ดิฉันยังเห็นว่าสังคมเราจะน่าอยู่ได้มิใช่แค่คนๆเดียวที่จะมาจัดระเบียบนะคะ แต่ที่สำคัญคือการร่วมมือกันของภาคประชาสังคมที่กล้าคิดและกล้าเสนอทางออกร่วมกันในการพัฒนากฎหมายของประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชนชนส่วนใหญ่และรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมด้วย และในขณะเดียวกันกฎเกณฑ์ดังกล่าวก็ต้องไม่ใช่"กฎหมู่"ซึ่งก็คือเกณฑ์ที่กลุ่มชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ทำให้เกิดเป็นทางปฏิบัติขึ้น เพราะมิเช่นนั้แล้วกฎหมายก็ก่อตัวขึ้นจากกลุ่มเผด็จการทางความคิดไป มิใช่แบบประชาธิปไตยอันเป็นทางปฏิบัติของคนส่วนมาก
ดังนั้นเรามาเริ่มกล้าคิด กล้าทำ ไม่ปิดหูปิดตาตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อจะได้เกิดอำนาจต่อรองกับฝ่ายผู้มีอำนาจบ้าง เพื่อจะได้ชื่อว่ากฎหมายที่เกิดขึ้นมาจากเจตจำนงค์ของสังคมส่วนใหญ่จริงๆ
ขอบใจจ๊ะที่ค้นมาเขียนให้ค่ะ น่าจะมีอ้างอิงด้วยนะว่า ที่เอามาอธิบายนี้เอามาจากไหน
แล้ว jus dispositivum ล่ะ ไม่อธิบายหน่อยหรือ
ฮิฮิ เรียกว่า ได้ห้าแล้วจะเอาสิบ