การยื่นคำขอลงรายการสัญชาติไทยตาม มาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ของวิษณุ


การออกจากทะเบียนประวัติตามกฎหมายทะเบียนราษฎรไทย

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

            วันนี้ได้ไปยื่นขอลงรายการสัญชาติไทยตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ให้กับนายวิษณุ บุญชา ณ ที่งานทะเบียนราษฎร สำนักงานเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์

มีเชอร์รี่ ชมพู่ อ.ชลฤทัย และโอ๊ต ไปถึงเวลา 14.30 น. โดยอาจารย์สถาพร อาจารย์ที่โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้พาวิษณุมาที่สำนักงานเทศบาล และมารดาของวิษณุได้ตามมาทีหลัง

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เชอร์รี่ได้ติดต่อไว้ก่อนเจ้าหน้าที่ที่รับคำร้องคือเจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียน,kรับเรื่อง

โดยเริ่มแรกทางเราได้ยื่นเอกสารหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 อันได้แก่ หนังสือรับรองการเกิด วุฒิบัตร หลักฐานการศึกษา บัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนของวิษณุ แล้วก็ ท.ร. 38 ข แต่เจ้าหน้าที่ได้ขอหนังสือรับรองการเกิด ทางเราก็ได้ยื่นหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 20/1) ให้กับเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ใช่หนังสือฉบับนี้ หนังสือฉบับนี้คือ ”หนังสือรับรองสถานที่เกิด” แต่เขาต้องการหนังสือรับรองการเกิดจากโรงพยาบาล เพราะว่าต้องการยืนยันว่าวิษณุเกิดในโรงพยาบาลบ้านโป่งจริง ๆ ซึ่งหนังสือรับรองการเกิดที่เจ้าหน้าที่ต้องการนั้นก็คือ ท.ร. 1/1

 ในประเด็นนี้ก็ได้ทำให้พวกเรางุนงงมาก เพราะว่าท.ร. 1/1 จะเป็นหนังสือรับรองการเกิด (คลอด) ที่ออกตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 ซึ่งกำหนดให้ผู้ทำคลอดมีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการเกิดให้แก่ผู้มีหน้าที่แจ้งการเกิดไว้เป็นหลักฐาน หนังสือรับรองการเกิดกรณีนี้เรียกว่า ท.ร.1/1 โดยกำหนดให้ใช้สำหรับเด็กที่เกิดในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและเอกชน ออกให้ได้กับเด็กทุกคนไม่ว่าเด็กนั้นจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ก็ตาม เพื่อยืนยันว่าเด็กได้คลอดในโรงพยาบาลนี้จริง แล้วก็นำ ท.ร. 1/1 ไปจดทะเบียนการเกิดที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเพื่อขอออกสูติบัตร

แต่กรณีการขอลงรายการสัญชาติไทยตามมาตรา 23 พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551นั้น เพื่อที่จะแสดงว่าวิษณุเกิดในประเทศไทยจากแม่ที่ถูกถอนสัญชาติไทยตาม ปว.337 จริง จะต้องใช้หลักฐานแสดงการเกิดในประเทศไทย นั่นก็คือหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) อันเป็นเป็นแบบพิมพ์หนังสือรับรองการเกิดที่ถูกกำหนดขึ้นตามตามมาตรา 20/1 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นหลักฐานทางทะเบียนราษฎรที่แสดงถึงถิ่นที่เกิดของบุคคลอีกประเภทหนึ่ง จะมีความแตกต่างจาก ท.ร.1/1 ตรงที่ ท.ร.20/1 จะออกให้สำหรับบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติโดยไม่ได้ผ่านการแจ้งการเกิด หรือบุคคลที่เคยมีสูติบัตรแต่เอกสารได้สูญหายหรือชำรุดไม่สามารถคัดสำเนาหรือคัดทะเบียนคนเกิดได้ ซึ่งเดิมฝ่ายปกครองได้แก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่ประสงค์จะได้หลักฐานการเกิดด้วยการออกใบรับรองสถานที่เกิดให้

            เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายเอกสารแบบคำขอลงรายการสัญชาติไทยในทะเบียนบ้านตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 เพราะที่เทศบาลไม่มีแบบคำขอ ฯ จากนั้นก็ให้วิษณุเป็นผู้กรอกรายละเอียดทั้งหมด

            จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจดูเอกสารที่จะต้องให้สำหรับยื่นในการขอลงรายการสัญชาติไทยตามมาตรา 23 ฯ ซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้น ดังนี้

 

1. พยานเอกสารที่จะใช้ประกอบการยื่นขอลงรายการสัญชาติไทยนั้นมีความขัดแย้งในเรื่องของชื่อของมารดาของวิษณุ กล่าวคือ

(1) เอกสารของวิษณุ

            - ในหนังสือรับรองการเกิดของนายวิษณุ ได้ระบุว่า มารดา ชื่อ “นางปัจจรา หรือปัญจรา หรือ บุญมี นามสกุล ศรีวาร”

- ในท.ร. 38 ข ได้พิมพ์ชื่อมารดาของวิษณุว่า “ปัญจรา”

- พอตอนที่วิษณุสมัครเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาก็ใช้ชื่อแม่ว่า “บุญมี”

(2) เอกสารของมารดาของวิษณุเอง

- ชื่อของมารดาวิษณุ ในท.ร. 13 นั้นพิมพ์ว่า “ปัจจรา”

- หนังสือรับรองการเกิดของมารดาวิษณุ พิมพ์ว่า “นางสาว ปัจจรา ไม่มีชื่อสกุล”

                        จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้สอบถามที่มาของชื่อและนามสกุลของมารดาของวิษณุ จึงได้ความว่า

กรณีชื่อของมารดานายวิษณุ

“บุญมี” เป็นชื่อเล่น ที่คนในบ้านและคนรู้จักเรียกกันบ่อย ๆ

            “ปัญจรา” เป็นชื่อจริงที่คุณครู ในหมู่บ้าน บ้านทุ่งก้างย่าง ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้ตั้งให้ตอนเกิด ซึ่ง ปัจจุบันคุณครูได้เสียชีวิตแล้ว

            “ปัจจรา” เมื่อนายสอน บิดาของปัญจรา หรือบุญมีได้ไปเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนประวัติผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า บิดาพูดไม่ชัดนายทะเบียนจึงเขียนในทะเบียนประวัติว่า ปัจจรา แล้วก็ไม่ได้ตรวจดูว่าสะกดถูกหรือไม่ เพราะว่าอ่านหนังสือไม่ออก ซึ่งต่อมาคนในทะเบียนประวัตินี้ได้รับการพัฒนาสถานะบุคคลให้มีสิทธิอาศัย จึงได้เปลี่ยนทะเบียนเป็นทะเบียนบ้าน ท.ร. 13 ซึ่งใน ท.ร. 13 ก็ได้ใช้ชื่อ “ปัจจรา”

                        กรณีนามสกุลของมารดาของนายวิษณุ

                        - ในตอนแรกครอบครัวของนายวิษณุตั้งแต่รุ่นยายนั้นไม่มีนามสกุล

                        - นามสกุล “ศรีวาร” ดังปรากฏตาม หนังสือรับรองการเกิดของวิษณุนั้น เนื่องจากว่าตอนที่วิษณุเกิดนั้น มารดานายวิษณุได้เดินทางไปอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จึงได้คลอดนายวืษณุที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง ซึ่งคนข้างบ้านที่จังหวัดสมุทรปราการบอกกับแม่ของวิษณุว่า ถ้าไม่มีนามสกุลโรงพยาบาลจะไม่ทำคลอดให้ คนข้างบ้านจึงให้เอานามสกุลของตนเองใช้

 

2. พยานเอกสารที่จะใช้ประกอบนั้นมีความขัดแย้งในเรื่องของนามสกุลของวิษณุ กล่าวคือ

นามสกุลของนายวิษณุไม่ตรงกัน

            - หลักฐานการศึกษาตอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 3 และใบร.บ.ตอนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 พิมพ์นามสกุลว่า “ศรีสายหยุด”

- ในใบร.บ. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 พิมพ์นามสกุล “บุญชา”

                        จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้สอบถามที่มาของชื่อและนามสกุลของมารดาของวิษณุ จึงได้ความว่า

- ในตอนแรกวิษณุไม่มีนามสกุล

- ต่อมาเมื่อวิษณุจะต้องเข้าโรงเรียน จึงกลัวว่าวิษณุไม่มีนามสกลุทางโรงเรียนจะไม่ให้เรียน

หนังสือ เพื่อนบ้านจึงให้ใช้นามสกุลว่า “ศรีสายหยุด”

                        - ต่อมาเมื่อวิษณุอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทางครอบครัวได้ร้องขอความช่วยเหลือมาที่กองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งอ.ชลฤทัยแก้วรุ่งเรือง เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและให้ความช่วยเหลือครอบครัวของวิษณุทั้งหมดจึงได้แนะนำว่าให้ใช้นามสกุลตามนามสกุลพ่อว่า “บุญชา” ไม่ต้องใช้นามสกุลคนแนแล้วดังนั้น เมื่อวิษณุสมัครเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาจึงใช้นามสกุลว่า “บุญชา”

 

3. ปัญหาในเรื่องการเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน

เพราะว่าบ้านที่อาศัยอยู่จริงปัจจุบัน[1]ไม่มีเลขที่บ้าน และที่อยู่ตามทะเบียนประวัติก็เป็นที่อยู่ตามที่ทางสำนักทะเบียนกำหนดขึ้นเอง คล้ายกับทะเบียนบ้านกลาง ดังนั้น จึงเกิดปัญหาการเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14)

            ซึ่งทางมารดาของวิษณุก็ได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าทีว่าป้าทาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันซึ่งเป็นเจ้าบ้านยินดีที่จะให้เพิ่มชื่อเข้าบ้านของเขา

ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเรียกป้าทามาเพื่อสอบปากคำในการอนุญาตให้เพิ่มชื่อเข้าบ้านของตนเอง

 

4. ปัญหาในเรื่องของพยานเอกสารสำหรับใช้ประกอบการยื่นขอลงรายการสัญชาติไทย ฯ เพียงพอหรือไม่

- พยานเอกสารประกอบการยื่นคำขอลงรายการสัญชาติไทยตามมาตร 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 เจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่าเพียงพอหรือไม่

- ในใบร.บ.ชั้นมัธยมศึกษาไม่มีรูปถ่ายของวิษณุ เนื่องจากว่ายังไม่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนั้น จึงต้องให้วิษณุไปขอหนังสือรับรองว่าเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ที่โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์อยู่จริง จากทางโรงเรียนใหม่

เนื่องจากว่ามีปัญหาติดขัดอยู่หลายประเด็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับคำร้องขอทำความเข้าใจ และสอบถามผู้บังคับบัญชาก่อน รวมทั้งไม่มีรายละเอียดในการสอบปากคำพยานตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนจึงยังไม่ให้สอบปากคำพยานทั้งตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 และพยานรับรองความเป็นแม่ลูกที่แท้จริงของวิษณุและมารดา พร้อมกับให้เหตุผลว่า อย่างไรเสียทางเราก็ต้องมาติดตามความคืบหน้ากรณีนี้อยู่ดี จึงจะขอนัดมาสอบพยานในวันอื่น ส่วนเรื่องพยานจะต้องใช้จำนวนกี่คน และใครบ้างนั้นขอหารือสอบถามปลัดฝ่ายทะเบียนก่อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับคำร้องก็ได้ลงรับ แล้วก็ถ่ายเอกสารมอบสำเนาไว้ให้กับทางเรา 1 ฉบับ

 

สำหรับประเด็นที่จะต้องศึกษาต่อไป คือ

1. นัดสอบพยานบุคคลในเรื่องของชื่อมารดาของนายวิษณุ สอบปากคำพยานเพิ่ม เรื่องว่าแม่เป็นคน ๆ เดียวกันกับในเอกสารหรือเปล่า อาจจะต้องสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม และสอบถึงพยานที่ทราบถึงเรื่องการใช้ชื่อ และนามสกุล อาทิเช่น ครูที่ตั้งชื่อให้กับมารดานายวิษณุ

อาจจะต้องให้การตรวจ DNA ระหว่างนายวิษณุและมารดาหรือไม่ มีความเป็นไปได้แค่ไหน ค่าใช้จ่ายใครรับผิดชอบ

2. นามสกุลของนายวิษณุ

3. ป้าทา เพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าบ้านที่จะต้องเพิ่มชื่อนายวิษณุเข้าทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) สอบเจ้าบ้านว่าลงรายการในบ้านไหน

            4. ความบกพร่องของเอกสาร และเอกสารที่ขัดแย้งกันทำอย่างไร

            5. กรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเกิน 90 วัน จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

 

 


[1] ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยวัดคู่สร้าง ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

หมายเลขบันทึก: 421453เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2011 10:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 09:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

พี่จะบอกให้น้องทราบดังนี้โดยปกติแล้วแม่ของน้องมีบัตรบุคคลซึ่งไม่ได้สัญชาติไทย ซึ่งปัจจจุบันนี้เป็นสีชมพู บัตรแม่ของน้องมี เลขบัตรประจำตัวนำหน้าคือ เลข 6 ซึ่งหากออกที่อำเภอไทยโยค ก็ต้องตามด้วย เลข 7102 แล้วตามด้วยรหัสกลุ่มแต่ไม่แน่ใจว่าไปแจ้งทำแบบสำรวจชุมชมแม่บทปี พ.ศ.อะไรก็จะเป็นเลข 6-7102-xxxxx-xx-x หากน้องบอกว่าบัตรบัตรน้องเป็นบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนพี่อยากทราบว่าบัตรน้องออกที่ไหน หากออกที่ จ.สมุทรปราการ ก็จะเป็นบัตรกลุ่มนักเรียน แต่ถ้าหากออกที่อำเภอไทรโยค ก็ต้องเป็นบัตรที่เป็นญาติพี่น้องชนกลุ่มน้อยแต่ตกสำรวจ ความแตกต่างจึงต่างกันมาก ถึงแม้ว่าบัตรน้องจะเป็น บัตรที่ออกไทรโยคก็จะได้เลข 0-7102-890xx-xx-x ซึ่งบัตรนักเรียนก็จะเป็นเลขที่ไม่แตกต่าง คือ 0-xxxx-890xx-xx-x มันจะทำให้การขอสัญชาติไทยตามมาตรา 23 ต่างกันทันที วิธีการสอบอดีตท่านอธิบดีวิชัย ศรีขวัญ และเจ้าหน้าที่จากสำนักทะเบียนได้กล่าวกลางที่ประชุมว่าการตรวจ dna เป็นวิธีการสุดท้าย ซึ่งสามารถสอบด้วยวิธีการที่รัดกุมได้ การที่น้องนำ พรบ.ทะเบียนราษฎร 2534 เป็นปนกับ พรบ.สัญชาติ ปี 2551 พี่ว่าก็ผิดแล้ว แล้วความเป็นจริงน้องต้องได้บัตรสำรวจที่ อ.ไทรโยคถึงจะถูก การขอสัญชาติ ตาม พรบ.สัญชาติ ฉ.4 ปี 51 นั้นไม่ซับซ้อน คือ 1 มีชื่อและเลขประจำตัว 13 หลัก 2. เป็นคนที่เกิดในประเทศไทย จำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไรนะตั้งแต่ ....ธ.ค. 2515 ถึง 26 ก.พ.2535 ประมาณเนี่ยอาจจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อย 3.สอบบันทึกปค.14 ของตนเองแล้วพยานพร้อมบุคคลที่หน้าเชื่อถือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน 4.รอนายทะเบียนอนุมัติหากไม่สามารถอนุมัติภายใน 90 วันสามารถขอขยายเวลาได้อีก พรบ.สัญชาตินายทะเบียนไม่ใช้ผู้อนุมัติแต่เป็นแค่ผู้ตรวจสอบผู้ขอลงรายการสัญชาติไทย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ได้สัญชาติตั้งวันที่ 26 กพ.2551 เพียงแต่แค่มาทำการขั้นตอนให้ถูกต้องเท่านั้น หากนายทะเบียนเซ็นอนุมัติ ต้องนำเอกสารส่งสำนักทะเบียบกลาง คลอง 9 เพื่อให้ดำเนินการกำหนดหมายเลข เป็น 8-xxxx-73xxx-xx-x แล้วก็เพิ่มชื่อ หลังจากนั้นจึงทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ หากนายทะเบียนไม่อนุมัติให้นำคำร้องนั้นไปยื่นที่ ปกครองจังหวัดได้หากคิดว่าน่าจะผ่าน แต่พี่ว่าถ้าน้องกลับไปอ่านให้ดีๆพี่สำนักทะเบียนนั้นเขาทำไม่เป็นหรอกนะ ขนาดคำร้องยังไม่มีเลยแล้วเขาก็ไม่ได้อยู่เขตที่มีชนกลุ่มน้อยด้วย แต่ถ้าตามหลักการแล้วน้องน่าจะได้นะ โชคดี จากพี่อาร์ต 080-0211610

ต้องการจะบอกอะไรครับ จะช่วยแก้ไขปัญหาน้องเขาหรือเปล่าครับ อ่านแล้วงง

ฉันอ่านแล้วงงเหมือนกันค่ะ.ฉันเป็นบุคลหนึ่งที่มีปัญหาสลับซับซ้อน!คือว่าตอนนี้ฉันมีอายุ22ปีมีบัตรสีชมพูทั้งสองด้านพ่อแม่เข้ามาในประเทศไทยปี2527และเรียนหนังสือจบระดับประถมมีใบประกาศและวุฒการศึกษา แต่พ่อแม่ทั้งสองคนของฉันตกหล่นเพระาตอนเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลพ่อแม่พูดภาษาไทยยังไม่ได้ และกรอกในสำเนาว่าเกิดที่เชียงตุงค่ะและตอนนี้เหมือนกับว่าพ่อแม่ได้กลับไปประเทศพม่าและเกิดประเทศพม่าแต่ความจริงแล้วฉันเกิดที่ประเศไทยโดยหมอตำแยและตอนที่ฉันเกิดพ่อแม่ก็ไม่ได้ไปแจ้งรพ.ปลัดอำเภอบอกว่าไม่สามารถขอสัญชาติได้ค่ะ.อยากรู้ว่าทะเบียนประวัติอย่างฉันนี้พอมีสิทธิยื่นขอสัญชาติได้ไหมค่ะ?ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

อยากทราบว่า เกิดเดือนมีนาพ.ศ2351มีใบรับรองการเกิด
ทำไมถึงขอสัญชาติไทยไม่ได้ตอนนี้หนูมีลูก2คนแล้วหนูเอาหลักฐานไปยืนที่อำเภอจ.กาญจนบุรี

ทางอำเภอบอกว่าทำไม่ได้ยืนเรื่องแล้วทางกระทรวงยังไม่ตอบรับแนนำหนูหน่อย

บัตรของหนูสีชมพูขึ้นต้นด้วย    เลข 6  จะหมดอายุ  เดือนมิถุนาหนูก็เอาเอกสารไปยืนทางอำเภอ

ทางอำเภอก็ยังพูดประโยกเดิมว่าทางกระทรวงไม่อนุมัตแต่ถ้าทำต้องมีค่าไช่จ่าย

หนูอยากทราบว่าอย่างขอหนูมันยังอยู่ในมาตราที่23ทำไมทางกระทรวงยังไม่อนุมัต

    แล้วต้องเสียค่าใช่จ่ายเยอะไหม    เพราะคนแถวบ้านยอมจ่ายกันเยอะมากแต่ละคน 30000 ต้นๆ กว่านายอำเภอจะยอม

         ตอบด่วนหน่อยนะพี่บัตรของหนูไกลหมดอายุแล้วถ้าทำแล้วเสียเงินเยอะ

หนูไม่มีเงินแน่หนูเลี้ยงลูกอ่อน2คนลำพังเลี้ยงลูกก็แย่พอตัว

ขอขอบคุณลวงหน้าสำหรับคำแนะนำ     

ขอโทษค่ะพิมพ์ พ.ศ ผิดเป็นพ.ศ2531มีนาคม

คุณแจ็ค เกิด พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นไปตามเงื่อนไข พรบ.สัญชาติ ฉบับที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๓

"... ถ้าบุคคลผู้นั้นอาศัยอยู่จริงในราชอาณาจักรไทยติดต่อกันโดยมีหลักฐานทาง ทะเบียนราษฎร และเป็นผู้มีความประพฤติดี หรือทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมหรือประเทศไทย ให้ได้สัญชาติไทยตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เว้นแต่ผู้ซึ่งรัฐมนตรีมีคำสั่งอันมีผลให้เป็นผู้มีสัญชาติไทยแล้วก่อนวัน ที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ"

http://www.gotoknow.org/posts/510683

คุณแจ็คไม่ต้องเสียเงิน เพราะเป็นการให้สินบนเจ้าหน้าที่ ผิดกฎหมาย พรบ.ปปช.

แนะนำให้คุณแจ็คไปปรึกษาองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนหรือทนายความจะดีกว่าที่ไปเสีนเงิน เหมือนอย่างที่คุณปุณฑวิชญ์ และพวก ๆ กำลังดำเนินการอยู่ 

หากผู้เขียนอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น ก็จะแนะนำปรีกษาให้ฟรี ๆ ไม่คิดเงิน ดูซิว่าเรื่องราวขั้นตอนมันติดขัดตรงไหน แล้วก็ค่อยแก้ไขเป็นเปลาะ ๆ ไป หากล่าช้ามาก หรือ การดำเนินการของจนท.มิชอบ  หรือไม่ถูกต้องประการใด ก็อาจใช้สิทธิร้องเรียน... ไปจนถึงฟ้องต่อศาลปกครอง...

 

ดิฉันได้ทำการยื่นขอสัญชาติไทยสองครั้งแล้วค่ะครั้งแรกยื่นขอ7ทวิเมื่อปี2547ทั้งครอบครัวมีพ่อได้อยู่คนเดวอีกสี่คนตกหล่นมีดิฉันแม่น้องอีกสองคนค่ะรอแล้วรอเล้าทางอำเภอก้อไม่ได้แจ้งว่าเอกสารไม่ครบหรือว่าขาดแต่อย่างใดจนเขามามีกฎหมายใหม่ให้ยื่นขอตามมาตรา23ได้ดิฉันได้ติดตามเรื่องยื่นขอสัญชาติมาโดยตลอดยื่นอีกรอบเมื่อปี2554การยื่นรอบนี้มีน้องชายกับน้องสาวได้เหลือแต่ดิฉันกับแม่แปลกใจมากว่าทำไมยื่นพร้อมกันแต่ได้แค่สองคนจากนั้นก้อได้ติดตามมาตลอดดูเหมือนเรื่องไม่ไปถึงไหนจนมีองกรยุติธรรมได้เข้ามาช่วยให้กับชาวบ้านและดิฉัน ติดตามและแก้ไขเอกสารต่างๆจนมีข้อขัดแย้งทางเทศบาลและอำเภอเนื่องจากเขาทำงานหล้าช้าจนได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่24พ.ย2556ศาลได้ให้ชนะการฟ้องร้องหากไม่มีคู่กรณีมายื่นอุทอนภายใน90วันจะต้องดำเนินเรื่องบัตรให้แล้วเสร็จตอนนี้ทางเทศบาลได้ยื่นคำร้องไปที่กรมการปกครองเพื่อขอเลขบัตรประชาชนส่งไปตั้งแต่วันที่11ธันวาคม2556ซึ่งตอนที่ไปสอบถามทางเทศบาลบอกให้รอประมาณ3-4เดือนจนป่านนี้จะเข้าเดือนที่ห้าอยู่แล้วไปสอบถามทางเทศบาลก้อบอกว่ายังไม่มีเลขขึ้นมาเลยดิฉันอยากทราบว่าทางกรมการปกครอบมีอนุมัติเลขประบัตรประชาชนนานกี่เดือนกี่ปีค่ะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

หมายเลข 8 ต้องเป็นทหารเป่าครับ


อยากทราว่าหนูเกิดเดือนมกกรา2540จะเป็น7ทวิหรือมาตรา23หนูขอสัญชาติมาตั้งแต่อยูคูนย์เด็กเล็กตอนนี้หนูก้ออายุ17แล้วก้อยังไม่ได้เงินก้อหมดเป็นแสนๆแล้วยื้นขอมา5-6รอบเรายุประเทศไทยมา50ปีแล้วอยากทราบว่าเราไปยื้นที่จังหวัดเองได้มัยแล้วต้องมีเอกสารอะรัยบ้างแนะนำหั้ยหนอยคะขอบคุนคะ

  1. สวัสดีครับ.ผมขอถามหน่อยครับ.ตอนนี้ผมถือบัตรบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือหัว.0.ผมจะย้ายเข้าไปในทะเบียนบ้านน้าที่เป็นคนไทยได้ไหมครับแล้วผมต้องทำไงบ้างครับเพราะผมเป็นคนพิการขาไม่ดีครับแล้วเพื่อนเคยแน่ะนำให้ไปทำบัตรคนพิการแต่ทำไม่ได้พอผมยังไม่มีสัญชาติไทยเจ้าหน้าที่บอกยังทำไม่ได้ค่ะตอนนี้ผม26จะ27แล้วครับใครก็ได้ช่วยตอบผมหน่อยนะครับ.ขอขอบพระคุณ.ครับ

พี่ครับคือผมเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค 2539 หลักฐานที่ผมมีคือ ทร13 เอกสารประวัติชาวเขา หนังสือรับรองการเกิดทร20/1 มีวุฒิการศึกษา ป.6 ม.3 ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ ปวช3 ซึ่งพ่แม่ผมเสียชีวิตหมดแล้วครับแต่ผมไม่ได้ไปแจ้งตายไม่มีหลักฐานการตายพ่อแม่ครับแต่ผมมีญาติที่สามารถเป็นพยานให้ผมได้ว่าพ่อกับแม่เสียชีวิตหมดแล้วครับซึ่งผมได้ยื่นเรื่องขอสัญชาติเมื่อปี2558 แต่ตอนนี้นายอำเภอยังไม่ได้พิจารณาให้กับผมครับและผมสามารถใช้สิทธิ ฉบับที่4 พุทธศักราช 2551 ได้มั้ยครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้สัญชาติไทยครับและผมกำลังจะเข้าเรียนต่อ มหาวิทยาลัย ซึ่งบางมหาวิทยาลัย ไม่รับเข้าครับ ผมเครียดมากครับและอยากเรียนต่อครับ ผมจึงขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากท่านครับว่าผมควรจะทำยังไงต่อครับ ขอให้ท่านติดต่อกลับมาให้คำปรึกษามาช่วยผมดว้ยครับ 0616718369 ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

ผมมีเรื่องอยากถามหน่อยคือผมยังไม่มีบัตรประชาชนผมเลยไปขอลงรายการสัญชาติไทยซึ่งตรวจดีเอนเอกับแม่ผู้ที่มีสัญชาติไทยที่อำเภอได้ทำเรื่องส่งไปที่ กรม ส.ท.ร เพื่อขอหมายเลขบัตรประชาชนแต่ที่ กรม บอกมาว่าไม่อนุมัตินึ่งจากว่าผมไม่มีบัตร0และไม่มีหลักฐานอยู่ในประเทศไทยที่ กรม จะไม่อนุมัติให้เรื่องแบบนี้จะมีทางแก้ไหมครับ

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบคำถามนี้ให้หน่อยครับ มีน้องคนหนึ่งเข้ามาอาศัยในไทยตั้งแต่ปี2540แต่ทาง จนท.ที่อำเภอบันทึกผิดเป็น2542 และคนที่จัดการทำเรื่องบัตรให้น้องเขาได้เสียชีวิตนานแล้วปัจจุบันน้องเขาถูกจำหน่ายรายชื่อสถานะออกจากฐานระบบจะทำยังไงให้น้องเขาได้สถานะและบัตรกลับคืนมาอย่างเดิมครับ เคยไปติดต่อที่อำเภอแต่ทางอำเภอแจ้งว่าในระบบมีการบันทึกว่าน้องเขาเข้ามาปี2542ไม่ใช่2540ทางอำเภอบอกว่าถ้าคุณคิดว่าเข้ามาปี2540จริงให้หาหลังฐานมาสิซึ่งมันผ่านมาเกือบจะ20ปีและจึงไม่สามารถหาหลักฐานได้และคนที่จัดการทำเรื่องบัตรให้เขาก็ตายไปนานแล้ว จะมีก็แค่บัตรอันเก่าของเขาเท่านั้นตามรูปที่แนบมานี้ สงสารเขามากรบกวนผู้รู้ช่วยตอบให้หน่อยว่าจะมีโอกาสขอคืนสถานะไหม ปล.ตอนที่น้องเขาเข้ามาใช้ชีวิตในไทยตอนนั้นยังเด็กมากไม่ได้รู้เรื่องอะไรทางผู้ใหญ่เป็นคนจัดการเรื่องบัตรให้ในตอนนั้น ทุกวันนี้น้องเขาสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงานเขาบอกบางทีก็หาที่นอนตามวัดหรือตามศาลาริมทางเอา มีคนแนะนำว่าก็หาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ว่าเข้ามาปี2540จริงแต่มันไม่มีเอกสารอะไรเหลือแล้วคับเพราะมันนานมากๆแล้ว อีกอย่างท่าทางน้องเขาเหมือนจะหมดกำลังใจถึงขั้นว่าจะใช้ชีวิตแบบ คนจรจัดไปเรื่อยๆเขาว่างั้นผมงี้สงสารมากๆ ถ้าเราจะขอให้ทางการไทยทำให้เขาใหม่จะทำได้ไหมคับ จากที่ผมคุยๆกับน้องเขาท่าทางการคิดการตอบคำถามจะช้าๆนิดหน่อยเขาเคยบอกว่าเคยเป็นโรคลมชักมาก่อน พอมีวิธีจะช่วยเขาได้ไหมครับ มีคนแนะนำว่าให้ไปคุยกับปลัดอำเภอแต่เหมือนว่าทางนั้นบอกว่าแก้ไขให้ไม่ได้หรอกต้องแก้ที่กรมเขาบอกอย่างนั้น เราจะช่วยให้น้องเขากลับมาได้บัตรแบบเดิมได้ไหมถ้าไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ หมายเลขบัตรของเขาที่ถูกจำหน่ายคือ 0-5709-89029-xx-x

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท