“นี่ใช่ไหม ที่เราอยากเห็นเพลินพัฒนาเป็น” คือ คำถามที่พี่ติ่ง - สุภาวดีถามนำเมื่อเข้าสู่ช่วงของการทำความเข้าใจวิสัยทัศน์
ก่อนที่จะได้ทำความเข้าใจกับวิสัยทัศน์ ทุกคนต้องเล่นเกมจับกลุ่ม ที่คุณแจ๊ค กับคุณพิส ผู้ช่วยกระบวนกรนำให้ผู้เข้าร่วมได้กลับไปเป็นเด็กๆ อีกครั้ง พอกลุ่มสมาชิกในกลุ่มย่อยมีการคละกันทุกส่วนงานได้ที่ดีแล้ว การทำความเข้าใจในวิสัยทัศน์ก็เริ่มต้นขึ้น
ใครในกลุ่มเข้าใจว่า “เพลินพัฒนาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่มุ่งมั่นสร้างผู้เรียน ให้บรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเองร่วมกัน เพื่อความสุขอย่างยั่งยืนของชีวิตและสังคม” ว่าอย่างไร
คำสำคัญ เช่น ชุมชนแห่งการเรียนรู้ / ศักยภาพสูงสุดของตนเองร่วมกัน / ความสุขอย่างยั่งยืนของชีวิตและสังคม หมายถึงอะไร มีรูปธรรมหรือพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างไร เมื่อทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างทั่วถึงแล้ว ก็ถึงคราวระดมคำถามที่กลุ่มยังคิดไม่ตก หรือยังไม่เข้าใจดีพอว่าหมายถึงอะไร
คำถามเหล่านี้เขียนอยู่บนกระดาน ส่วนคำตอบของคำถามนั้น... “แขวนเอาไว้ก่อน”
จากนั้นลองให้กลุ่มที่คุยกันได้อย่างลื่นไหล และสนุกสนานลองเสนอบรรยากาศของกลุ่มดูบ้าง
หลายกลุ่มบอกว่าทุกคนชอบวิสัยทัศน์นี้มากอย่างไม่มีข้อสงสัย และที่คุยกันสนุกเพราะสมาชิกในกลุ่มชวนกันคิดว่าจะทำอย่างไรเราจึงจะได้วิสัยทัศน์ดังเช่นที่ว่านี้ คำอธิบายที่ได้มา เช่น
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ คือ ชุมชนที่พร้อมเรียนรู้ พร้อมเปลี่ยนแปลง ทุกคนเรียนรู้ด้วยกันในทุกมิติ / เรียนรู้จากกันและกันทั้งให้และรับ
ศักยภาพสูงสุดของตนเองร่วมกัน คือ การรู้จักศักยภาพสูงสุดของตน และรู้ว่าเราทุกคนมีศักยภาพที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนได้เติบโตไปร่วมกัน เติมเต็มให้กันและกัน / เชื่อมั่นในศักยภาพของตน ในแบบของตน / สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้
ความสุขอย่างยั่งยืนของชีวิตและสังคม คือ การที่ตัวเรากับสังคมแยกกันไม่ออก เราต้องเรียนรู้ว่าทั้งตัวเราและสังคมจะเป็นสุขได้อย่างไร เราจะอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างไรจึงจะมีความสุขในสถานการณ์แบบ win-win ที่ทั้งสองฝ่ายพอจะยอมรับได้ ทั้งสองฝ่ายพอใจ / เคารพนับถือกัน เรียนรู้จากกันและกัน คิดบวก อยู่บนพื้นฐานของทั้ง intuition (ใช้หัวใจบอก) และ reality (ใช้ความจริงเชิงประจักษ์บอก)
เมื่อทุกกลุ่มได้บอกเล่าจนครบ คำถามที่เคยมีอยู่บนกระดานก็เริ่มมีคำตอบจากคำอธิบายของเพื่อน โดยเฉพาะประเด็นของ win –win ที่ไม่ได้แปลว่า ชนะทั้งสองฝ่าย หรือ ๕๐:๕๐
พี่ก้า – อาจารย์กรองทอง บุญประคอง ผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเพลินพัฒนา และผู้อำนวยการคนที่สองของโรงเรียนเพลินพัฒนา ช่วยเสริมความเข้าใจในประเด็นนี้ว่า “ถ้าเรา win – win ตั้งแต่ในใจแล้ว เราจะไม่แพ้ใครเลย ความสุขของเราถ้าไม่เบียดเบียนคนอื่นก็ win – win แล้ว”
ประทับใจบันทึกของคุณทนงฯ ใน จม.ข่าวเพลิน
ติดตามอ่านอุดมการณ์ของคนเล็ก ๆ ต่อไป...ค่ะ
ได้แง่มุมความคิดที่ดี