ep. 3 ^_^
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันจนหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำกิจกรรมกันในตอนบ่ายนี้ คุยกันเพลินจนเราลืมนึกไปว่ายังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง นั่งในรถกระบะกันทั้งสองคันแล้วก็ขับรถออกมาจากบ้านน้องเก่งเพื่อไปเดินป่าที่ ต.ดอนกลอย อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด ที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
รถเคลื่อนตัวออกมาได้ประมาณสิบนาที น้องสามซึ่งนั่งมาในรถคันเดียวกันกับเราก็พูดชื่อของคนๆหนึ่งขึ้นมา คุยกันไปมาถึงได้รู้ว่าทุกคนลืม วิพุธ หรือต้า นักศึกษาปริญญาโทจากรั้วมหาจุฬาลงกรณ์ ซึ่งนอนหลับอยู่ในห้องตั้งแต่มาถึง โดยส่วนตัวเรารู้จักกับวิพุธเพราะเคยฝึกงานเจอกันที่โรงพยาบาลศิริราช
วิพุธเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่จบจากมหิดล เป็นคนที่มีความคิดเฉียบคม คิดวิเคราะห์ได้แตกต่างจากคนทั่วไป สมัยฝึกงานด้วยกันเราทึ่งในการตรวจและการพูดคุยกับคนไข้ของวิพุธมาก จำได้ไม่ลืมที่เขาให้ธรรมมานามัยกับคนไข้คนหนึ่งอยู่ร่วมชั่วโมงโดยไม่ต้องส่งไปทำหัตถบำบัด รู้สึกดีใจที่จะได้เจอวิพุธอีกครั้งในค่ายครั้งนี้ แอบหวังจะได้เห็นการตรวจคนไข้ระดับเทพของเขาอีกซักครั้ง
วิพุธกำลังเรียนปริญญาโทที่มหาจุฬาลงกรณ์ เขาเรียกสิ่งที่เขาเรียนว่าเป็น ศิลปะการใช้ชีวิตแบบวิถีพุธ โดยส่วนตัวเขามีความเชื่อว่าการรักษาคนไข้จะต้องเป็นไปในลักษณะองค์รวม คือดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ หลักสูตรที่เขาเรียนนี้น่าจะใช้กับคนไข้ของเขาได้มากที่สุด เราฟังวิพุธเล่าเกี่ยวกับการเรียนของเขาด้วยความคิดชื่นชม คนๆนี้ก็รักในวิชาชีพไม่แพ้น้องสาม น้องบุ๋ม และคนอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึง
ในที่สุดเราก็มาถึงรพ.สต.ประจำตำบลดอนกลอย อ.หนองอี จ.ร้อยเอ็ด มีพี่แพทย์แผนไทยมารอรับพร้อมกับหมอพื้นบ้าน เดินชมงานแพทย์แผนไทยในรพ.สต.ไม่นานแล้วพวกเราก็เคลื่อนตัวไปเดินป่า ทุกคนมารวมตัวกันทานข้าวเที่ยงที่ท้ายรถกระบะ มีข้าวเหนียวหมูทอด ยืนกินกันที่ท้ายรถเป็นที่สนุกสนาน
ป่าที่เราไปเดินเป็นป่าเต็งรัง แห้งแล้งตามฤดูที่เราไป ใบไม้ทิ้งตัวลงจากต้นเต็มพื้นดินไปหมด มองไปทางไหนก็เจอใบไม้สีน้ำตาล อากาศช่วงบ่ายอบอ้าวได้ที่ ในการเดินป่าครั้งนี้มีหมอพื้นบ้าน พี่แพทย์แผนไทย และเจ้าหน้าที่ที่หมู่บ้านอีกสองสามคนเป็นคนนำทาง เราเดินป่าไป ระวังมดแดงไปด้วย เพราะมดแดงเยอะมาก ทุกตัวมาตั้งขบวนกันอยู่ที่พื้น ตั้งตัวเป็นเจ้าถิ่นพร้อมรบ พวกเราจึงกลายเป็นผู้รุกรานพวกเค้าโดยไม่รู้ตัว
สมุนไพรที่เจอและมีมากพอที่เราจะเดินตามคนอื่นทันคือ ปลาไหลเผือก โด่ไม่รู้ล้ม แรกๆเราก็จดสิ่งที่เขาบอก หลังๆเราตามคนอื่นไม่ทันเลยอาศัยฟังเอาเป็นส่วนใหญ่ หันไปเจอน้องบอย เห็นน้องบอยตั้งหน้าตั้งตาในการเก็บสมุนไพรครั้งนี้มาก ในมือน้องบอยเต็มไปด้วยตัวอย่างสมุนไพรมากมาย เราเดินไปดูน้องเก็บโด่ไม่รู้ล้มและหอบไว้เต็มมืออย่างสนใจ น้องบอยบอกว่าเขาจะเอาไปเพาะพันธ์ ช่างเป็นเด็กที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนเอาใจใส่ในสิ่งที่ทำดีจัง
เดินป่ามาได้ซักพักเราก็เดินมาทะลุสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง หมอพื้นบ้านเล่าให้ฟังว่าที่นี่หลวงพ่อใช้สมุนไพรรักษาชาวบ้าน ตอนที่เราเดินไปถึงอีกกลุ่มกำลังถูกนำทางโดยหลวงพ่อไปดูสมุนไพรที่ป่าด้านบน เราเริ่มเหนื่อยแล้วจึงหันมาคุยกับหมอพื้นบ้านแทน
หมอพื้นบ้านท่านนี้อายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว ท่านเล่าว่า แต่เดิมก่อนที่จะมาเป็นหมอ ท่านก็เรียนเภสัชกรรมไทยมาเช่นกัน ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าจะกล้าที่จะรักษาคนไข้ นอกจากมีความรุ้เรื่องยาสมุนไพรแล้ว ท่านยังบอกอีกว่าท่านต้องนั่งสมาธิตอนกลางคืนด้วย เราเลยสงสัยว่าเหตุใดท่านถึงต้องนั่งสมาธิด้วย น้องเตยบอกเราว่าท่านนั่งเพื่อสร้างบารมีให้ตัวเอง
เรานั่งนิ่งฟังน้องเตยอธิบายแล้วคิดย้อนกลับมาดูหมอพื้นบ้านที่ทำงานของตัวเอง มีหมอสมุนไพรบางท่านที่เวลาใช้ยาท่านจะลงคาถากำกับเพื่อให้ยาสัมฤทธ์ผล การนั่งสมาธิคงจะมีผลต่อการร่ายคาถาให้ทรงอานุภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้นั่นคือความเข้าใจเอาเองของข้าพเจ้าเท่านั้นไม่ได้อ้างอิงมาจากส่วนใดๆทั้งสิ้น ผิดถูกอย่างไรต้องขอภัยไว้ ณ. ที่นี้ด้วย
หลังกลับจากเดินป่า พวกเราก็กลับมาที่บ้านน้องเก่ง เราและน้องเตยนั่งทานข้าวต่อกันอีกรอบเพราะเมื่อตอนบ่ายยังกินกันไม่อิ่มเพราะต้องรีบเดินป่า จากนั้นก็นั่งคุยสัพเพเหระกันอีกต่อหนึ่ง เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็น อาจารย์เอ็มเดินมาบอกว่าให้ทุกคนเตรียมตัวอาบน้ำจะพาไปเวียนเทียนที่วัดกันตอนเย็น วันนี้เป็นวันมาฆบูชา
ไม่มีความเห็น