ความสำคัญของ "นโม" ๒


     บทสวด นโม ย่อมบรรจุพระพุทธคุณสำคัญทั้ง ๓ บท ไว้ดังนี้ และพระพุทธคุณทั้ง ๓ บท ก็ย่อมบรรจุด้วยพระปัญญาคุณ คุณคือความรู้จริง พระวิสุทธิคุณ คุณคือความบริสุทธิ์จริง พระกรุณาคุณ คุณคือพระกรุณาจริง อันเป็นบทสรุปของพระพุทธคุณทั้งปวง แต่แม้เช่นนั้น ความหมายของบทพุทธคุณทั้ง ๓ บท ในบทสวดนโมนี้ ย่อมมีพระพุทธคุณบทใดบทหนึ่งที่เด่นกว่าพระพุทธคุณบทอื่น ก็คือ บทว่า ภควโต แด่พระผู้มีพระภาค อันเป็นบทที่ ๑ นั้น เด่นอยู่ด้วยพระกรุณาคุณในความหมายที่ใช้กันว่าพระผู้จำแนกแจกแจงธรรมสั่งสอนประชุมชน หมายถึงพระกรุณาที่ทรงจำแนกแจกแจงธรรม คือ ทรงแสดงธรรมสั่งสอน

           

     บทว่า อรหโต เป็นพระอรหันต์ เด่นอยู่ด้วยพระวิสุทธิคุณ คุณคือความบริสุทธิ์ ในความหมายว่า เป็นผู้ไกลลกิเลส เพราะความเป็นผู้ไกลกิเลสนั้นแสดงถึงความบริสุทธิ์ จึงเด่นด้วยพระวิสุทธิคุณ

           

     บทว่า สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า เด่นด้วยพระปัญญาคุณ ดังนี้ เพราะฉะนั้นบทสวด นโม จึงเป็นบทที่ประกอบด้วยพระคุณสำคัญ ๓ บท สมบูรณ์ด้วยพระคุณทั้ง ๓ นำหน้าด้วยพระกรุณาคุณ และต่อไปด้วยพระวิสุทธิคุณ หนุนท้ายด้วยพระปัญญาคุณ

     ในข้อนี้ก็น่าที่จะพิจารณาว่า ทำไมท่านจึงเอาบท ภควโต นำหน้า  อรหโต มาเป็นที่ ๒ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เป็นที่ ๓ เพราะเมื่อเรียงพระคุณโดยทั่วไป ย่อมเรียงพระปัญญาคุณไว้เป็นที่ ๑ พระวิสุทธิคุณเป็นที่ ๒ พระกรุณาคุณเป็นที่ ๓ สำหรับบทสวดที่แสดงพระคุณทั้ง ๓ นี้ที่เรียงด้วยพระปัญญาคุณไว้หน้าก็มีอยู่ แต่ว่าจะกล่าวต่อไป สำหรับในที่นี้กลับกันเอาพระกรุณาคุณไว้หน้า เอาพระปัญญาคุณไว้หลัง ก็น่าคิดว่า เพราะเหตุว่าบทสวด นโม นี้ บังเกิดขึ้นจากจิตใจของเทพบ้าง มนุษย์บ้าง ซึ่งเกิดศรัทธาปสาธะในพระพุทธเจ้า จึงได้เปล่งวาจาน้อมนมัสการขึ้น ซึ่งความรู้สึกสำนึกประกอบด้วยศรัทธาปสาธะจนถึงกับเปล่งวาจานี้ขึ้นนั้น ก็น่าคิดว่า เพราะได้มีความสำนึกในพระกรุณาคุณ ที่ตนได้รับจากพระพุทธเจ้า ที่ได้ทรงจำแนกแจกแจงธรรมสั่งสอน  จนได้ความรู้ความเข้าใจจนถึงได้ดวงตาเห็นธรรมก็มีเป็นอันมาก  เพราะฉะนั้น  จึงบังเกิดขึ้นจากความสำนึกในพระกรุณาคุณที่ตนได้รับจากพระพุทธเจ้า  ได้รับความรู้ความเห็นธรรม ความรู้ความเข้าใจในธรรม จึงได้ยกเอาบทที่แสดงพระกรุณาคือ ภควโต พระผู้มีพระภาค คือพระผู้จำแนกแจกแจงธรรมขึ้นเป็นบทที่ ๑ และก็มาถึงบทที่ ๒ อันแสดงถึงพระวิสุทธิคุณ  เด่นด้วยพระวิสุทธิคุณคือ  อรหโต  ก็เป็นธรรมดา บทนี้ก็เป็นที่ ๒ อยู่โดยปกติ และก็เกิดจากจิตใจของผู้ที่เปล่งถ้อยคำนี้  อันประกอบไปด้วยความบริสุทธิ์ผ่องแผ้วทางจิตตลอดจนถึงทางกาย ทางวาจา แล้วจึงมาถึงปัญญาคุณหนุนท้าย อันส่องถึงว่าพระองค์เป็นสัมมาสัมพุทธะ ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบเป็นหลักเป็นแกนสำคัญ ดังนี้ พิจารณาดูจิตใจของผู้ที่เปล่งถ้อยคำนี้ออกมาก็น่าจะเป็นดังนี้ คือบังเกิดด้วยความสำนึกอย่างลึกซึ้งในพระกรุณาคุณที่ได้รับจากพระพุทธเจ้า จึงได้ยกเอาพระพุทธคุณประกอบด้วยมหากรุณานี้เป็นบทที่ ๑ คือ ภควโต ก็คือผู้จำแนกแจกธรรม

     เพราะฉะนั้นผู้ที่เปล่ง นโม นี้ขึ้นมา  จะต้องมีความรู้ซาบซึ้งในพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้ง  แสดงว่าได้สดับตรับฟังธรรมที่ทรงแสดง มีความรู้ความเข้าใจ  บังเกิดศรัทธาปสาธะ คือความรู้ความเลื่อมใส  ได้ปัญญา  จึงได้เปล่งขึ้นมา  จับเอาพระพุทธคุณบทสำคัญขึ้นมา  เพราะฉะนั้น จึงได้นับว่าเป็นบทสำคัญ ซึ่งสวดมนต์อะไรก็จะต้องนำด้วย นโม จะประกอบพิธีกรรมสำคัญอะไร  ก็จะตั้งตั้ง นโม ขึ้นก่อนอยู่เป็นปกติ

     และยังมีบทสวดที่สรุปพระพุทธคุณทั้ง ๓ ไว้อย่างสมบูรณ์  ที่เราทั้งหลายสวดอยู่ในเวลาทำวัตรเช้าทุกวัน ก็คือ พุทฺโธ  สุสุทฺโธ กรุณามหณฺณโว บรรทัดแรกนี้บรรทัดเดียว ก็บรรตุด้วยพระพุทธคุณทั้ง ๓ จำไว้เพียงบรรทัดเดียวก็บรรจุพระพุทธคุณทั้ง ๓ พุทฺโธ พระผู้ตรัสรู้ แสดงถึงพระปัญญาคุณ สุสุทฺโธ  พระผู้บริสุทธิ์ดี แสดงถึงพระวิสุทธิคุณ  กรุณามหณฺณโว มีพระคุณดุจห้วงทะเลหลวง  แสดงถึงพระกรุณาคุณ  เพราะฉะนั้น บรรทัดเดียวเท่านี้ พุทฺโธ สุสุทฺโธ  กรุณามหณฺณโว  ประกอบด้วยพระพุทธคุณอย่างสมบูรณ์ คือ พระปัญญาคุณ  พระวิสุทธิคุณ  พระกรุณาคุณ ฉะนั้น  เมื่อเราทั้งหลายได้สวดบท นโม ก็ขอให้ตั้งใจกำหนดในพระพุทธคุณทั้ง ๓ ให้รู้ในพระพุทธคุณทั้ง ๓ ไปด้วย และเมื่อสวด พุทฺโธ สุสุทฺโธ กรุณามหณฺณโว  ก็ขอให้ทำความเข้าใจในพระพุทธคุณทั้ง ๓ ไปด้วย จะเป็นประโยชน์มาก

หมายเลขบันทึก: 431136เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2011 16:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท