R2R ใช่หรือไม่ใช่นะ ?


วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554

 

วันนี้ พวกเรามีประชุม R2R ต่อในวันที่ 2 หรือวันสุดท้ายในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่า คงจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ ให้หยุดลงเท่านี้ ท่านอาจารย์สัญญาว่า จะรับเป็นที่ปรึกษาและให้อีเมลเสร็จสรรพ และสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการวิจัย ก็จะร่วมเป็นโค้ชให้ ครั้งต่อไป จะมีการนำเสนอร่วมกันทุกเดือน เพราะจะได้มีการช่วยเหลือเกื้อกูล ทำให้ผู้ทำงาน และระบบงาน มีการทบทวนอย่างเป็นระบบ และมีคุณภาพต่อไป

 

ช่วงแรกของวัน มีการทบทวนกิจกรรมเมื่อวานว่า พวกเราได้อะไรบ้าง มีความรู้สึกกับ R2R อย่างไร ? พร้อมกับแจกของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ สร้างสีสรรค์ในการกระตุ้นการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี

 

เพื่อน ๆ ร่วม R2R ต่างแย่งกันตอบว่า ได้ค้นพบปัญหาที่เกิดขึ้นจากงานประจำ เกิดการทำงานเป็นทีม  มีความสุข ทัศนคติต่อ R2R เปลี่ยนไป ว่า จะทำได้ง่ายขึ้น และหลายสิ่งหลายอย่างที่พรั่งพรู ที่รู้สึกดีต่อ   R2R

 

หลังจากนั้น ก็มีการนำเสนอให้ผู้ที่เตรียมปัญหา หรือประเด็นที่ต้องการว่า ทำได้หรือเปล่า ใช่ R2R หรือเปล่า ซึ่งทำให้กลุ่มเกิดการเรียนรู้และเติมเต็มให้กัน

 

ซึ่งก็ใช้เวลาที่แสนสนุกจนถึงเที่ยง

 

ภาคบ่าย อาจารย์เริ่มเข้าสู่บทที่ 3 (ถ้าเป็นงานวิจัย ก็เป็นตอนระเบียบวิธีวิจัย หรือการดำเนินการวิจัย) มีการเรียนรู้ไล่เรียงตั้งแต่ หน่วยการวิจัย ประชากร การสุ่มตัวอย่าง เพื่อให้เกิดการเข้าใจอย่างเป็นระบบและมีหลักการ และหลังจากนั้น ก็มีการใช้โปรแกรมทางสถิติวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งพออาจารย์สอนการวิเคราะห์ T-test แล้วหาความเชื่อมั่นทางสถิติค่า sig.

 

เพื่อน ๆ หลายคน เริ่มเกิดอาการ sick เกิดขึ้นครับ

 

และแล้วก็ถึง การร่ำลา พร้อมสัญญาระหว่างกันว่า จะนำความรู้ที่ได้รับ 2 วัน ขับเคลื่อน R2R ให้งอกงามและเบ่งบาน  และพวกเรา ก็ส่งอาจารย์กลับบ้าน

 

ผมก็เลยนั่งเก็บของ ก็มีพี่หัวหน้าสถานีอนามัย (อาวุโสแล้ว แต่ไฟแรงมาก) บอกว่า อยากทำมาก ไม่รู้ว่า เป็น R2R หรือเปล่า ช่วยพี่หน่อยนะ พี่อยากทำเรื่อง วัณโรค (TB)

 

ตามความเข้าใจของผม ผมว่า พี่ทำเล็ก ๆ นะ เก็บให้เป็นระบบ และอ่านงานหรือแนวคิดบ้างเล็กน้อย แล้วผมก็ให้พี่เล่าเรื่อง  ผมก็เสนอกลับว่า อย่างนี้ไหม และแล้วพี่เขาก็มีความสุขนะครับ

 

ประเด็นของพี่ก็คือ "การพัฒนาระบบ (DOTs) หรือ Directly Observed Therapy,

Short-course ของเครือข่ายในพื้นที่ "

 

