หวันตั้งดาน
"หวันตั้งดาน" หรือ "หวันตั้งดาม" สองคำนี้ มีความหมายเดียวกัน เป็นคำโบราณของคนใต้ ที่ใช้เรียกเวลายามหวันอิขึ้น หรือภาษาในอยู่ ใช้คำภาษาว่า "หัวรุ่ง" ถ้าเป็นภาษาคนบางกอกใช้คำว่า "ฟ้าสาง" ในความหมายของคำว่า"หวันตั้งดามคนแต่แรกจะใช้กับการที่นั่งแลหนังโหม่งกำลังหรอย เรื่องไม่ไม่ทันจบ หวันตั้งดาม หรือฟ้าสางทำให้แลรูปหนังไม่เห็น หรือเห็นลางๆได้ยินแต่เสียงนายหนัง กับเสียงเครื่องดนตรี หมันแลแล้วไม่ได้แรงอก(ได้อรรถรส)
ลักษณะจอหนังตะลุงที่เล่นจนรุ่งแจ้งหรือหวันตั้งดาน(ฟ้าสางขึ้นวันใหม่) ทำให้จอสว่าง ดูรูปหนังได้แต่ไม่คมชัด ตรงกับภาษาใต้ว่า ดูว้องแว้ง(ไม่ชัด)
ซึ่งเหมือนกับทุกวันนี้ที่ชาวบ้าน(หมายถึงคนในชนบท/เขตอบต.) ชาวเมือง(หมายถึงคนในเขตเทศบาล...)ที่กำลังลุ้นกับการทำมาหากิน เพื่อปลดหนี้ที่รัฐบาลสร้าง(กู้พักเดียว) หนีความยากจน.. ที่เกิดจากผลพวงประชานิยม และกำลังกลายพันธุ์เป็นประชาวิวัฒน์ แต่ปวงประชารัฐ..จากเดิมที่ทุกกะลาหัวไม่ว่าอ่อน-แก่ ต้องแบกภาระหนี้กะลาหัวละหมื่น ปัจจุบันถีบตัวพุ่งแรงเป็นหัวละแสนกว่าเกือบสองแสน. จึงเข้าทำนองที่ว่า ตั้งแต่ตั้งรัดถะบานมา.(ในหลายๆรัดถะบานที่อยู่กันไม่ค่อยจะครบเทอมกันเป็นส่วนใหญ่เพราะเกิดการฉีกหุ้น และฉีกโหลก) จนแค่อิหมดวาระ คือ.หวันตั้งดามของการเป็นรัดถะบาน อาจจะโดยการยุบสภาก็ดี การถูกยึดอำนาจก็ได้ ที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้มั่งที่เป็นการแก้ปัญหาบ้านเมืองที่สำคัญๆ เช่น การโกงกิน ทุกรูปแบบ ทุกระดับในทุกองค์กร การพนัน ยาเสพติด อาชญากรรมที่ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดหน้าฝน ผลผลิตการเกษตรราคาตกต่ำ สินค้าอาหารราคาแพงขึ้น มีการกักตุนอาหาร โดยนายทุน โร่แล้วยัง ทำแล้วยัง แก้ปัญหาแล้วยัง หรือมัวแต่ยุ่งๆอยู่กับโครงการขายไข่เป็นกิโล นี่ถ้าหากมีการยุบรัดถะบาน แล้วปัญหาที่ยังคาราคาซัง.จะให้ใครทำ..ยิ่งอยู่นานยิ่งไม่คม..ไม่ชัด..สักเรื่องเดียว..แลแล.พาให้ว้องแว้งจัง..หวันตั้งดามแล้วเด้.....
ฟ้าสางที่ทะเลน้อย
เรียนท่านอาจารย์
ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาเยี่ยม เช่นกันครับขอให้มีความสุขกับการทำงานและชีวิตส่วนตัว
สวัสดีค่ะท่านครูฑรูย์
•เห็นด้วยค่ะ
•วันนี้ไปเดินหลาดนัดควนลังมาค่ะครูฑูรย์ ลูกเขือพวง กองนิดเดียวกองนึงตั้งสิบบาทตำลึงผักหวานเก็บจากเริ่นเอามาขาย ไม่ถึงสิบยอดมัดขายกำตั้ง สิบบาท ราคาเริ่มต้นที่สิบบาทแล้ว ห้าหม้ายมีแล้ว ฮายชาดน่ะรัดถะบานไท ทำไอไหรโย๋ หมันก้อเป็นเสียพันนี่ทั้งเพ ...
ขอบคุณค่ะ
รัดถะบานมาจากนักการเมือง นักการเมืองมาจาก ชาวบ้านและประชาชนเลือก เพราะฉะนั้นสมัยหน้าประชาชนต้องใช้ภูมิปัญญาในการเลือกผู้แทน-ผู้นำ เหมือนกับคนเฒ่าๆเขาสอนให้เราเลือกถั่ว เลือกข้าว คือเลือกเอากาก ที่ที่กินไม่ได้ใช้ไม่ได้ออก ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้ใช้ภูมิปัญญาในการเลือกผู้แทน มักเลือกตามเพื่อนจึงได้ทั้งดี ทั้งกาก เข้าไปในสภา สมัยหน้าต้องคิดใหม่แล้ว
น้ำมันปาล์มแพง ส.ส.ภาคใต้ยังสวนปาล์มเป็นหมื่นำไร่ ส.ส.ภาคอื่นมีโรงงานน้ำมันปาล์มชาดได้แรงอก พอชาวบ้านทำท่าหายใจออกกับราคายางพารา พ่อค้าบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของน้ำเมา กว้านซื้อที่ปลูกยางเหยียบแสนไร่ วางแผนตั้งโรงงานยางแท่งดักยางในไทย เบี้ยไม่ไปไหนได้นายทุนฉาด ครูเหอ
<h6>หลายเรื่องในเมืองไทยที่เลวร้าย เดือดร้อน เพราะนักการเมือง และนายทุนผลัดกันอยู่เบื้องหลัง การฉก ฉวย ฉ้อฉล กอบโกย โกงกิน ขูดรีด ดังคำว่าทำนาบนหลังประชาชน ดังวงจรอุบาทย์ ธุกิจหาเงินแบบกอบโกย - อำนาจซื้อเป็นนักการเมือง - ธุกิจกอบโกยโกงกินฉ้อฉลทุกรูปแบบ ในหลายเรื่อง เช่น ธุกิจน้ำเมา มือถือ บ่อนพนัน รับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ ฉะนั้นพวกเราต้องใช้สิทธิ์ ...ทวงอำนาจคืน โดยไปใช้สิทธิ์...แต่ไม่ออกเสียง....ขอเชิญชวน</h6>