เพื่อนแท้ในชีวิต..


น้ำใจของ หม๊ะ ทำให้หนุ่มตังค์สะอื้นในอก น้ำตาไหลอาบแก้ม ก้มลงกราบรูปถ่ายในชุดไทยพื้นบ้านภาคใต้...

          ประมาณปี 2549  อาตมาได้เป็นอาสาสมัครโครงการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV ของสถาบันแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  ได้ทำงานและเข้าศึกษาหาข้อมูลมากมายรวมถึงการเข้าค่ายทำกิจกรรมของโครงการที่เกี่ยวข้องอีกหลายเรื่องราว

นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่ง มีความสนใจในกิจกรรมดังกล่าว แต่ไม่ได้เข้าร่วมอบรมในโครงการด้วย แต่เป็นผู้ร่วมทำวิจัยในโครงงานของสถาบันแห่งหนึ่งที่อาตมาได้เข้าร่วมและเป็นอาสาเครือข่าย

ด้วยชีวิตของวัยรุ่นยุคใหม่ที่เข้ามาเรียนในเมืองหลวง ได้พบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย ได้ใช้ชีวิตอยู่โดยลำพัง เลือกที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้โดยไม่มีใครขัดขวาง ไม่มีระเบียบแบบแผนเหมือนกับสมัยที่อยู่บ้านใกล้ผู้ปกครอง

กิจกรรมหลักในการทำโครงการคือจะต้องดูแลคนไข้ที่ติดเชื้อในระยะต่างๆ ให้กำลังใจและพาทำกิจกรรมหลากหลายอย่าง เพื่อส่งเสริมสุขภาพและให้กำลังใจทุกแนวทาง ซึ่งต้องใช้่ความอดทนและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง เพราะผู้ป่วยมีหลายวัย มีความหลากหลายทางเพศ วิถีชีวิตและอารมณ์ ซึ่งมีผลต่ออาการของผู้ป่วย..ในปัจจุบันที่ดำรงชีวิตอยู่..

หนุ่ม "ตังค์" เป็นวัยรุ่นนักศึกษาในสถาบันเอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ด้วยความเก่งกาจจึงสอบชิงทุนเพื่อเรียนฟรีกับทางสถาบัน และได้รับทุนการศึกษาทุกปี  ฝีไม้ลายมือของการแสดงศิลปไทยหลายภาค และความมีน้ำใจในการช่วยกองงานนักศึกษาจึงเป็นที่รักของเพื่อนและสถาบัน  ชีวิตปกตินอกรั้วก็เหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไปที่มีสังคมของการดื่มและเที่ยวบ้าง จนในที่สุดก็ถึงกับมีคนรักและเพศสัมพันธ์..

ตังค์ รูปลักษณ์ภายนอกคือเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไป หน้าตาสะอาดสะอ้านดูดี สูงสง่า แต่ภายในจิตใจอ่อนหวานกว่าชายอกสามศอกสามัญ  ชีวิตจึงมีมุมหักเหเกี่ยวกับความรักและความคาดหวัง  ก่อนเปิดภาคการศึกษาใหม่มีการขอทุนการศึกษาพิเศษของจากนอกรั้วสถาบัน ซึ่งมีเงื่อนไขที่ดีและสนับสนุนจนจบปริญญาโท หรือเอกตามลำดับ แต่ต้องอยู่ในข้อแม้ซึ่งมีพันธสัญญาหลายเรื่องราวบังคับอยู่   หนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้ประเด็นอื่น คือเรื่องการสุขภาพ โดยต้องมีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด และตรวจเลือดหาสมุฐานของโรคร้ายซึ่งเป็นข้อห้ามในการขอรับทุนดังกล่าว..

อาตมาได้รับเชิญให้เป็นผู้ดูแล โดยเป็นพี่เลี้ยงในการพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพในวันนั้น.. จนกระทั้งถึงวันนัดพบเพื่อรับผลการตรวจสุขภาพที่ห้องแสดงผล.. เป็นวันที่โลกใกล้จะดับ..ของเด็กหนุ่ม และเป็นวันที่เวิ้งว้าง เงียบสงัด ไร้แม้เสียงนก..

บรรยากาศของสวนไม้ รอบด้านของวังพญาไท ที่ก่อนเวลานี้จะมีคนเดินมากมาย จากอาคารจอดรถไปยังห้องตรวจ หรือจุดหมายภายในโรงพยาบาล.. ณ ตอนนั้นไม่มีแม้คนเดิน  มีเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยืนสะอื้นไห้ต่อหน้าเทวรูปที่สักการะของผู้คนในระแวกนั้น ถนนลาดยางสีดำ ตัดกับดอกฉำฉาที่ตะหง่านท้าลมแดดมาร่วมร้อยปี.. ยอดโดมของพระราชวังสูงตระหง่านตัดกับขาวขุ่นของปุยเมฆที่ลอยเอื่อยอยู่ด้านบน..

น้ำตาที่ไหลล่วง เสียงร่ำไห้โดยไม่สนใจใครในแถวนั้น..กลิ่นพวงมาลัยมะลิลอยหอมตัดกับดอกสายหยุด โชยมาแต่ไกล...ตังค์..หนุ่มน้อย..

กำลังใจและคำปรึกษาที่ดีจนลืมวัยของผู้ให้คำปรึกษาและบางครั้งจะต้องปลอบประโลมบ่อยครั้ง เพราะเป็นงานที่อาสาร่วมทำเพื่อสังคมและความกระจ่างในพฤติกรรมของคนในสังคมและโรคใหม่ที่แพร่กระจายมาใหม่ จนน่าวิตก..

ตังค์ คนใหม่หลังจากที่ได้รับการเยียวยางทางใจนานร่วมเดือน ไม่นานนักก็ใช้ชีวิตปกติ ระมัดระวังในการใช้เงินทองที่ได้รับจากทุนการศึกษาสถาบันเดิม แม้จะพลาดจากองค์กรใหม่ก็ไม่เป็นไำร  แต่ความหวังและพลังใจจากพ่อแม่ทางบ้านเดิมที่ปักษ์ใต้ ก็ทำให้ความตั้งใจในการเรียนและการใช้เงินทองมีระเบียบมากขึ้น

        เพื่อนในโครงการได้รับเชื้้อเช่นเดียวกับตังค์ แต่ก็ยังประมาทในการใช้ชีวิตอยู่ มีให้เห็นอยู่หลายคน  ซึ่งหนุ่มตังค์เองค่อนข้างจะกลัวกับเรื่องการแสดงผลของเชื้ออย่างมาก ค่อนข้างวิตกในการใช้ชีวิตในบางที..  ทางออกสุดท้ายของหนุ่มหน้ามนคือการเข้าร่วมปฏิบัติธรรมซึ่งทำให้จิตใจสงบและเกิดปัญญาขึ้นมา  การแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิดทำให้การใช้ชีวิตเป็นระบบมากขึ้นกว่าเดิม

หม๊ะ คือ คำเรียกแม่ของทางบ้าน คิดมากในตอนแรกพอรู้ว่าลูกชายคนเล็กของบ้าน ประสบเคราะห์็กรรมอย่างนี้เข้า ก็อยู่ไม่สุข ร้อนรนและปรับอารมณ์ไม่ได้ หลายครั้งที่จะพยายามเอาเงินซื้อโรคร้ายให้ออกไปจากลูกชายสุดที่รัก  ทำอย่างไรก็ได้ให้หนุ่มตังค์ปกติที่สุด..ผู้เป็นแม่ฟูมฟาย เป็นทุกข์ร้อนอยู่คนเดียว ในบ้านไม่มีใครทราบเรื่องนี้ นอกจากพี่เลี้ยง หนุ่มตังค์ และผู้เป็นแม่...

น้ำใจของ หม๊ะ ทำให้หนุ่มตังค์สะอื้นในอก น้ำตาไหลอาบแก้ม ก้มลงกราบรูปถ่ายในชุดไทยพื้นบ้านภาคใต้.. ความงดงาม และร้อยยิ้มพิมพ์ใจของผู้เป็นแม่ ทำให้หนุ่มตังค์สะอื้นในอก.. และทุกครั้งเมื่อได้รับสายทางไกลจากที่บ้าน หนุ่มตังค์จะน้ำตาคลอเบ้าทุกครั้ง เมื่อรู้ว่าผู้เป็นแม่โทรมาให้กำลังใจ..

หลายครั้งและหลายคำที่ได้คุยกับหม๊ะ ทำให้อาตมาูได้รู้ซึ้งของคำว่า "แม่" จนบางครั้งอ่อนไหวในจิต เรื่องความศรัทธา รัก และสงสารในเพศแม่ เพศที่ยิ่งใหญ่ แต่น่าสงสารจับใจ... เพราะความลำบากในการหาเลี้ยงชีพ เพื่อลูก กว่าจะเดินมาถึงทุกวันนี้ เหนื่อยจนเหงื่อไหลนองเหมือนกับสายเลือด น้ำตา น้ำนม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อลูกนั้น กลั่นมาจากเลือดของแม่ทั้งสิ้น ด้วยความตั้งใจให้ลูกได้มี เหมือนที่คนอื่นเขามี..แม้ลูกจะเจ็บป่วยแค่ไหน  หรือจะต้องตาย  ถ้าเลือกได้ แม่ขอเจ็บแทน ป่วยแทน หรือตายแทนลูก ณ เวลานั้นขอเพียงเพื่อลูกอยู่ให้สบาย ให้สมกับก้อนเลือดที่แม่รักและทนุถนอมมาหลายสิบปี..

ถึงเวลาที่เราจะทำความรู้สึกห่วงใย นึกคิด ตริตรองให้มากกับการใช้ชีวิตให้รอบคอบและระมัดระวังให้มากที่สุด เพราะชีวิตไม่ใช่ของเราคนเดียว เป็นของคนร้องข้างที่คาดหวังกับเราในหลายเรื่องราว เพราะสายใยของครอบครัวหรือสายตระกูล เราคนไทยอยู่กันเป็นเครือข่ายสายโลหิต ที่ต้องคอยดูแลรักษาใจกาย ซึ่งกันและกัน ระวังภัยอันตรายทางด้านความคิด สติปัญญา และอารมณ์ซึ่งกัน.. ความสุขที่มั่นยืนจึงจะมียาวนาน..ต่อไป

หมายเลขบันทึก: 421647เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2011 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 18:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

พระคุณแม่เด่นด้าว    เหนือใด

ทุกสิ่งมิอาจไป           แปดเปื้อน

รักลูกยิ่งกว่าใคร        สูงค่า

เพชรแกร่งเหนือคุณแท้      พ่ายแพ้ แม่เอย......

แม่คือครูคนแรกที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณให้กับลูกตั้งแต่วันแรกของการปฎิสนธิ วิถีไทยเราตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดีครับ เรื่องความรักความห่วงใยที่แม่มีให้ลูกจึงเป็นผลที่ตามมา แม้แต่สัตว์ก็ยังมีสัญชาติญาณในความรักความหวงลูกของเขาเลยนะครับ ร่วมเทอดทูนพระคุณแม่ด้วยครับผม

ท่านอาจารย์โสภณ แต่งกลอนได้กินใจผมมากเลยครับ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท