พิธีพระราชทานปริญญาบัตรสมศักดิ์ศรีพิบูลสงคราม

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก

งานพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยราชภัฏปีนี้ เราชาวพิบูลได้มีโอกาสทำงานใหญ่เนื่องจากมหาวิทยาลัยของเราได้เป็นเจ้าภาพงานรับพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ 8 แห่ง งานนี้เป็นงานใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีงานครบรอบ 84 ปีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ตื่นเต้นจัง

ช่วงเตรียมงาน

ปีนี้ท่านรองฯ อธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาของเรา บอกว่าให้เป็นเลขาของท่านเพื่อประสานงานเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพ 8 แห่ง ซึ่งเราก็ยังงงงงว่าต้องทำไรบ้างน๊ออ แต่ก็เอาเถอะ ลุย!

งานแรก คือ การประสานการประชุมก็ต้องเตรียมข้อมูลเพื่อทำเล่มวาระการประชุม ควบคู่กันกับอาร์ม (เลขาอีกคน ผู้เชี่ยวชาญงานประสานการรับปริญญามาก่อน) อาร์มทำเล่มที่ 1 ฉบับหน่วยงานทั้งหมด ได้แก่ จังหวัด ศาล ทหาร ตำรวจ วัง สารพัด (ตรงนี้อิฉันก็ยังงงง ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง) ของเราเป็นเล่มที่ 2 ฉบับมหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่ง

งานที่สอง คือ การทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สูจิบัตรงานรับพระราชทานปริญญาบัตรภาคเหนือ เอกสารการซ้อมของบัณฑิต บัณฑิตกิตติมศักดิ์ และสุดท้ายเพิ่มเติมสำหรับปีนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 8 แห่ง พร้อมใจกันทูลถวายปริญญานิติศาสตร์ดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้พระองค์ภาฯ ของเรารับผิดชอบสูจิบัตรงานจ้าาา

งานที่สาม คือ ได้เข้าร่วมทูลถวายปริญญาให้พระองค์ภาฯ ที่ โรงแรมเชดี จังหวัดเชียงใหม่เจ๊า วันที่ 13 มีนาคม 2554 และมีโอกาสเข้าร่วมฉายพระรูปร่วมกับพระองค์ภาด้วย เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ

งานที่สี่ คือ ประชุมเป็นบ้าเป็นหลัง (เนื่องจากเป็นเลขาเลยต้องเข้าทุกครั้ง) นับไม่ถ้วนค่ะ

งานที่ห้า คือ ทำรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมจากคำสั่งของมหาวิทยาลัย 4 ฉบับ (คณะกรรมการยี่สิบกว่าฝ่าย พันกว่าคนค่ะ ...พระเจ้า!)

อุปสรรค

1. กำหนดการจะเปลี่ยนจากรับปริญญาที่พิบูลสงครามไปที่เชียงใหม่ เง้อ...ปัญหายุ่งยากเลยตามมา แต่สุดท้ายก็สรุปที่พิบูลเหมือนเดิม ไชโย

2. ร้านพิมพ์หนังสือ ทำไม๊ทำไม ไม่แก้ไขคำผิดตามที่ตรวจ -_- เซงค่ะ

ช่วงซ้อมรับปริญญา 22-21 มีนาคม 2554

วันแรก ได้ประจำอยู่ ณ ตึก ม. (อาคารมหาวชิราลงกรณ) ซึ่งไม่เคยประจำอยู่ที่นี่มาก่อน แต่ก็โอเค เสียอย่างเดียวไกลของกิน ^^ งานผ่านไปได้ด้วยดี มีเหตุการณ์ที่น่าแก้ไขอยู่สองสามประการเกี่ยวกับอาหารการกินค่ะ ก็คือ เราจัดซ้อมย่อยตามตึกเรียน 2 ตึก การลำเลียงอาหารก็เลยวุ่นวายนิดหน่อยเพราะว่าเช็คของกันขาดๆเกินๆ แต่ตอนหลังก็ผ่านไปได้ด้วยดี อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ บัณฑิตอิสลาม ไปรับข้าว แต่เจ้าหน้าที่ให้อาหารกล่องแบบกับข้าวปกติ ซึ่งนักศึกษาทานไม่ได้ แต่เจอเจ้าหน้าที่พูดคำว่า "กินไม่ได้ก็กินข้าวเปล่าไปล่ะกัน" ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่น่าจะพูด แต่สุดท้ายก็ช่วยๆ กันทำความเข้าใจและนำข้าวกล่องที่เตรียมไว้ให้กับบัณฑิตคนนั้น ก็ต้องขอชมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสวัสดิการ ที่แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ดีมากค่ะ

วันที่สอง ซ้อมที่หอประชุมศรีวชิรโชติ ปีนี้เราได้รับหน้าที่ตรวจสอบบัณฑิตที่ผิดพลาดระหว่างซ้อม ได้แก่ ไม่เอางาน ไม่เหยียบจุด ไม่ทำความเคารพ เหลียวหลัง และอื่นๆ ก็เลยเสนอให้ใช้เครื่องนับเลข กดๆๆๆๆ จดตัวเลข ปีนี้เลยสบายบรื๊ออ รวดเร็ว และมีคนอยากช่วยหลายคนเพราะมันสนุกตรงที่ กดๆๆๆ นี่แหละค่ะ เพลินไปเลย^^

วันที่สาม วันนี้มีพิธีมุทิตาจิตบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้รับหน้าที่มอบแฟ้มคำกล่าวให้นายกสภา แต่ดันมัวแต่คุยจนผิดคิวส่งช้าไปนิดหน่อย แถมโดนด่าอีกนิดนึง เฮ้อ... แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ช่วงงานรับปริญญา 26-29 มีนาคม 2554

งานหลักคือประสานข้อมูลประจำวัน ที่เตรียมไว้สำหรับหลายฝ่ายมาก ได้แก่ ส่วนหน้าวังศุโขทัย ดอนเมือง ข่าวในพระราชสำนัก และอีกหลายส่วน ที่เชื่อมโยงกันไปหมด และประสานงานกับส่วนต่าง ๆ ที่ร้องขอ  เหตุการประทับใจ คือ ได้ถ่ายรูปร่วมกับ ดร.ปรีชา เพราะเราคือ fan club ท่าน หุหุ  ปีนี้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพียบ และปีหน้าคงจะเป๊ะกว่านี้ หวังว่าคงได้รับหน้าที่เดิมนะคะ

ส่วนอื่น ๆ ที่ดำเนินการสนับสนุน 

1. จัดให้นักศึกษา กยศ. ทุกคนเข้าร่วมรับ-ส่งเสด็จ

2. ส่งนักศึกษาสมัครทำงานไปทำงานร้านรับจองรูปบัณฑิต จุดขายน้ำทั่วมหาวิทยาลัย(น้ำสิงห์ได้รับสัมปทาน) และ ช่วยงานร้านขายดอกไม้ งานนี้นักศึกษาได้รับค่าขนมกันถ้วนหน้า 96 คนค่ะ

3. จัดนักศึกษาเป็นพิธีกรภาคสนาม