กัลยาณมิตร


จตุรมิตร

เชิญชวนมาร่วมกันวิเคราะห์เพลง

เฮาเป็นเสี่ยว ไผ่ พงศธร

เกิดเป็นลูกผู้ชาย น้ำใจต้องมาที่หนึ่ง
ใจสองใจส่งถึง ร่วมทางร่วมเป็นร่วมตาย
ต่างคนต่างมีที่มา แค่เรามองตาเข้าใจ
เขียนคำสองคำว่าเพื่อนตาย เอาไว้ในใจสองคน

เฮาคือเสี่ยว เฮาเป็นเสี่ยว คำคำเดียว ความหมายเปี่ยมล้น
เฮาเป็นเสี่ยว จะเจ็บจะจน เฮาจะเดินชน ไม่ทอดทิ้งกัน

สังกัดศาสนา ภาษาหรือเชื้อชาติใด
หากว่าใจสองใจ มั่นคงในความผูกพัน
ท่องคำสาบานเอาไว้ แม้ตายน้ำใจคงมั่น
เขียนคำสองคำว่าเสี่ยวกัน เอาไว้ในใจสองคน

เฮาคือเสี่ยว เฮาเป็นเสี่ยว คำคำเดียว ความหมายเปี่ยมล้น
เฮาเป็นเสี่ยว จะเจ็บจะจน เฮาจะเดินชน ไม่ทอดทิ้งกัน

จะกินข้าวเหนียวส้มตำปลาแดก กินข้าวยำจ้ำน้ำบูดู
กินข้าวซอยซดเลือดลาบลู่ น้ำพริกปลาทู
ก็เสี่ยวกัน เสี่ยวกัน ทุกผู้ทุกคน

เฮาคือเสี่ยว เฮาเป็นเสี่ยว คำคำเดียว ความหมายเปี่ยมล้น
เฮาเป็นเสี่ยว จะเจ็บจะจน เฮาจะเดินชน บ่ทอดทิ้งกัน
บ่ฮื้อติ้งกัน หล่าวไม่ทิ้งกัน ไม่ทอดทิ้งกัน

เพลงนี้เข้ากับวิถีชีวิตของผมกับเพื่อนอีกสามคน  ผมเรียกความสัมพันธ์นี้ว่า "จตุรมิตร"

ปัจจุบัน เพื่อนภาคกลาง(ลพบุรี) ฉายา "ขอม" "ลิง" จบ ดร.แล้ว  เพื่อนอีสานเหนือ(อุดร) ฉายาลาวเหนือ  เป็นพนักงานราชการ  เพื่อนอีสานกลาง(กาฬสินธุ์) อาจารย์พิเศษ.มหาวิทยาลัยและพนักงานเทศบาล และเพื่อนอิสานล่าง(บุรีรัมย์) ฉายาเขมร  รับราชการ และกำลังศึกษา ป.โท ตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิต ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  สามารถสืบค้นหาข้อมูลทาง Internet จนสามารถติดต่อและเดินทางไปพบกัน ซึ่งต่างซาบซิ้งใจและประทับใจมาก 

จึงอยากเชิญชวนทุกท่าน  มาร่วมวิเคราะห์เพลงนี้กันครับ

คำสำคัญ (Tags): #บุรีรัมย์7
หมายเลขบันทึก: 424847เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2011 12:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ท่านอาจารย์สมภพ ที่นับถือครับ

ผมจำได้ว่าตอนที่ผมเรียนโทอยู่เมื่อประมาณ ๕ ปีที่แล้ว อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของผม (ท่าน รศ.ดร.สมพร  ไชยยะ) ท่านกล่าวกับพวกเราไว้ว่า "การที่พวกเรามาพบกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน" ทุกวันนี้ผมยังจำสิ่งที่ท่านสั่งสอนไว้ได้อย่างดี และผมก็เชื่อครับว่าทุกอย่างที่มีวิถีโคจรมาเจอกัน มันต้องมีเหตุที่สอดคล้องร่วมกันมาในอดีต แต่ความสำคัญอยู่ตรงที่ว่าเมื่อมีเหตุให้มาพบเจอเป็นเพื่อนกันแล้ว เราจะรักษาไมตรีจิตและสิ่งดีๆที่ประทับใจกันไว้ตลอดไปได้อย่างไร เพราะวันหนึ่งพวกเรารู้ดีว่า เรามีภารกิจ เราต้องแยกจากกันไปทำในภารกิจความรับผิดชอบของแต่ละคน แล้วผมก็ค้นพบว่าความจริงใจต่อกันเท่านั้นครับเป็นสิ่งที่รักษามิตรภาพให้ยั่งยืนได้ ไม่จำเป็นต้องพบเจอกันบ่อยๆแต่พลังแห่งจิตใจที่มีแต่ความบริสุทธิ์ให้แก่กันจะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเกาะเกี่ยวพวกเราเอาไว้ตลอดไปครับ

"ในยุคแห่งเทคโนโลยีข่าวสารที่ไร้พรมแดน ไร้ขีดจำกัด การมี "มิตรแท้" เพียงคนเดียวนั้น ย่อมดีกว่าการมี "มิตรเทียม" เป็นแสนเป็นล้านคนครับผม

ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นครับ

เรียนอาจารย์ธนากรณ์ครับ

   ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยวิเคราะห์ ให้ความชัดเจนในมิตรภาพที่ดี ต่อกัน ความจริงใจ ท่านอาจารย์โชคดีนะครับที่มีมิตรแท้ ส่วนผมกว่าจะได้มิตรมานั้นยากมากเลยครับ แต่เมื่อได้มาแล้ว ทุกคนต่างช่วยกันรักษามิตรภาพกันไว้ และผมชอบประโยคนี้ของอาจารย์ครับ "ในยุคแห่งเทคโนโลยีข่าวสารที่ไร้พรมแดน ไร้ขีดจำกัด การมี "มิตรแท้" เพียงคนเดียวนั้น ย่อมดีกว่าการมี "มิตรเทียม" เป็นแสนเป็นล้านคนครับผม ชอบมากครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท