กุลมาตา
นาง ธันยา พิชัยแพทย์(นามสกุลเดิม) แม็คคอสแลนด์

ทำดีไม่ขึ้น..จริงหรือ


การให้ถือว่าเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เป็นตัวตัดความโลภ เมื่อความโลภมันตัดได้แล้ว กิเลส มันก็ยังอยู่อีกตัวหนึ่ง คือ ความโกรธเขาก็มาซ้อม ต้องจำไว้ว่าคนมีทั้งดีทั้งเลว จำไว้ว่าในโลกนี้ถึงจะทำความดีขนาดไหนก็ตาม คนที่เห็นความดีมันเห็นยาก ก็ไม่ควรจะมาโลกนี้อีกต่อไป ตัดสินใจอย่างนี้นะ ของที่ให้ไปแล้วก็ถือว่าก็แล้วกันไป ไอ้ที่เขาว่าก็ถือเป็นอโหสิกรรมไป แต่ว่าจำหน้าไว้ว่าคนนี้ไม่ควรให้ต่อไป ต้องทำตามพระพุทธเจ้าบอกอย่างบิดาท่านวิสาขาท่านแนะนำว่า "ผู้ให้เราจงให้ ผู้ไม่ให้เราอย่าให้" ถ้าเราให้เขาไป สมมุติเขามายืมของไป เขาส่งคืนเราก็ให้เขาต่อไป ถ้ายืมของไปแล้วเขาไม่ส่งกลับ คนนั้นเลิกให้ต่อไป แล้วไอ้คนที่เราให้ไปแล้วไม่รู้สึกคุณ ก็ไม่ควรจะให้ต่อไป(จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม 5)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทำความดีดีอย่างไรไยไม่เห็น

 ทำแทบเลือดตากระเด็นไม่เห็นหรือ

เพราะเหตุใดไยที่ทำพร่ำฝึกปรือ

ไยเล่าลือดื้อด้านพาลไม่ดี

 

.

ครูอาจารย์ท่านสอนยังอ่อนนัก

จิตที่ให้ไม่หนักสลักศรี

เป็นมงคลกว่าคิดเอาไม่เข้าที

ทำความดีเพื่อดีดีขึ้นใจ”

 

..

 “กุลมาตา”

๑๕ มีนา ๒๕๕๔

..

 

ช่วง ๒ อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งต้องพาลูกไป “ขี่ม้าบำบัด”

กระเตงลูกจากบ้านที่เมืองนนทบุรี ไปถึงหมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง

แถบบางกะปิ ไกลกันคนละฟากเมือง

แม่ขับรถไม่ได้ ก็ต้องใช้บริการรถสาธารณะ

รถเมล์ รถตู้ รถแท๊กซี่ รถสองแถวฯ

โชคดีที่ปัจจุบัน มีบริการรถตู้มาก ใช้เส้นทางที่สะดวก

รวดเร็วกว่ารถเมล์มากค่ะ

ไม่เช่นนั้น คงต้องใช้เวลามากมายในการเดินทางกระเตงลูกชายไป

..

 

 

 

ณ วันหนึ่งที่แม่พาลูกขึ้นรถตู้ไปขี่ม้าบำบัด

บังเอิญได้ยินบทสนทนาของ ๒ หนุ่มที่นั่งด้านหลังเราชัดเจน

ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเธอหรอกค่ะ แต่หูได้ยินและสะดุ้งโดยอัตโนมัติ

เมื่อหนุ่มหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองเป็นพี่พูดว่า..”ทำดีไม่ขึ้น”..

วิญญาณครูกระตุกให้คิดหลายครั้งค่ะ เพราะเท่าที่ได้ยินจากที่คุยกัน

ทั้งสองหนุ่มยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกัน

“ถ้าเป็นลูกศิษย์ละก็..ฮึ่ม..ต้องจับมานั่งอธิบายให้ฟังซะแล้ว”

วิญญาณครูของดิฉัน อดปรุงแต่งฟุ้งไปไม่ได้

เพราะไม่อยากเห็น “อนาคตของชาติ”

คิดแบบไม่มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม

..

 

ดิฉันเองยอมรับเลยว่า ประสบกับการทำความดี

ที่คนไม่เห็นความดีมาตลอดนับจากอดีตถึงปัจจุบัน

ถามว่ารู้สึกแบบเด็กหนุ่มคนนั้นไหม ตอบได้ทันทีว่า “ไม่เลย”

แต่ที่ท้อ ล้า สับสน บ่น หรือโต้ตอบมาตลอดนั้น

เป็นเพราะเหนื่อย รวมทั้งแก้ปัญหาไม่ตรงจุดมากกว่า

หากความมั่นใจในการทำความดี

และการยอมรับข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นไม่เคยหมดค่ะ

โชคดีที่คุณแม่สอนมาแต่เด็ก และได้ฟังธรรมกับคุณแม่

แม้ท่านจากไปนานหลายปีแล้ว

ดิฉันก็ได้ดำเนินรอยตามคุณแม่ พาลูกเข้าวัด

แม้จิตใจยังไม่มั่นคง เพราะเจอปัญหา อุปสรรคมากมายในชีวิต

แต่ศรัทธาในธรรมะ การทำความดีมั่นคงแน่นอนค่ะ

เชื่อว่าเรายังทำดีไม่ถึงดี ยังแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

จึงยังไม่หลุดและยังทุกข์ยังกังวลอยู่บ้าง

เมื่อเจอปัญหา อุปสรรค ขวากหนาม ในแต่ละครั้ง

โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงลูก คนดูถูก คนเข้าใจผิดๆ

คนแกล้ง แข่งแย่ง คนอิจฉา หมั่นไส้สารพัด

ขนาดคนมีการศึกษาดี อาชีพการงานดีบางคน

หรือแม้แต่ญาติพี่น้องก็ตำหนิ และไม่สนับสนุนเรา

เพราะเขาคิดและทำตรงกันข้ามกับเรา

และอยากแย่ง อยากแข่งกับเรานั่นเอง

ไม่รวมชาวบ้านการศึกษาน้อย หรือคนบนเวบบางคนที่คิดแบบนี้

..

 

 

 

 ดิฉันคิดเสมอว่า..เพราะมีเหตุปัจจัยจากภายนอกที่เป็นอุปสรรค

ไม่ใช่แค่ตัวเราที่ยังมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข

เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก

จึงไม่สงสัยเรื่องการทำความดีแล้วต้องขึ้น ต้องได้เสมอไปค่ะ

แค่สุขใจว่าเราได้ทำ  ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร

ทำแล้วได้ผลดีตามเป้าก็ดีไป ยังไม่ได้ก็แก้ไขทำต่อไปค่ะ

มีกัลยาณมิตรทางธรรมให้คำปรึกษาที่ดี เป็นกำลังใจให้

แค่นี้..ก็สุขพอแล้วค่ะ "ดี" ขึ้นแล้วสำหรับการทำความดีของเรา

..

 

ขอนำการตอบคำถามเรื่อง “ทำดีไม่ขึ้น”

จากเวบhttp://board.palungjit.com/

มาฝากเป็นข้อคิดกันท้ายบันทึกนี้ค่ะ

..

 

 

ทำความดีไม่ขึ้น

ผู้ถาม: "แต่รายนี้บอกว่าเจ็บใจเหลือเกินเจ้าคะ ทำความดีมาหลายครั้ง ปรากฏว่าทำบุญแล้วไม่ขึ้น"


หลวงพ่อ:
"จะขึ้นไปไหน....การให้ถือว่าเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เป็นตัวตัดความโลภ เมื่อความโลภมันตัดได้แล้ว กิเลส มันก็ยังอยู่อีกตัวหนึ่ง คือ ความโกรธเขาก็มาซ้อม ต้องจำไว้ว่าคนมีทั้งดีทั้งเลว จำไว้ว่าในโลกนี้ถึงจะทำความดีขนาดไหนก็ตาม คนที่เห็นความดีมันเห็นยาก ก็ไม่ควรจะมาโลกนี้อีกต่อไป ตัดสินใจอย่างนี้นะ ของที่ให้ไปแล้วก็ถือว่าก็แล้วกันไป ไอ้ที่เขาว่าก็ถือเป็นอโหสิกรรมไป แต่ว่าจำหน้าไว้ว่าคนนี้ไม่ควรให้ต่อไป ต้องทำตามพระพุทธเจ้าบอก อย่างบิดาท่านวิสาขาท่านแนะนำว่า "ผู้ให้เราจงให้ ผู้ไม่ให้เราอย่าให้" ถ้าเราให้เขาไป สมมุติเขามายืมของไป เขาส่งคืนเราก็ให้เขาต่อไป ถ้ายืมของไปแล้วเขาไม่ส่งกลับ คนนั้นเลิกให้ต่อไป แล้วไอ้คนที่เราให้ไปแล้วไม่รู้สึกคุณ ก็ไม่ควรจะให้ต่อไป"


จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม 5

http://www.praruttanatri.com/member/htm/tdmk.html

 

 

ศีลธรรม คุณธรรม และจรรยา

ต้องกลับมา..เป็นเช่น..ลมหายใจ

คำสำคัญ (Tags): #การให้ถือว่าเป็น จาคานุสสติกรรมฐาน เป็นตัวตัดความโลภ เมื่อความโลภมันตัดได้แล้ว กิเลส มันก็ยังอยู่อีกตัวหนึ่ง คือ ความโกรธเขาก็มาซ้อม ต้องจำไว้ว่าคนมีทั้งดีทั้งเลว จำไว้ว่าในโลกนี้ถึงจะทำความดีขนาดไหนก็ตาม คนที่เห็นความดีมันเห็นยาก ก็ไม่ควรจะมาโลกนี้อีกต่อ#ตัดสินใจอย่างนี้นะ ของที่ให้ไปแล้วก็ถือว่าก็แล้วกันไป ไอ้ที่เขาว่าก็ถือเป็นอโหสิกรรมไป แต่ว่าจำหน้าไว้ว่าคนนี้ไม่ควรให้ต่อไป ต้องทำตามพระพุทธเจ้าบอก อย่างบิดาท่านวิสาขาท่านแนะนำว่า "ผู้ให้เราจงให้ ผู้ไม่ให้เราอย่าให้" ถ้าเราให้เขาไป#มมุติเขามายืมของไป เขาส่งคืนเราก็ให้เขาต่อไป ถ้ายืมของไปแล้วเขาไม่ส่งกลับ คนนั้นเลิกให้ต่อไป แล้วไอ้คนที่เราให้ไปแล้วไม่รู้สึกคุณ ก็ไม่ควรจะให้ต่อไป(จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษเล่ม 5)
หมายเลขบันทึก: 431282เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2011 16:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะ....

ถ้าเราคิดในทางบวกไว้ก่อน  อาจเป็นเพราะเด็กคนนั้นเขายังอ่อนทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ

มังคะ  เขาจึงพูดออกมาแบบนั้น  แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าที่เขาทำความดีไปนั้น 

ดีแค่ไหนหรือดีกับใคร

ขอบคุณกับข้อคิดจากหลวงพ่อที่นำมาฝากนะคะ....

การขี่ม้าบำบัดของลูกชายได้ผลประการใดเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ  เอาใจช่วยเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะ

มุมมองของคนแต่ละวัยนั้นต่างกัน

สนามประสบการณ์ของแต่ละคนอาจทับซ้อนกันน้อยไปหน่อย

ผ่านพ้นไปสักพัก........ก็จะเข้าใจไปเอง

 สวัสดีค่ะ

ทำดี ได้ทันทีคือ ได้ "ดี" และ  "ถูกต้อง " เกิด "สุข" เมื่อทำ

ดังนั้นใครเห็นหรือไม่เห็น รู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ไช่สาระ ขอให้ทำดีต่อไป เราก็จะดีเอง

ตอนนี้หวังว่าคุณกุลมาตา คงผ่านพ้นปัญหาได้แล้วนะคะ ยังเอาใจช่วยค่ะ

 

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • การทำความดีไม่ต้องไปหวังผลอะไรเลยเนาะ
  • ทำเพราะอยากทำ

สวัสดีค่ะ

ขอให้กำลังใจกับกิจกรรมการบำบัดน้องนะคะ 

พี่คิมมีความรู้สึกเช่นเดียวกับการถ่ายทอดของอาจารย์ในบันทึกนี้มาก ๆ ค่ะ  เมื่อเราได้ยินหรือรับทราบรับเห็นบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ  ก็อดที่จะคิดตามไม่ได้ค่ะ

พี่คิมเชื่อเพียงแต่ว่า "ทำดีคือดี"  แต่ไม่คอยสนใจกับคำว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"  เพราะเหมือนกับเป็นกิเลสที่ต้องหวังสิ่งตอบแทนค่ะ

ความขัดแย้งมักจะเกิดขึ้นเสมอกับคนที่คิดเห็นไม่ตรงกัน  แต่ซึ่งอาจารย์ได้ฝึกเรียนรู้และสนใจปฏิบัติธรรมะ  พี่คิมมั่นใจว่าอาจารย์และลูกสามารถหลุดจากความทุกข์กังวลได้ง่ายค่ะ

ขอขอบคุณ  สำหรับข้อคิดที่แบ่งปันและเพลงสายลมแห่งจริยธรรมค่ะ

คุณkrugui Chutima ค.ห.๑

 

ขอบคุณข้อคิดดีๆ ของคุณครูที่มาแสดงความคิดเห็นค่ะ

เห็นด้วยค่ะว่าเพราะเขายังเด็กกันอยู่ แต่ถ้ามีโอกาสที่เหมาะ

ครูหรือผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด ควรอธิบายให้เขาฟังค่ะ

เราเป็นคนอื่น ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่กล้าบอกเขา ได้แต่คิดในใจ

ถ้าเป็นนศ.ในสถาบันเราก็พอจะบอกเขาได้ โดยบอกว่าครูก็สอนที่สถาบันนี้

อยากเล่าเป็นอุททาหรณ์ว่า ผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดเด็ก หรือแม้แต่เพื่อน

ก็ควรช่วยกันบอกค่ะ เขาจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เขานะคะ

เหมือนลูกเรา ลูกศิษย์เรา เราก็ต้องสอนต้องบอกเขา

..

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ลูกชายค่ะ

เพิ่งไปขี่ม้าบำบัด ๓ ครั้ง ยังไม่เห็นผลทันที

แต่โชคดีที่ไม่กลัวม้า เพราะเขารักสัตว์อยู่แล้ว

คุยกับคุณแม่เด็กที่บำบัดมานาน ๗-๘ เดือน

เธอบอกว่าได้ผลค่ะ ประกอบกับการรักษาดูแลของแพทย์ พ่อแม่ด้วยนะคะ

 

คุณครูนาย ค.ห.๒

 

ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นดีๆค่ะคุณครู

ในฐานะที่เป็นครู ก็อดเป็นห่วงเด็กๆ อนาคตของชาติไม่ได้ค่ะ

เชื่อว่าถ้าสังคม ที่ใกล้ชิดเขาช่วยอธิบาย น่าจะดีกว่าปล่อยให้เขาคิดแบบนั้น

โอกาสที่เขาจะไปทำ "ความชั่ว" เพราะทำดีไม่ขึ้น ก็เป็นไปได้มาก

ช่วยกันบอกพวกเขาให้คิดบ้าง ถ้ามีโอกาสเหมาะสม เช่น เด็กที่เรารู้จัก

เด็กบางคนที่ฉลาดแต่ไม่เคยรู้ ก็มีโอกาสเปลี่ยนความคิด ค่านิยมเร็วขึ้น

ก็จะเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้น มีวุฒิภาวะมั่นคงขึ้น เป็นเรื่องที่ดีนะคะ

คุณmee_pole ค.ห.๓

 

ขอบคุณมากค่ะ คุณmee_pole

ตรงใจมากค่ะเรื่องการทำความดีแล้วเห็นผลที่ใจเรานั่นเอง

เชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่ได้มาในปัจจุบันเป็นผลจากการทำดีของเรา

ส่วนเรื่องที่ไม่ดี ก็มีทั้งเหตุปัจจัยภายนอก และการกระทำของเรา

รวมทั้งการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดด้วย

..

ช่วงนี้คนข้างบ้านก็เงียบไปบ้าง เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดอะไรได้มากหรอกค่ะ

อายุมากกว่าเราด้วยซ้ำ เขาเป็นของเขาแบบนั้นมาเกือบค่อนชีวิตแล้ว

เราต้องหยุดที่ตัวเราจริงๆ บ้านก็เป็นของน้องชาย ยังไงก็ต้องย้าย

ที่มาอยู่เพราะย้ายรร.ตอนป.๓ รอดูว่า ๑ ปีผ่านไปอยู่ได้มั้ย ไม่ได้ต้องย้ายอีก

เพราะเรื่องย้ายรร.ของลูก เลยยังไม่ settle down ค่ะ

ถ้าแน่นอนเมื่อไหร่ ก็จะได้ขายบ้านเก่าของเราเอง มาซื้อบ้านใหม่เสียทีค่ะ

 

ทำดีนั้นดีแน่ครับ แต่ทำดีแล้วไม่ขึ้น ก็ต้องเข้าใจ ว่าเราอาจทำดีแต่ไม่ถูกจุด หรือ ด้วยเหตุอื่นๆ ทุกสิ่งล้วนเกิดแต่เหตุ .. ขอบคุณครับ

คุณยาย ค.ห.๔

 

ทำดีเพราะคิดดีทำจากใจค่ะ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

เป็นสัจจธรรม เป็นธรรมชาติ เป็นวิทยาศาสตร์ ได้รับการยอมรับแล้วว่าจริง

ขอบคุณคุณยายที่มาแสดงความคิดเห็น และมอบภาพดอกไม้สวยๆค่ะ

 

คุณคิม นพวรรณ ค.ห.๕

 

ขอบพระคุณพี่คิมอย่างสูงค่ะที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา ในทุกๆเรื่อง

อยากแบ่งปันประสบการณ์ ข้อมูล เรื่องราวต่างๆ ที่แม่คนหนึ่งได้ทำให้ลูกค่ะ

การที่หน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม คือครอบครัว

ดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นคนดี มีศักยภาพตามที่เขาเป็นจริง

เป็นประโยชน์ให้สังคมและโลกได้ ไม่เป็นภาระของสังคม สร้างปัญหาให้สังคม

เป็นเรื่องที่ครอบครัวต้องทำจริงๆค่ะพี่

เด็กๆที่มีอาการน้อยๆ เช่น ลูกชาย ถ้าได้รับการบำบัด การรักษา

เลี้ยงเขาด้วยความรัก ความเข้าใจ ก็ช่วยให้เขาดีขึ้นได้

ดึงความสามารถ ศักยภาพที่เขามีออกมา

ที่สำคัญการปฏิบัติธรรม เป็นส่วนช่วยได้มาก ยิ่งถ้าทำได้มั่นคงค่ะ

โดยภาพรวม  ทุกอย่างก็ดีขึ้น มั่นคงขึ้นบ้างค่ะพี่

ปัญหา อุปสรรคนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้น

เรามีหน้าที่ต้องแก้ไข เรียนรู้ทั้งโลกทั้งธรรมค่ะ

โชคดีที่มีกัลยาณมิตร คอยเตือนสติทุกครั้งที่ทุกข์ มองผิด

ตอนนี้ก็คลายทุกข์ กังวลลงไปมากแล้วค่ะ

ส่วนลูกชายยังเด็ก เขาร่าเริง แจ่มใส ไม่คิดมากอยู่แล้วค่ะ

คุณบีเวอร์ ค.ห.๖

 

ขอบคุณมากค่ะ ที่มาแสดงความคิดเห็นดีๆ มีประโยชน์

คิดตรงกันค่ะ อย่างที่ทราบกันอยู่ คนดี ทำดี แต่ผิดที่ ก็ไม่ขึ้นแน่นอน

ต้องคิดให้ดี ให้รอบคอบด้วยค่ะ จะทำดีกับใคร ที่ไหน อย่างไร

แม้ในระดับโลก ระดับชาติ ก็ยังเห็นความอยุติธรรมกับคนทำดีเลยนะคะ

คิดว่าทำดีไม่ขึ้นไม่มีนะครับ

มีแต่ยังทำดีไม่พอนะครับ

ว่าอย่างนี้นะ

คุณโสภณ ค.ห.๗

 

นี่สิคะ..ยอดเยี่ยมค่ะ..ทำดียังไม่พอ..หรือทำดีไม่ถึงดี

เพราะเด็กหรือแม้แต่เราเอง คงไม่ได้ทำอะไร perfect ได้ทุกอย่าง

มีข้อไม่ดี ข้อบกพร่องที่ทั้งรู้ตัว ไม่รู้ตัว ทำให้พลาดเป้าหมายหรือไม่ได้ดังที่คาดหวัง

สั้นๆ แต่ถูกต้องจริงๆค่ะท่านกวีธรรมโสภณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท