กระบวนการบริหารจัดการข้าวไทยครบวงจร


มีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ที่เกี่ยวข้องและแกนนำเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน รวม 100 คน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด องค์ความรู้และประสบการณ์

ส.ป.ก.เพิ่มประสิทธิภาพ
การจัดการข้าวไทยครบวงจร ในเขตปฏิรูปที่ดิน

 

 

            ส.ป.ก.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ กระบวนการบริหารจัดการข้าวไทยครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพผลผลิตข้าวไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากพันธุ์ข้าวปลอมปน ส่งผลถึงราคาข้าว ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตได้รับความเดือดร้อน โดยการประชุมได้เปิดโอกาสให้แกนนำเกษตรกรได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการข้าว รวมทั้งนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้จัดการปัญหา การประชุมจัดขึ้นเมื่อ 28-30 มกราคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการปฏิรูปที่ดิน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

               นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง กระบวนการบริหารจัดการข้าวไทยครบวงจร  โดยมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ที่เกี่ยวข้องและแกนนำเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน รวม 100 คน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิด องค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพันธุ์ข้าวไทย เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ปลูกข้าวในเขตปฏิรูปที่ดิน มีมากกว่า 13 ล้านไร่ แต่ยังพบว่ามีปัญหาเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวปลอมปน คุณภาพข้าวไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลถึงราคาข้าว การประชุมครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ครบวงจร และให้เกิดความยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเขตปฏิรูปที่ดิน มีความเข้มแข็ง พร้อมรับกับสถานการณ์ความผันผวน ทั้งในด้านการผลิต ราคา และสภาพดินฟ้าอากาศ

 

 

 
 
 

ที่มา:http://www.alro.go.th/

หมายเลขบันทึก: 423761เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2011 19:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 16:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอลปรร. ครับ

เมื่อยุคสมัยผ่านไป ตลาดเปิดกว้างขึ้น ข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้น

ผมก็เลยเรียนรู้ได้ว่า "ข้าวคือพืชคุณธรรม" เป็นอาหารหลัก จะขายเเพงมากไม่ได้ ประชาชนทั้งโลกจะเดือดร้อน  (ระบบตลาดต้องกลับมาดู ส่วนเเบ่งรายได้ พ่อค้ากับเกษตรกรว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่)

"คนปลูกข้าว" ต้องกลับมาวิเคราะห์ "ตลาดให้ออกว่า ข้าวที่ปลูก จะขายให้ใคร ? จะสร้างสมดุลให้กับคุณภาพชีวิตได้อย่างไร

"ตลาดข้าว มี "สอง" ตลาดหลัก"

1.ตลาดเมล็ดพันธุ์ : "ผู้ผลิตน้อยราย สามารถกำหนดราคาได้"

2.ตลาดผู้บริโภค : คนปลูกข้าว ต้องการขายใคร ใน 3 กลุ่มด้านล่าง

2.1 กินเพื่อพลังงาน - เพื่อแรงงานทั่วไป

2.2 กินเพื่ออิ่ม - เพื่อชนชั้นกลาง

2.3 กินเพื่ออร่อย  - สำหรับผู้มีรายได้และรักสุขภาพ-ข้าวอินทรีย์ ข้าวปลอดสาร

ตลาด 2.1 และ 2.2 เป็นตลาด แข่งขัน ผู้ผลิตย่อมไม่สามารถกำหนดราคาได้

ตลาด 2.3 "ผู้ผลิตน้อยราย สามารถกำหนดราคาได้" ผู้บริโภคยินดีจ่าย ถ้าสินค้าเค้าดีจริง!!!

 

       ในการสัมมนาครั้งนี้ เกษตรกรในเขตปกิรูปที่ดินที่เข้าร่วม ได้ข้อตกลงกันว่า จะอนุรักษ์และรวบรวมพันธุ์ข้าวของไทยในท้องถิ่นต่างๆไว้ เพื่อมิให้สูญหายและคงไว้สืบให้ลูกหลานต่อไป(ตอนนี้ก็ทำอยู่)  และจะทำการต่อยอดผลผลิตโดยการนำพันธุ์ข้าว(ข้าวสาร)ต่างๆแต่ละท้องถิ่น มาประสม-คละเคล้า-ปรุง(หรือภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า "mix") เข้าด้วยกัน ในอัตราส่วนที่เหมาะสมโดยจะต้องถือเกณฑ์คือ คุณสมบัติในการหุงต้มคล้ายกัน  คุณสมบัติของอะไมโลสไกล้เคียงกัน โดยทั้งหมดต้องเป็นข้าวอินทรีย์ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผู้บริโภคจะได้คุณประโยชน์จากข้าวแต่ละท้องถิ่นในการหุงครั้งเดียว

      ปล. จะวางขายในงาน ตลาดนัดอาหารเพื่อสุขภาพ หน้าพิพิฑภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ นวนคร  ช่วประมาณ กลางเดือนมีนาคม นี้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท