ้นแล้ว ทันที่ที่เราไปปรากฏตัวอยู่ข้างเตียงคนไข้ตอนนั้น กระบวนการเยียวยารักษาได้เกิดขึ้นแล้ว โดยที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยี ไม่ต้องใช้เครื่องมือเครื่องไม้อะไรเลย แต่ว่าจะดียิ่งไปกว่านั้นคือว่า การที่พวกเราไปหาด้วยพลัง positive ที่เป็นบวก ไปหาเขาด้วยความรัก ไม่ใช่ด้วยความกลัว กลัวว่าจะทำผิด กลัวว่าจะไม่ตรงตาม Protocol, กลัวว่าจะไม่มี CPG หรือ Care map อะไรต่างๆ อุปกรณ์เหล่านี้มีไว้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเรา พวกเราอย่าได้นำอุปกรณ์เหล่านี้มาเป็นเครื่องมือที่ทำให้พวกเราจิตตกเสียก่อน บางครั้งบางคราวในการดูแลผู้คน ไม่จำเป็นต้องมั่นใจ 100%  เราไปหาเขาด้วยความรัก ด้วยความปรารถนาดี  

 

ครั้งหนึ่งเมื่อห้าพันปีมาแล้ว โรงพยาบาลของบิดาการแพทย์ตะวันตก คือ Hippocrates อัตราการหายประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ อัตราการตาย 90  กว่าเปอร์เซ็นต์ พวกเราลองคิดดูว่าบรรพบุรุษแพทย์ บรรพบุรุษพยาบาลของเรา ประกอบอาชีพนั้นอยู่ได้เพราะอะไร อะไรคือนิยามแห่งความสำเร็จของเขา สมัยก่อนถ้าห้าพันปีที่แล้ว HA ไปตรวจก็คงปิดรพ. ไม่ผ่านมาตรฐาน คุณหมอสมัยก่อนเขาใช้อะไรเป็นนิยามความสำเร็จในชีวิตของเขา ถ้าเรามาใคร่ครวญให้ดีจะพบว่า สมัยก่อนไม่ได้ใช้ว่า out come หรือ out put  ว่าคนไข้รอดเท่าไหร่ คนไข้หายเท่าไหร่ มาเป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จในการเป็นแพทย์ ในการเป็นพยาบาล สมัยก่อน เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกว่า ถ้าหากจะมีคนทุกข์อยู่ข้างหน้าเราแล้ว  เป็นไปไม่ได้ที่เราจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร เราขอพยายามทำอะไรสักอย่างหนึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร  ผมคิดเอาเองว่าบรรพบุรุษแพทย์ บรรพบุรุษพยาบาลของเรา คงจะให้ความหมายความสำเร็จว่า ชีวิตเขาจะ full fill จะเต็มต่อเมื่อเขาได้พยายามจะช่วยเหลือคนอื่น เมื่อเห็นคนอื่นอยู่ในความทุกข์ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้พยายาม เขาประสบความสำเร็จ ณ ตรงนั้นแล้ว พยายามเพื่อช่วยเขา  

อัตลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ 

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้อยู่คนเดียว เราเรียนรู้ skill ทักษะในการอยู่ในสังคมตั้งแต่แรกเกิด  ตอนสมัยเกิดมาเราทำเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง  ยิ้ม ร้องไห้ ถ่าย กิน นอน ห้าอย่าง เด็กแรกเกิดทำอยู่แค่นั้นเอง แต่ก็เรียนรู้ social  skill ตั้งแต่ตอนนั้นเลย ทันที่ที่เด็กยิ้ม โลกข้างนอกรอบข้างยิ้มกับเขาด้วย จะมีเสียงหัวเราะ ดีใจ ถ้ายิ้มนานพอสักพักจะลอยได้ มีคนอุ้มมีคนเอาอาหารมาให้ เขาเรียนรู้ว่าถ้าเขาทำตัวน่ารัก ทำปากเป็นมุมแบบนี้ โลกรอบๆข้างจะตอบรับเขาเป็นอย่างดี คนบางคน พอยิ้มไปยิ้มมาบางวัน ไม่ work ไม่มีใครมา ก็เลยลอง trick ที่สองดู ลองร้องไห้ดู พอร้องไห้ดังพอ ก็มีคนเอานมมาให้ เอาของมาให้เหมือนกัน เด็กคนนี้ก็ได้เรียนรู้เทคนิคที่สองคือถ้าทำตัวน่ารำคาญเพียงพอ เขาก็จะสามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ นั่นคือตั้งแต่แรกเกิด จนถึงปัจจุบันนี้เราก็ยังใช้ skill นี้อยู่ พวกเราบางคนในที่นี้ ควบคุมสิ่งแวดล้อมด้วยการทำตัวน่ารัก แต่เราก็เจอบางคน ที่ควบคุมสิ่งแวดล้อมที่ทำตัวน่ารำคาญ เราใช้เทคนิคนี้มาตั้งแต่เกิดเลย เราเรียนรู้และเสริมทักษะเรืองนี้มาเรื่อยๆ เพราะเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ทางกายภาพแล้วมนุษย์เป็นสัตว์ species ที่อ่อนแอที่สุดในโลก สัตว์ต่างๆ ใช้เวลาไม่วันไม่กี่อาทิตย์ ออกล่าอาหารเองได้ หนู แมว เสือ ลิง ลิงนี่ไม่กี่ชั่วโมงปีนต้นไม้ได้ มนุษย์เรากว่าจะซื้อบะหมี่ชามแรกได้ด้วยตนเองใช้เวลากี่ปี แบบหาเงินเอง บางที 20 ปี กว่าที่พวกเราจะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ พวกเราลองพิจารณาดูให้ดี พวกเราเป็นหนี้บุญคุณคนมากเหลือเกิน คนที่คนที่ทำอะไรต่างๆให้เรา มากขนาดไหน มากขนาดว่าเราใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตเพียงเพื่อตอบแทนคุณคนอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ วิธีเดียวที่จะทำให้รักษาการตอบแทนคุณคนได้ คือว่าเราต้องมอบให้รุ่นต่อๆไป เพราะนี่คือ species ของเรา นี่ความหมายของเผ่าพันธุ์ของเรา

มนุษย์มีความรักและเมตตา ปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์ 

ในขณะที่สัตว์ต่างๆ อยู่เพื่อการอยู่รอดเป็นส่วนใหญ่  มนุษย์สามารถที่จะรัก สามารถที่จะปรารถนาให้คนอื่นพ้นจากความทุกข์ได้ นี่เป็นศักดิ์ฐานะที่พิเศษ คนบางคนถึงขนาดยอมเสียสละรับความทุกข์ให้กับตนเอง เพื่อให้คนรอบข้างนั้นมีความสุข พวกเราใช้ความ Unique ความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ของเราเต็มที่แล้วหรือยัง บางครั้งบางคราวเคล็ดลับของการเป็นมนุษย์ อาจจะอยู่แค่ เราใช้ศักยภาพที่แท้จริงของเราให้ครบถ้วนเท่านั้นเอง

มนุษย์มีปัญญา ในการครุ่นคิดใคร่ครวญอย่างแยบคาย

พวกเราดูแลตนเองเพื่อให้เข้าใจว่า ชีวิตนี้มีความหมายอย่างไร เราทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆรอบๆข้าง ความเป็นมนุษย์นี่ประหลาด มนุษย์จะมีความอยากรู้อยากเห็น อยากจะเข้าใจ ความพยายามจะเข้าใจของมนุษย์เป็นพรสวรรค์ เป็น God gift ถ้าเป็นศาสนาคริสต์ พรสวรรค์ที่มนุษย์มีในความพยายามที่จะอยากรู้และเข้าใจ แต่เมื่อมีพรสวรรค์ก็มีคำสาป ความพยายามที่เราคิดว่าเราเข้าใจแล้ว เป็นคำสาปของมนุษย์ เราไม่ได้คิดใคร่ครวญให้ดี แล้วเราก็ด่วนสรุปความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ว่าเราเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ทำอย่างไร จะให้พรสวรรค์เอาชนะคำสาปนี้ให้ได้ ด้วยการครุ่นคิดใคร่ครวญอย่างแยบคาย

ทำไมเราถึงต้องไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าคนไข้ แล้วเขาก็ถามคำถามยากๆ ใส่เรา เช่น “หมอ.. ผมจะอยู่ได้นาน อีกกี่วัน“หมอ !มียาอะไรจะรักษาผมได้อีกไหม” หรือบางทีก็ร้องไห้ใส่เรา นี่คือสิ่งเราต้องใช้ปัญญาว่า เพราะเหตุใด เราถึงได้มี privilege ได้มีอภิสิทธิ์เช่นนั้น เคยมีพี่พยาบาลคนหนึ่งมาบอกว่า “อาจารย์ วันก่อนมีคนไข้คนหนึ่งใน ward เป็นพม่า อยู่ดีๆ มาบอกว่าพี่เป็นญาติของเขา พี่ก็ตกใจ  ฉันไม่เคยมีญาติเป็นพม่ามาก่อน พยายามถามสามีว่ามีญาติเป็นพม่ามาไหมก็ไม่มี อยู่ดีๆ มาตู่ หาว่าพี่เป็นญาติของเขา” แต่จริงๆ ถ้าเปลี่ยนคำถามนิดเดียว เรามีคำพุทธสุภาษิต คำหนึ่งว่า เราอาจจะไม่ได้เป็นญาติทาง biological ทาง DNA ทางอะไรต่างๆ แต่เราเป็นญาติทาง function ทางการปฏิบัติ ทางจริยะของเรา นั่นแหละที่เขานับญาติเรา บางทีการที่มีพม่าเป็นญาติอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป อาจจะเป็นความโชคดีของเราก็ได้ ยิ่งมีญาติเยอะก็ยิ่งดี แต่ของพวกนี้เป็นสิ่งที่เราให้ความหมายกันเอง คนๆหนึ่งอาจจะคิดว่า พม่าเป็นญาติเป็นโชคร้าย ฉันเป็นลูกศิษย์ เป็นลูกหลานนายขนมต้ม อย่างไรก็ตามฉันไม่นับพม่าเป็นญาติแน่นอน บางคนก็อาจจะคิดว่า มีพม่า มีรามัน มีเขมร เป็นญาติ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายซะทีเดียว อาจเป็นเรื่องที่โชคดีก็ได้ คนสองคนนี้จะมีความสุขไม่เหมือนกัน มันเป็น choice ที่พวกเราต้องเลือกเองว่า พวกเราจะใช้ชีวิตแบบไหน

พวกเราจะไม่ได้เป็นในสิ่งที่เราพูด แต่พวกเราจะเป็นในสิ่งที่เราทำ

ดังนั้นป้ายต่างๆ ที่เราติดไว้ตามรพ. ไม่ว่าจะเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจต่างๆ นั่นคือสิ่งที่เราพูด แต่ความสุขที่แท้จริงคือเราทำอะไร

ขณะที่เราไปปรากฏตัวอยู่หน้าเตียงคนไข้แต่ละเตียงนั้น เรามีสิทธิที่จะเดินออกมาตอนไหนก็ได้ แต่รู้ไหมว่า ณ เวลานั้น คนหกพันห้าร้อยล้านคนบน planet earth แห่งนี้มีเพียงเราเพียงคนเดียวที่ทำให้คนข้างหน้าเขายิ้มขึ้นมาได้ ถึงตอนนั้นมันจะ challenge ว่าเราจะทำอะไร แล้วเราจะได้เป็นในสิ่งที่เราทำ 

หมายเลขบันทึก: 434005เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2011 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีครับ พรทั้งหล้า

ออกจากงาน ฮา แล้วไปต่องาน ฟา กับสิบสาม อรหันต์มนุษย์ทองคำ Gotoknow ที่บ้านหมอเต็มศักดิ์ หาดใหญ่

Ico48
 

ท่านผู้เฒ่า แข็งแรงดีก็งานเข้าหนักเลยนะคะ พักผ่อนบ้างนะคะ 

 

สวัสดีค่ะคุณ'Paula'

แวะมาชื่นชมบันทึกดีๆมีประโยชน์ค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ท่านดร.

Ico48

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ 

สวัสดีคุณน้อง...

มีความสุขดีใช่ไหมครับ...
บันทึกนี้งดงามมาก  

Ico48

สวัสดีค่ะพี่หนานและน้องเฌวา... สบายดีค่ะ ยังคิดถึงพ่อ แม่ลูก อยู่เสมอๆ นะคะ 

ครบรอบแต่งงานยังหวานกัลลลไม่หายอ่ะค่า

ขอบคุณมากนะคะพี่

แวะเข้ามาทักทายบทความดีๆ...

ชอบ.."เราไม่สามารถให้คนอื่น...ในสิ่งที่เราไม่มีได้"..

เคยอ่านเจอที่ใหนไม่รู้...เป็นวลีที่งดงามมากครับ...

....ขอบคุณ...

Ico48

สวัสดีค่ะ คุณเส้าหลง ขอบคุณมากเลยค่ะ 

คำนี้มีพูดกันเยอะเลยค่ะ เป็นประโยคที่ดีมากๆเลยค่ะ 

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

สวัสดีค่ะอ.พอลล่า

พี่อบรม Saluto ที่เชียงใหม่แล้ว แต่ทุกครั้งที่เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับ saluto ก้อชอบมากๆทุกครั้ง ไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ นะคะ

ขอบคุณมาก ชอบค่ะ ว่าแต่ ตอนที่ 2-3 อยู่ไหนเอ่ย ? หรือว่ากำลังเดินทาง ? ^_________^

อ้าว เพิ่งเห็นว่าบทความนี้ 2 ปีที่แล้ว

งั้น...?

ทำไมหาตอนที่ 2-3 ไม่เจอ ?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท