Nong Bua Pictorial : ๓. ตลาดหนองบัวและเกาะลอย


                         

ชุมชนในตัวเมืองเดิมของตลาดหนองบัว

                        

ร้านค้าริมสุดด้านซ้ายมือ ในอดีตเป็นร้านขายยาแผนโบราณปานขลิบโอสถ หรือร้านขายยาหมอหลุย หมอหลุยเป็นผู้มีศรัทธาในพระศาสนา ต่อมาจึงออกบวชและนำการพัฒนาวัดป่ามะเขือหรือวัดหนองบัวให้เป็นวัดสำหรับการศึกษาและปฏิบัติธรรมกระทั่งมรณภาพในสมณเพศ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาจารย์และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านทั้งในหนองบัวและชุมชนโดยรอบ ชาวบ้านจึงมักเรียกวัดป่ามะเขือหรือวัดหนองบัวว่าวัดหลวงพ่อหลุย

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าของร้านหมอหลุย ได้รับการเล่าขานจากคุณเกศศรณ์ศิน วังบัวบานปัญญากร คนหนองบัวที่เกิดและเติบโตในย่านนั้นว่า เป็นที่ตั้งของตลาดสดแห่งแรกของหนองบัว ก่อนที่จะย้ายไปสร้างขึ้นใหม่เมื่อชุมชนหนองบัวขยายตัวมากขึ้นตรงที่เป็นตลาดสดในปัจจุบัน และต่อมาก็ขยายไปสู่อีกแหล่งหนึ่งเป็นแหล่งที่สามที่ตลาดในศูนย์การค้าธารบัวสวรรค์

                        

                        

                         

เกาะลอย เป็นแแหล่งน้ำที่สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช ๒๕๐๒ โดยการนำของนายอรุณ วิไลรัตน์ อดีตนายอำเภอหนองบัว (๑๙ เมษายน ๒๕๐๒-๒๐ ตุลาคม ๒๕๐๘) เพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภคและบริโภคของชุมชนอำเภอหนองบัว (ขอบคุณภาพพื้นหลังจาก Googlemap,ใส่รายละเอียดโดยผู้เขียน)

รถแทรกเตอร์คันที่ขุดแหล่งน้ำในหนองบัวนี้ นายสมหมาย ฉัตรทอง อดีตนายอำเภอหนองบัวอีกท่านหนึ่งได้เล่าให้ผู้เขียนได้ทราบว่า ต่อมาอีกกว่า ๒๐ ปีชาวบ้านโดยการนำของท่านในยุคที่ไปเป็นนายอำเภอหนองบัว ได้ไปค้นหาจนพบและจัดมวยการกุศลจนได้เงินก้อนหนึ่งแล้วจึงร่วมกับท่านพระครูวาปีปทุมรักษ์ หรือพระครูไกร พากันไปซื้อกลับมาโดยเจ้าของที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาดก็ยินดีขายมอบให้ด้วยราคาเท่าทุน และเงินอีกส่วนหนึ่งที่เหลือได้ใช้สร้างแท่นเพื่อนำรถแทรกเตอร์มาตั้งไว้เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนายอำเภออรุณ วิไลรัตน์ที่หน้าอำเภอหนองบัวดังในปัจจุบัน

                          

ในระยะแรกนั้น เกาะลอยเป็นทั้งแหล่งน้ำและสวนสาธารณะแหล่งหย่อนใจของชาวบ้านที่มีเกาะขนาดเล็กอยู่ตรงกลางดังภาพ (ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากชาวบ้านเกาะลอยและคนเก่าแก่ว่า สะพานที่เชื่อมเกาะลอยกับฝั่งโดยรอบนั้นมี ๒ ด้านทั้งซ้ายขวาและมีกอไผ่อยู่หลังศาลาที่ตั้งอยู่บนเกาะด้วย) ชาวบ้านจึงเรียกเกาะลอย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ หลวงปู่ฤาษีนารายณ์แล้ว ก็เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าแห่งแรกของอำเภอหนองบัวดังในภาพด้วย 

                         

ต่อมาในสมัยของนายสมหมาย ฉัตรทอง นายอำเภอหนองบัวระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๒๔-๒๕๒๘ ได้พิจารณาเห็นว่าชุมชนอำเภอหนองบัวขยายตัวมากขึ้นและขาดแคลนน้ำ อีกทั้งพบว่าแอ่งน้ำรอบเกาะลอยมักตื้นเขิน เก็บกักน้ำได้ไม่เพียงพอต่อความจำเป็นของชาวบ้าน จึงทำการปรับปรุงไถเกาะลอยที่อยู่กลางแอ่งน้ำออกและขุดแอ่งน้ำให้ลึกมากขึ้น แต่คนทั่วไปก็ยังคงเรียกแอ่งน้ำและบริเวณดังกล่าวว่าเกาะลอย

                         

บริเวณเกาะลอยและวัดหนองกลับมีเรื่องเล่าสืบทอดกันในสังคมชาวบ้าน เชื่อมโยงต้นไม้ สถานที่ แหล่งชุมชน และอาณาบริเวณต่างๆเข้าเป็นเรื่องราวเดียวกัน รวมทั้งเชื่อมโยงกับศาลหลวงปู่ฤาษีนารายณ์และเจ้าพ่อเจ้าแม่ ซึ่งในวันที่ไปจัดนิทรรศการและนั่งฟังเวทีเสวนาในเย็นของวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๔ นั้น ป้าอี๊ด หรือป้าสาลี สายภู่ คนเกาะลอย และผู้ใหญ่หวั่น สกุลมี อดีตผู้นำชุมชนรอบเกาะลอย ได้เล่าสืบทอดเรื่องราวของฺนางเกสร หลวงปู่ฤาษีนารายณ์ และความเป็นมาของชื่อหนองกลับให้ฟังดังนี้.........

                         

".....นานมาแล้ว ในบริเวณที่เป็นเกาะลอยนั้นเป็นสระน้ำที่มีบัวอยู่เต็ม และมีนางเกสรเกิดมาจากดอกบัว[๑] ฤาษีได้นำมาเลี้ยงไว้อยู่ในต้นมะขาม[๒] ตกกลางคืนนางเกสรก็มักจะออกมาร้องเพลงพวงมาลัยและขับกล่อมทำนองเพลงต่างๆ[๓] เป็นที่ยำเกรงของชาวบ้านในแถวนั้น

ต่อมามีนายพรานคนหนึ่ง[๔] ได้เดินทางล่าสัตว์และมาถึงที่บริเวณสระน้ำบริเวณเกาะลอย เมื่ออาบและดื่มน้ำแล้ว ก็เดินจากไป พอไปถึงบริเวณหนองกลับ ก็ได้ยินเสียงนางเกสรร้องเพลงขับกล่อม นายพรานจึงเดินกลับไปยังสระน้ำ แต่เมื่อไปถึงก็เงียบและก็ไม่เห็นใคร พอเดินจากไปถึงบริเวณหนองกลับก็ได้ยินเสียงอีก นายพรานเดินกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ แต่ก็ไม่เจอใคร[๕] บริเวณที่เป็นเกาะลอยจึงเป็นสถานที่อันศักดื์สิทธิ์และอาณาบริเวณที่นายพรานเดินไปถึงและเดินกลับไปหลายรอบ จึงเรียกว่าหนองกลับ ซึ่งได้แก่ชุมชนโดยรอบเกาะลอยนั่นเอง....."

ในอดีตนั้น รอบเกาะลอยจะมีชุมชนหมู่บ้านไม่หนาแน่น เดินเลยออกมาก็จะเป็นป่าและทุ่งนา ยามมืดค่ำก็จะเปลี่ยวและวังเวง อีกทั้งมีต้นมะขามขนาดใหญ่น่ากลัวเกรงอยู่ และก็มักจะมีเรื่องเล่าว่าที่ต้นมะขามนั้นนั่นเองเป็นกุฎีของฤาษีตาไฟ เรื่องราวที่อยู่ในเรื่องเล่าของชาวบ้านจึงเชื่อมโยงสิ่งต่างๆที่มีอยู่จริงในบริเวณเกาะลอยและหนองกลับ รวมทั้งมีการละเล่นและการร้องเพลงพวงมาลัยของชาวบ้านอยู่จริงอีกด้วย

ภายใต้เรื่องราว  ตำนาน นิทาน และบทเพลงพื้นบ้านต่างๆนั้น ก็สื่อสะท้อนระบบวิธีคิด หลักการดำเนินชีวิต ตลอดจนเชื่อมโยงกับสภาวการณ์สังคมทั้งของหนองบัวและของสังคมไทยที่ชาวบ้านสามารถอธิบายและบอกเล่าสู่กันไว้ได้เป็นจำนวนมาก จัดว่าเป็นพลังภูมิปัญญาชาวบ้านในวิถีสังคมมุขปาฐะที่น่าประทับใจมากที่สุดชุมชนหนึ่ง.

..........................................................................................................................................................................

เชิงอรรถ 

[๑] บางสำนวนก็เล่าว่า ชื่อนางทิพย์เกสร เช่น ใน หนังสือเกียรติประวัติ เจ้าพ่อเจ้าแม่ และเจ้าพ่อฤาษีหนองบัว โดย ส.รุ่งศักดิ์ เขียนและจัดพิมพ์เนื่องในวันฉลองศาล (หมายถึงศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่และหลวงปู่ฤาษีหนองบัวหลังใหม่ : ผู้เขียน) วันที่ ๙-๑๓ พฤศิกายน ๒๕๓๔ พิมพ์โดยไทยอุดมการพิมพ์ กรุงเทพฯ
[๒] บางสำนวนก็ว่าเป็นเนินต้นดอกปีบ
[๓] บางสำนวนเล่าว่านางเกสรหรือนางทิพย์เกสรจะออกมาโล้ชิงช้าในเวลากลางคืนและร้องเพลงพวงมาลัย
[๔] บางสำนวนกล่าวว่านายพรานชื่อ 'พรานเรวัต'
[๕] บางสำนวนกล่าวว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของนางทิพย์เกสร บางสำนวนกล่าวว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของฤาษีตาไฟที่ทำให้หนองบัวแห้งแล้ง บางสำนวนกล่าวว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของหลวงปู่ฤาษีที่อยู่ในเจดีย์เก่าแก่บนเนินดอกปีบ

  หมายเหตุบันทึก 

เรื่องและถ่ายภาพ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ภาควิชาศึกษาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเนื่องในวาระเทศกาลงานประจำปีไหว้เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ หลวงปู่ฤาษีนารายณ์ และงานประเพณีแห่นาคและอุปสมบทหมู่ของหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนึรสวรรค์ มีนาคม ๒๕๕๔

หมายเลขบันทึก: 433752เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2011 23:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

งง ค่ะ แวะมาเรียนรู้ได้ข้อคิดกลับไป แต่กลับมาอีกครั้งเม้นท์หายไป

             

ชอบบรรยากาศแบบในภาพนี่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับพี่คุณครูต้อยติ่งครับ

  • มุมนี้กับภาพชุดนี้ หากใครเป็นคนหนองบัวหรือเคยไปสัมผัสหนองบัว ก็จะรู้สึกว่าให้ภาพความเป็นหนองบัวต่างไปจากเดิมๆมากเลยครับ โดยทั่วไปแล้วหนองบัวจะร้อนแล้ง มีแต่ภาพทุ่งนากว้างๆ ต้นไม้และป่าแห้งๆ ภาพชุดนี้เลยเล่าและชวนเดินดูอีกด้านหนึ่งที่เป็นความร่มรื่น ความละเอียดประนีต ความเป็นศิลปะ อ่อนโยน สงบเย็น มีมิตรภาพ สมานสามัคคี ดูแล้วก็ได้เห็นมิติที่หลากหลาย จนคนท้องถิ่นเองเป็นจำนวนไม่น้อยก็ได้เห็นไปด้วยกันในคราวนี้มากขึ้นเลยครับว่าหนองบัวมีอะไรอยู่อีกมากเลย
  • ขอบพระคุณที่แวะมาเยือนและแบ่งปันทรรศะกันครับ คุณครูต้อยติ่งหายไปไหนเป็นครู่เลยนะครับ
  • หมู่นี้ผมเองก็งงหลายครั้งเหมือนกันครับ บางทีโพสต์ลงไปแล้วก็กลายเป็นข้อความหายไปหมด แถมโปแกรมในเครื่องบอกให้ใส่ข้อความก่อนเสียอีก หลายครั้งก็พลอยหมดแรงไปเลยเพราะมักจะทำเพื่อพักผ่อนไปด้วยตอนล้าๆจากงานอื่น แต่ปรกติในระบบและเว็บอื่นๆก็จะเป็นอย่างนี้แหละครับ บางเว็บนี่ข้อมูลเป็นกระตั่กหายเป็นกระบิทั้งหมดทั้งภาพและข้อความเลยครับ นึกถึงทีไรก็จะเสียดายมากครับ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะส่วนที่ช่วยได้มากมีมากกว่าข้อที่อาจติดขัดบ้างเล็กๆน้อยๆ

สวัสดีครับครูต้อยติ่งและพี่วิรัตน์

ภาพนี้พี่วิรัตน์ถ่ายมาได้สวยและได้อารมณ์มาก มีฉากหน้าเป็นดอกคูน และฉากหลังมีเมฆและท้องฟ้าสวยงาม แลเห็นผืนน้ำเกาะลอย ชุมชนที่เห็นอยู่รายรอบเกาะลอยนั้น ไม่ได้ปลูกติดตลิ่งเกาะลอยนะครับ จากขอบตลิ่งที่ยกสูงขึ้นมานั้น จะมีถนนปูนซีเมนต์ขนาดรถยนต์ 2 คันวิ่งสวนกันได้แบบเฉียดๆ และจากนั้นถึงจะเป็นชุมชนรายรอบ ที่ขอบตลิ่งก็จะทำเป็นทางซีเมนต์กว้างประมาณ1-2 เมตรเพื่อให้ชาวบ้านได้สัญจรและออกกำลังกายรอบเกาะยามเช้ายามเย็น

ผมเคยเขียนไว้เรื่องเกี่ยวกับเกาะลอย เดี๋ยวจะลองไปค้นดู แล้วเอามารวบรวมไว้ที่นี่้

นี่ถ้าหากรอบเกาะลอยมีที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจและที่สำหรับทำกิจกรรมนอกบ้านของชุมชน รวมทั้งปลูกต้นไม้ให้ร่มและดอกรอบอ่างเกาะลอยแล้วละก็ คงจะเป็นที่ที่สวยงามและมีเสน่ห์มากของหนองบัวเลยนะครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

บรรยากาศดี ทิวทัศน์งดงาม ดูร่มรื่นจังค่ะ

เรียนท่านอ ภารกิจมีมาก ส่วนมากเป็นเรื่องจิตอาสาหมุนไปหมุนมาเพลียก็เข้าบ้านพักอ่านบันทึกเติมพลังค่ะแต่บ่อยครั้งเจออย่างท่านว่าก็มึนงงเป็นธรรมดา คาดว่าเป็นความพยายามของเว็บนี้ค่ะที่พัฒนาอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน ก็ได้เรียนรู้โลกของอินเทอร์เน็ตไปด้วยในตัว

ตอนนี้ซื้อโน๊ตบุคติดตัวไว้ สืบเนื่องจากพิษทัยรอยด์ทำให้เขียนหนังสืออ่านไม่เป็นตัวจดบันทึกอะไรไว้นานๆก็จะอ่านลายแทงตัวเองไม่ออก การที่ได้มีแหล่งเรียนรู้แลกเปลี่ยนทัศนะแบบแนวนอนเช่นนี้ถือเป็นวาสนาให้ได้ฝึกคิดพัฒนาความคิดอย่างสร้างสรรค์ และได้ฝึกสมาธิ ฝึกจิตให้อยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ปัจจุบัน เขียนบันทึกในสิ่งที่คิดที่เกิดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลายมืออีกแล้ว

การถ่ายรูปของท่านอ แม้จะไม่เคยเห็นตัวหนังสือบอกเล่าเทคนิคการถ่ายภาพในบันทึก แต่ภาพที่ท่านถ่ายมานั้นกลับเป็นสื่อให้คิด และเห็นมุมมอง มุมคิดของการถ่ายรูปแบบสร้างสรรค์ให้ได้เรียนรู้ เอารูปนี้มาฝากค่ะ ขึ้นไปถ่ายที่พะเนินทุ่ง อแก่งกระจานค่ะ

สวัสดีครับคุณณัฐรดาครับ
ได้รับหนังสือการเขียนดอกกุหลาบ 'ง่ายแต่เนี๊ยบ' ของคุณณัฐรดาแล้วครับ น้องๆและคนที่ได้เห็นต่างก็ชื่นชม ยิ่งผมจัดวางเรียงตั้งแต่เล่มแรกจนถึงเล่มล่าสุดเป็น ๔ เล่มแล้ว ก็ยิ่งชื่นชมกันใหญ่ หนังสือดูทำสวยงามดูดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ ส่วนเนื้อหาและเรื่องราวของคุณณัฐรดานั้นเยี่ยมเสมออยู่แล้ว
ขอบคุณมากอย่างยิ่งเลยครับ

สวัสดีครับคุณครูต้อยติ่งครับ
รูปถ่ายแทนสายตาและฝีมือการเล่นกล้อง
ที่บันทึกความสุขความประทับใจตอนไปเที่ยวนี่
ก็มีเสน่ห์เหมือนเป็นลายมืออย่างหนึ่งเลยนะครับ
ขอบพระคุณที่นำรูปสวยๆมาแบ่งกันดูครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท