ยามบ่ายคล้อยของวันวุ่นวายในสังคมคนกรุง สวนกระแสโดยสิ้นเชิงกับสังคมแห่งความสงัด วิเวก สันโดษ บรรยากาศในร่องสวนเก่า ซึ่งปัจจุบันทำเป็นกุฏิพระ ที่พักชีโดยทั่วไปในวัดแห่งหนึ่งชานเมืองกรุงใหญ่ ละแวกกุฏิ จะสลับไปด้วยลานจงกรมแบบต่างๆ ทีมุงหญ้าคา มุงสังกะสี หรือมุงกระเบือง ปูพื้นด้วยดิน ทราย หรือหิน ปาเก้ แล้วแต่จริต หรือเจ้าภาพที่จัดหาให้พระคุณเจ้าในที่พัก.. ความร่มรื่นของแมกไม้ ทำให้ลืมความอบอ้าวในยามบ่ายโดยสิ้นเชิง...
การเข้ากรุงในวันนี้ไม่ใช่จะเข้ามาเดินเล่น หรือช๊อปเยี่ยงวิสัยฆราวาส ตรงกันข้ามต้องทำงานแข่งกับเวลา หาหรือจัดเตรียมสิ่งของตามสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ห่างกันคนละโยชน์...วัดย่านสำเหร่ เป็นวัดที่เข้าไปอาศัยใบบุญเข้าพักให้ผ่านพ้นข้ามคืน ด้วยความเมตตาของพระครูใจกุศลท่านหนึ่ง..งานท่านมากล้น ด้วยวัยมากกว่า 60 ขวบปี แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงานของท่าน ยังกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ว่องไว ขัดแย้งกับสังขารโดยสิ้นเชิง อืมม์..จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าวจริงๆ จิตไม่แก่ กายเลยไม่แก่..
ด้วยความที่มีปัจจัยอันน้อยนิด แต่ต้องรีบเข้ามาทำธุระให้เสร็จ จึงใช้วิธีการเดินไปตามจุดต่างๆ มากกว่านั่งรถ เพราะรถติดและมั่นใจว่าจะถึงจุดหมายเร็วกว่าโดยสารรถเสียอีก จากเจริญนครย่านตลาดสำเหร่ เดินจนถึงท่าพระจันทร์ ระยะทางอักโข แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการทะลุดงในกรุงสักเท่าไหร่...
วัดชานเมืองที่เกริ่นความตั้งแต่ต้น เ็ป็นวัดที่คุ้นชินมานานนับสิบปี.. หลังจากปฏิสันถารกับพระลูกวัดที่เคยรู้จัก บัดนี้พรรษาท่านมากขึ้นย่างเหยียบเป็นพระเถระกันแล้ว พระเถระที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาสในต่างสาขา ก็ร่วงหล่นทิ้งสังขารกัน ด้วยอายุยังน้อยก็มี...อนิจจา..ธรรมดาโลก...
ได้ฟังข่าวสารจากบรรดาโยมแม่ออก (นักบวชหญิง) ที่ยังศรัทธากันเช่นเดิมก็ทำให้สะท้อนใจ เรื่องการจากไปของชีวิตที่เคยมาเจอกัน บัดนี้จากกันไป แต่รู้สึกอนุโมทนาบุญกับทุกชีวิตที่เดินทางไปไกล ว่าได้มาเจอกันในร่มใบบุญเดียวกัน.. และอีกหลายองค์เช่นกัน แต่ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ในพระศาสนา จึงอุทิศกายถวายชีวิตให้เป็นเดิมพันในการฆ่าเสียซึ่งกิเลสในเครื่องดองสันดาน!!
พระยุทธ..เป็นพระสหายธรรมที่สนิทกันมาก ท่านเป็นพระผู้พี่ ที่เคยอยู่พรรษาด้วยกันในจังหวัดลำพูน แล้วท่านก็ออกไปใช้ชีวิตในฆราวาสวิสัย แล้วกลับมาใหม่เช่นเดียวกับอาตมา การได้พบกันเป็นครั้งท้ายสุดเมื่อตอนเข้าไปเยี่ยมท่านในบริเวณเดียวกับที่หลวงพี่บุญเลิศท่านได้นั่งดื่มน้ำปานนะเป็นประจำ...
เสียงพูดที่ไม่ชัดด้วยลิ้นไก่สั้นและ โรคปากแหว่ง เพดานโหว่ พูดสำเนียงช้าๆ แต่พอจับใจความได้.. อาจจะเป็นด้วยความเคยชินกัน เพราะอยู่ด้วยกันมานานท่านจึงน้อมรับไหว้อย่างสุดใจ ความอ่อนน้อมในข้อวัตรและพระวินัย เราได้ลิ้มรสกันหลายครั้ง หลายหนว่าแต่ละคน ได้ข้อวัตรหรือไม่ สังเกตได้จากจริต นิสัย และบุคลิกของแต่ละองค์..
หลังจากสนทนากันก็จับใจความได้ ว่าท่านลาสิกขาไปอยู่ในเพศของฆราวาส ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ความลุ่มหลง ปล่อยใจ ให้มัวเมาในอบายมุข โลกียวิสัย และความสุขสบายของครอบครัว ตลอดระยะเวลาหลายปีออกไป ไม่ได้อะไรเลย สร้างความรำคาญใจให้กับทางครอบครัวมากกว่า..และที่สำคัญท่านเริ่มเป็นมะเร็งในลำคอ และทำใจไม่ได้ รู้สึกตนว่าใกล้จะตาย ฟูมฟาย ฟุ้งซ่านและไม่สงบ ตั้งแต่ได้ทราบผลการตรวจจากหมอวินิจฉัยไข้..
ลักษณะท่าทางของพระหนุ่ม วัยเลขสี่ตอนต้น ยังหนุ่มฉกรรจ์อยู่ บริเวณคอแดงเป็นแถบ ศีรษะเป็นแผลตุ่มหนองที่เริ่มระบมเต็มที่ แขนลายแดง สีหน้าจาง แต่แววตาหม่น..เศร้า นั่งอยู่คนเดียวบนชุดม้าหิน สายตาเหม่อลอย ไร้จุดหมาย เหมือนกับถอดอารมณ์กับเวลาที่ยังเหลืออยู่..
เสียงแว่วของพระอาจารย์อีกกลุ่มหนึ่ง ท่านก็สนทนากันเรื่องอาการแบบนี้ของพระหนุ่มน้อย ผู้บวชใหม่ ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการเดียวกัน เมื่อหลายปีก่อน แต่ด้วยอาการสงบ ละแล้วทุกสิ่ง เพราะดีใจที่ได้มรณะภาพในผ้ากาสาวพักตร์ ..และแล้วอีกไม่นาน สหายธรรมท่านนี้ก็จะจากเราไปอีกเช่นกัน..จะมีใครไหมหนอปลอบโยนท่าน..หรือท่านจะมีกำลังใจสักเพียงไหน? ภาวนาด้วยอารมณ์สงบหรือเปล่า? ฟุ้งซ่านแค่ไหน? และกลัวความตายที่กำลังจะมาถึงอีกไม่นานหรือเปล่า?...เพียงแต่ว่าเราไม่ได้คุยกันมากเหมือนเมื่อก่อน น่าเสียดายที่เราอยู่คนละวัด คนละอาวาส และไม่คิดว่าท่านจะกลับมาอยู่ใต้ร่มโพธิ์เช่นนี้อีก รู้สึกดีใจที่ท่านยังนึกถึงที่พึ่งสุดท้ายแห่งชีวิต ที่นี่คือบ้าน คือทุกสิ่งที่จะตอกย้ำอารมณ์และความรู้สึก และปลอบโยนทุกชีวิตในขณะเดียวกัน สุข ทุกข์ มันอยู่ที่จิต.. ความสงบ และสันโดษ มันก็อยู่ที่จิต... วัด....
ความตาย ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด น่ากลัว หรือเป็นเรื่องที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตรงกันข้าม ทุกคนต้องเผชิญกับความตายอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าช่วงไหนของชีวิต ไม่ใช่ช่วงที่ไม้ใกล้ฝั่งกันทุกคน ก็แล้วแต่จังหวะและโอกาสที่เราจะต้องประสบ ...ยิ้มสู้กับเรื่องราวของชีวิตและจุดจบที่น่ารักกันดีกว่า เพราะทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำใจให้สงบ สุข ใช้ชีวิตให้เป็นปกติ และรอเมื่อวันนั้นมาถึงในอีกไม่นาน