ปัญหาที่พบ คือ ตอนนี้มีผู้ป่วย TB จำนวน 5 คน เมื่อก่อน ประมาณ 3-4 ปี ที่แล้ว เคยทำ DOTs (คือ การกำกับการกินยา ถ้ากินครบ 14 วัน สามารถหยุดแพร่เชื้อได้ กินครบ 6 เดือน จะสามารถหายจากโรค) แต่ปัจจุบันหยุดทำ ให้ผู้ป่วยทำเอง หรือให้ อสม. ทำให้ สถานีอนามัยก็ไม่มีข้อมูล

 

เราทำ R2R นี้หล่ะพี่  พี่ลองไปถามข้อมูล หรือไปอยู่สภาพผู้ป่วยอยู่ว่า มีความเป็นอยู่อย่างไร กินยาอย่างไง เขาต้องการ DOTs แบบไหน และครอบครัวเขาเป็นอย่างไร ?

 

หลังจากนั้น หมอมาเล่าสู่เครือข่ายฟัง เพื่อร่วมกันหารูปแบบในการ DOTs ดีไหมว่า ลักษณะของผู้ป่วยแต่ละคนต้องการแบบไหน อาจจะให้ผู้ป่วยเอง หรือคนในบ้าน หมออนามัย หรือ อบต.   ซึ่งไม่ใช่เอะอะจะให้แต่ อสม.

 

นี้น่าจะเป็นการเรียนรู้ และทบทวนข้อมูลการทำงานอย่างเป็นระบบ

 

ผลลัพธ์ไม่ต้องคำนึงถึงมากนัก ถึงแม้เราอยากรู้ว่า ผู้ป่วยกินยาครบไหม ผู้ป่วยหายไหม มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เช่น รูปแบบในการจำแนกการดูแลผู้ป่วยของเครือข่าย สมุดเตือนความจำ  หรือ การให้รางวัลผู้ป่วยที่ทำ DOTs ได้สำเร็จ

 

สีหน้าพี่ดูมีความสุข และมีความหวัง เมื่อได้คุยกัน  พี่เขาบอกว่า ไม่ยากเลย

ใช่ครับผมก็บอกว่า ไม่ยากครับ ต้องมีใจ - มีคำถาม - มีการค้นคว้าอ่านหนังสือ และเรียนรู้กับเครือข่าย ที่ต้องการพัฒนางานประจำให้ดียิ่งขึ้น และก่อประโยชน์สำหรับผู้รับบริการของพวก

 

ประเด็นว่า เรื่องนั้น เป็น R2R หรือไม่นะ ใช่หรือไม่ใช่

 

ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลยใช่ไหมครับ....

 

 

คำสำคัญ (Tags): #dots#r2r#tb#วัณโรค
หมายเลขบันทึก: 426974เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2011 16:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ดีใจที่ได้ทำเรื่องเดียวกัน
  • แต่คนละบริบทแค่นั้นเอง
  • เชื่อว่าทำได้แน่ๆๆ
  • สู้ๆๆครับ

มาเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ

เพราะว่ากำลังทำอยู่เหมือนกัน

จากการอบรมงานวิจัย

  • ชื่นใจจังน้องพี่  เชียร์ต่อไป  ให้กำลังใจนะ....สู้ๆๆ
  • สุข  สงบ สว่างกลางใจ  ในวันมาฆะบูชาค่ะ

 

 

เรื่องราวดีดีจาก  http://gotoknow.org/blog/true-love/426710

เริ่มต้นถูกแล้วล่ะคะ

หาประเด็นก่อนว่า เขากินยาอย่างไร ทำไมไม่กิน มีปัญหาอะไร อาจเป็นเพราะยาวัณโรค เม็ดใหญ่ ต้องกินหลายเม็ด กินแล้วไม่สบาย?.....

เมื่อหาประเด็นได้แล้ว เราก็หาวิธีการแก้

เก็บผลลัพธ์ที่เราต้องการอยากรู้

สวัสดีค่ะน้องทิมดาบ

  • พี่มาส่งกำลังใจ และนำบุญมาฝากด้วยค่ะ
  • ใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็แล้วแต่เราจะคิดเองใช่มั๊ยคะ

สวัสดีครับ

ผมแอบตามคุณยายมา....

เห็นด้วยครับ  เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ

สู้ หรือ ไม่สู้ 

สู้ สู้ นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท