กบใจสู้
กบตัวหนึ่งกระโดดไปกระโดดมาด้วยความเพลิดเพลินเริงร่าเหมือนมนุษย์ที่กำลังหลงเพลินในกามสุข ความประมาททำให้กระโดดตุ๊บตกลงไปในถังนมสดเย็น ๆ โอ๊ย ! ตายแน่ ๆ มันพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากถัง แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เพราะถังลื่นมาก แถมนมยังเย็นเสียด้วย มันอยากจะกระโดดออกจากถัง แต่ก็ไม่มีหลักอะไรให้มันดีดตัวกระโดดออกไปได้
เจ้ากบตัวน้อยไม่ย่อท้อ มันว่ายน้ำวนไปรอบ ๆ ถัง ว่ายไม่หยุด ว่ายทุกท่า ท่ากบ ท่าฟรีสไตล์ ท่ากรรเชียง แม้แต่ท่าผีเสื้อมันก็ลองฝึกว่ายดู มันหวังว่าจะมีคนมาพบและช่วยชีวิตมัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครผ่านมาแถวนั้นเลย
มันว่าย ๆ ๆ ๆ เพื่อจะได้ไม่จมนมตาย ว่ายอยู่หลายชั่วโมงไม่ยอมเลิก แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อย มันก็ไม่ยอมหยุดว่าย จนมันรู้สึกแปลก ๆ ที่นมสดนั้นค่อย ๆ ข้นขึ้น ๆ จนแข็งตัวในที่สุด บัดนี้เจ้ากบน้อยยืนอยู่บนเนยที่มันปั่นขึ้นมาจากท่าว่ายสารพัดท่าของมันมันรีบกระโดดผลุ้บออกจากถังนมสดรอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์
การว่ายไม่หยุดของกบเป็นการปั่นนมสดให้กลายเป็นเนย กบน้อยรอดตายเพราะมีความเพียรไม่ย่นระย่อ สู้เพื่อชีวิตอย่างไม่ยอมแพ้
การเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่น
“สิ่งที่เราต้องเรียนรู้จริงๆ คือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ชีวิตครอบครัว ไม่ใช่ชีวิตในโรงเรียน ไม่ใช่ชีวิตที่สาวะถี แต่ว่าเป็นชีวิตของคนที่ร่วมโลกกัน ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นเพราะเรามองแยกส่วนไปทุกที แยกศาสนาบ้าง ชาติบ้าง โรงเรียนบ้าง สุดท้ายก็แยกอำเภอ แยกจังหวัด เวลานักเรียนหรือคุณครูไปที่ชุมชน คือการเอาชีวิตของเราเข้าไปเรียนรู้ทุกอย่าง และเหนือกว่าการเรียนรู้ คือ ความเป็นญาติ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง ถ้าเราต่างคนต่างอยู่จะไม่เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ความคุ้นเคยและความเป็นญาติก็จะไม่เกิดขึ้น