เมื่อวันที่ไปร่วมประชุมวางแผนในการทำสวนสมุนไพร ณ สอน.บ้านเมืองใหม่ อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น พี่อ้อจึงเก็บเรื่องเล่าจากเหล่า อสม. มาเผยแพร่ จากการเล่าสู่กันฟังวงเล็ก ๆ แต่เป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ กับนาทีชีวิต ที่ อสม.หนึ่งคนได้ช่วยไว้ หากไม่ได้แบ่งปันอาจจะรู้สึกเสียดายค่ะ
งึด....ตัวเอง
แม่ปิ่น อสม. (สอน.บ้านเมืองใหม่)..........ผู้เล่า
ศุภลักษณ์ พริ้งเพราะ (ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๖)......ผู้เรียงเรียง
เช้าวันนี้ตื่นสายเหมือนเดิม เร็วหน่อยลูกเดี๋ยวไม่ทัน เพราะวันนี้แม่ต้องออกพื้นที่ บรรยากาศแบบนี้มาอีกแล้ว ทุกอย่างเร่งรีบและรีบเร่ง ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าจะเดินทางออกไปพื้นที่ทีไรทำไมต้องเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย ต้องได้กระหืดกระหอบจนหอบจะขึ้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้แบบทุลักทุเล ขึ้นรถตู้ทันพอดี (ไม่ทราบว่าทันหรือเขารอก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร) เดินทางไป สอน.บ้านเมืองใหม่ ไปร่วมประชุมกับทีมงาน สอน. และ อสม. ที่วางแผนจะปลูกสวนสมุนไพรที่ด้านหลังอาคาร ก็ประชุมไปตามปกติทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนกระทั่งเวลาใกล้จะเที่ยงแล้วทางทีมงานจัดประชุมแค่ครึ่งวัน เกรงใจ อสม. มากเลยเท่านี้ก็เป็นบุญคุณอย่างสูง (เพราะถ้าเขาไปทำงานก็ได้เงินไปซื้อกับข้าวแล้ว) ก่อนปิดการประชุมน้องติ๋วจึงโยนคำถามไปว่า “ประทับใจอะไรกับการมาเป็น อสม.” บรรยากาศเปลี่ยนไปทุกคนหันซ้ายหันขวาแล้วก็มีเสียงคุยกันอืออึง เอะยังไงกันนะ แล้วใครจะเป็นคนเล่าให้เราฟังนี่ เราก็หันไปหันมาเหมือนกันเราจะฟังใคร (ถึงจะตั้งใจฟังยังไงก็คงไม่ได้ยินหรอก เพราะทุกคนหันหาคู่แล้วก็เริ่มพูดคุยกัน) แต่สุดท้ายก็มีนางฟ้ามาโปรดเรา เขาผู้นั้นก็คือแม่ปิ่น ยื่นไมค์ให้ท่าน จากนั้นทุกคนก็ปรบมือให้ ท่านจึงเล่าให้เราฟังว่า
เป็น อสม. มา 23 ปี เวลานั้นก็เป็น อสม. ใหม่ ๆ และเพิ่งผ่านการอบรมการทำคลอดจากหมออนา มัยมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ ก็คิดว่ามั่นใจทำได้ แล้วจู่ ๆ เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง หรืออาจจะเป็นการทดสอบวิชาที่เรียนมาก็ได้ไม่แน่ใจเหมือนกัน อยู่ ๆ วันหนึ่งก็มีคนมาเรียกว่า “ปิ่น ๆๆๆ ปิ่นเอย ลูกฉันปวดท้องจะคลอดช่วยไปดูให้หน่อย” แม่ปิ่นก็รีบตามไปเลยแบบไม่คิดชีวิต คิดว่าคงไม่ยากเท่าไร อบรมมาใหม่ ๆ สด ๆ ร้อน ๆ วิชายังไม่ได้ส่งให้หมอคืนเลย ด้วยความมั่นใจแบบสุด ๆ แม่ปิ่นก็ทำตามตำราที่ได้ร่ำเรียนมาตามขั้นตอน ที่หมอสอน ถ้าเป็นคนที่จะคลอดแบบปกติเด็กจะต้องปฏิบัติตัวและมีความพร้อมโดยการตีลังกากลับหัว (การเอาหัวลง) แต่เหตุอันใดเด็กคนนี้ไม่ทำตามทฤษฎีละ เมื่อแม่ปิ่นตรวจแล้วพบว่า “เด็กไม่กลับหัว” งานเข้าแม่ปิ่นเสียแล้วงานนี้ ทำอย่างไรดีละ แม่ปิ่นเริ่มพลิกตำราใหญ่เลยสรุปสูตรนี้อยู่หน้าไหน เอาไงดี แม่ปิ่นก็เริ่มเหงื่อออกแล้ว สุดท้ายแม่ปิ่นบอกกับพวกเราทุกคนว่า “ตอนนั้นกลัวทั้งแม่และลูกตายมาก” ในที่สุดด้วยความกลัวแม่ปิ่นจึงเอามือล้วงเข้าไปแม่ปิ่นบอกว่าถุงมือก็ไม่มี แต่ไม่รู้จะทำไง ทำไปก่อนแล้วกัน จากนั้นก็พลิกแพลงขั้นตอนการทำคลอด สุดท้ายเด็กก็ออกมาด้วยความปลอดภัย แล้วแม่ปิ่นก็เอาไม้รวกที่ตัดไว้มาตัดสายสะดือ ส่วนคุณแม่คนใหม่ก็ฟื้นจากการสลบ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “นางหลับไป๋อีแม่เอ๋าอิหยั่งพัดนาง” แม่ปิ่นก็ตอบไปว่า “เอ๋าตีนซิ่นแม่นี่แหล่ะพัด” อีนางก็เลยได้แต่หัวเราะ อย่างน้อยก็ปลอดภัยทั้งแม่และลูกชาย เวลาผ่านมาหลายสิบปี แม่ปิ่นก็บอกเราได้คำเดียวว่า “คิดถึงเมื่อไร ก็งึดเจ้าของอยู่ว่าทำได้ไง” อย่าว่าแต่แม่งึดเลย คนฟังก็งึดคือกันว่าทำได้ไง
ณ ตอนที่ฟังแม่ปิ่นเล่า ผู้ฟังทุกคนแทบอ้าปากหวอ ทั้งทึ่ง ทั้งขำ หลายเสียงก็เอ่ยว่า "ป๊าดดดดดดด เจ้าเฮ๋ดได้จั๋งได๋"
แล้วเด็กเป็นยังไงบ้าง?
แม่ปิ่นตอบว่า "มันก็โตอยู่นะ เห็นหน้ามันทีไรก็หงึดเจ้าของทุกที" ฮา
เป็นเรื่องเล่าที่เร้าพลังชาว อสม.ได้เด็ดจริง ๆค่ะ