ณ บ้านพ่อแม่ บ้านนาคู จ.กาฬสินธุ์
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔
กราบสวัสดีค่ะครู
ตื่นเช้าขึ้นมาใจอยากจะโทรหาครู อยากจะไปหาและไปช่วยสอนเด็ก ๆ แต่ก็ก้าวไม่ผ่านความรู้สึกกลัวของตัวเอง ไม่ใช่กลัวการสอนเด็ก ๆ ค่ะ มันมีการคิดภายในว่า "จะสอนการแปรรูปสมุนไพรด้วยค่ะ แต่จิตมันกลัวการโดนปฏิเสธ เลยไม่กล้า มองโทรศัพท์มองแล้วมองอีกแต่ก็ไม่กล้า ตลอดวันรู้สึกว่าร่างกายยังช้ำมือจากการนวด แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายตามเส้น พอตกเย็นขับรถกลับบ้าน ขณะขับรถเป็นขณะที่รู้สึกกับตนเองว่า “เห็นข้างใจชัดค่ะครู” ไปคนเดียวยิ่งรู้สึกว่า “นิ่งเร็ว”
แว๊บปรากฏสิ่งหนึ่งขึ้นมาว่า “ใจขณะนี้ไม่ได้สนใจการบวชชีแล้ว”
“ทำไมหล่ะ แล้วทำไมตอนนั้นอยากบวชนักหนา”
คำตอบที่ปรากฏขึ้นมารู้สึกว่ามันสั่นสะเทือนเข้าไปภายในใจ เหมือนเจอความชั่วในตนเองแบบจัง ๆ ค่ะครู มันตอกย้ำตนเองว่า “น่าละอาย”
คำตอบคือ “ที่อยากจะบวชนักหนาเพราะมันอยากอวดดี เกินกว่าครู”
ความรู้สึกที่รับรู้ในใจตนเองสม่ำเสมอคือ “ใจที่ปรารถนา รับใช้ดูแลครู เต็มสติ เต็มกำลัง”
พอมาเจอ จิตชั่ว ๆ ที่มัน “อวดดี” มีความรู้สึกเหมือนรับไม่ได้ น้ำตาไหลพราก แสบตามาก ๆ ค่ะ ณ ขณะนั้น
ติ๋วเคยฟังจากครูเกี่ยวกับการปฏิบัติบูชาเคารพครูบาอาจารย์ในปฏิปทาของพระกรรมฐาน ท่านไม่แม้แต่เดินทางโดยเครื่องบิน เพราะพ่อแม่ครูอาจารย์ เดินทางโดยรถยนต์
มองย้อนเห็นจิตชั่วๆ แล้วน้ำตาก็ไหลพราก โอ้โง่หนอ จิตชั่วหนอ น้อมใจลงกราบขอขมาครู การเปลี่ยนชุดโดยสมมุติแห่งภายนอก ศิษย์ไม่ปรารถนาแล้ว มุ่งเพียงภายในให้ถึงพร้อมโดยไร้ซึ่งเครื่องแบบ ครูเพียรผ่านการทำงาน โดยมีหลัก ทาน ศีล ภาวนา บ่มเพาะให้ศิษย์ มีนิสัย ฝึกฝนถ่ายทอดให้ มอบหมายโจทย์ ภาวนาแบบเจริญรอยตาม มุ่งฝึกตนเอง ละความเห็นแก่ตัว ละชั่ว ละตัวตน จนไม่มีตัวตน
ติ๋วรับรู้อย่างซึ้งใจค่ะว่า “ครูเพียรมาอย่างยากลำบาก แต่ในความยากลำบากก็มีความเบาสบายหล่อเลี้ยง”
ทบทวนการฝึกตนผ่านชีวิตและการทำงานมา จน ณ ขณะนี้ เข้าใจแล้วค่ะว่า “ต้องอดทน พากเพียร สู้กับความชั่วในตัวเอง เอาชนะตนเอง หาใช่ผู้อื่นไม่”
ทวนทบศีล ณ วันนี้ ออกไปทำงานช้าพอสมควรค่ะครู แต่ก็ทัน งานที่ตั้งใจไม่ได้ทำ ความตั้งมั่นแห่งจิตไม่เกิด ยาคดีที่อยู่ในมือ ยังไม่ได้ทำ มารู้ว่า “ผู้ต้องหาถูกฝากขัง” ใจแป้วเลยค่ะ ผิดศีลข้อ ๑ มอง ๆ ดู ก็ประมาณการว่า “เกิดจากการ false positive ของชุดทดสอบ แต่ทำไม่ทัน ได้แต่น้อมรับวิบากของความรู้สึกไม่สบายใจ
ข้างในมันเรียกร้องการไปช่วยครูสอน ยอมรับค่ะว่า “ไม่แน่ใจกับตนเองว่า เป็นเสียงของ กิเลสหรือทำ แต่เป็นความปรารถนาไปช่วยครูเจ้าค่ะ................รักและเคารพครูค่ะ
ไม่มีความเห็น