หลาย ๆ วันก่อน ได้รับอาณัติสัญญาณจากหัวหน้าพยาบาลตึก 8 ว่ามีเรื่องดีจะนำเสนอ... อาตมาก็รู้สึกตื่นเต้นในข่าวดีที่จะได้รับ...
พระคุณเจ้า.. จำเรื่องของคุณหมอน ได้ไหมเจ้าคะ..ที่โยมได้กราบเรียนให้ทราบ...
แล้วก็เป็นเรื่องราวดีจริง ๆ ก่อนที่อาตมาจะได้รับข่าวดีของโยมหมอน ในรุ่งเช้าประมาณตีสอง อาตมาได้ฝันหนึ่งน้าสาว ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งที่เต้านมเช่นเดียวกับโยมหมอนคนนี้.. แล้วก็เป็นลางสังหรณ์ที่ดี งานในวันนี้เป็นงานที่อาตมามีความปลาบปลื้มยินดีที่สุด...
เรื่องของน้าสาว..จริงๆ แล้วเป็นโยมน้าสะใภ้ที่มีความโชกโชนในชีวิตมากที่สุดคนหนึ่ง ก่อนที่จะได้มาอยู่กินกับน้าชายที่ไม่เอาไหน แต่สร้างฐานะได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง และเพียงแค่ช่วงชีวิตหนึ่ง...
คำว่า "ลูกเลี้ยง"ของน้าก้ำติดหูสองข้างเธอมาตลอดชีวิต แต่กว่าจะโตเป็นสาว หูอีกข้างหนึ่งก็ได้ยินไม่ค่อยชัด ที่เค้าเรียกกันว่า "หูตึง" อาตมาก็ไม่ทราบได้.. แต่ด้วยการถูกทำร้ายร่างกายจากแม่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก โดยถูกกระหน่ำตบที่หูด้านซ้าย จนฟังไม่ได้ยินมาจนถึงเป็นสาว ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายของอาตมาได้พาไปรักษาผ่าตัดแก้วหูจนดีขึ้น.
ไม่นานนักก็ได้สมรสกินอยู่กับสามี ซึ่งเป็นโยมน้าชายของอาตมาและใช้ชีวิตร่วมกันมา ยี่สิบกว่าปี ร่วมสร้างฐานะจนเกือบมีและมีบ้าง และก็หมดไปจากความลุ่มหลง และระเริงกับอบายมุขของสามีจนหมดตัว สามีต้องมาเป็นคนขับแท็กซี่และมีเพื่อนพ้อง บริวารมากมาย จนชีวิตในห้องเช่าเล็ก ๆ ที่ไม่มีความคาดหวังที่จะมีความรุ่งเรือง มีเพียงสามีที่เป็นคนขับรถจ้างรายคืน และในรุ่งเช้าที่หอบหิ้วมาด้วยเพื่อน และม้วนเทปวีดีโอคาราโอเกะ เกือบทุกวัน...
หลายครั้งที่ทั้งสองคนพยายามจะมีบุตรด้วยกัน แต่ไม่สำเร็จแท้งค์ หรือคลอดก่อนกำหนด หรือบางครั้งตายในภรรค์อย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับทั้งสองคนเป็นอย่างยิ่ง แต่น้าก้ำ ไม่เคยปริปากบ่นให้ใครฟังในเรื่องราวต่างๆ
ไม่กี่ปีต่อมา น้าก้ำ เกิดอาการป่วยและได้ไปพบแพทย์ คุณหมอแจ้งว่า เธอมีอาการของมะเร็งในเต้านมระยะสุดท้าย... ณ ตอนนั้นอาตมาซึ่งยังไม่ได้บวชเป็นพระ ก็เกิดความสงสารจับใจ เพราะรักและเคารพเหมือนแม่คนหนึ่ง และสงสารในวิบากกรรมชีวิตของเธอ ตั้งแต่แรกเริ่มจำความจนวาระสุดท้าย...
หนทางที่เธอจะใช้ชีวิตให้ยาวนานที่สุดกับคู่กับสามีที่ไม่เอาไหน จนความสุขในชีวิตล่มสลาย หลายต่อหลายครั้งแต่เธอก็ยังรักและเทิดทูนสามีเป็นที่สุด แต่ในการที่จะหาทางรอด หรือไปหาหมอ เพื่อเยียวยา รักษาอาการของ "มะเร็งที่ปากมดลูก" ไม่ได้รับการสนใจจากสามีแต่อย่างใด เมินเฉย กับอาการป่วยของ "น้าก้ำ" ไม่ได้ช่วยค่ารถ ค่ายารักษาตัวผู้เป็นเมียตนแต่อย่างใด เจียดให้เพียงแต่ค่ากับข้าวรายวัน ซึ่งน้อยนักแต่เน้นในคุณภาพและรสชาดที่อร่อย...
ในแต่ละวันอาการป่วย และพิษไข้เริ่มกระจายไปทั่วตัว น้าก้ำมีอาการป่วยทรุดลงทุกวัน การรักษาเยียวยาด้วยวิธีการต่างๆ ที่เธอเสาะแสวงหาเอง เดินทางเป็นครึ่งค่อนวัน เพื่อไปฉายรังสี นอนค้างที่โรงพยาบาลคนเดียว ไปกลับเองหรือไปหายารักษาที่คิดว่าดี หรือกลวิธีต่างๆ ที่มีข่าวออกมาเธอจะไปให้ได้เพราะอยากจะหาย อยากจะมีชีวิตที่ยืนยาว..กับสามีผู้เป็นที่รัก...
5 ธันวาคม ในปีหนึ่ง อาตมาได้บวชเป็นพระเพื่อเฉลิมพระเกียรติพ่ออยู่หัวของเรา..ในแต่ละค่ำคืน จะเดินจงกรมหลายชั่วโมง และเป็นกิจวัตรของพระวัดป่า..กลางสวนผลไม้ในวัดแห่งหนึ่ง... เสียงมโหรี คอนเสิร์ตในงานวันเกิดของพระครูจากวัดแห่งหนึ่ง ลอยตามลมมา... ในใจทำไมรู้สึกแผ่ว..และเคว้งคว้างบอกไม่ถูก..
รุ่งเช้าข่าวตามสายจากโยมทางบ้าน แจ้งอาการจากไปของโยมน้า.. ความทรมานของบาดแผล ที่ใช้ผ้าพันเอาไว้รอบน้าอก และอาการอักเสบของบาดแผลที่ไม่มีเงินเพียงพอในการที่จะไปรักษาที่ตัวอำเภอ.. ขาดการเอาใจใส่จากผู้ที่เป็นสามีที่รัก
มะเร็ง มาเล็งเธอไว้เมื่อหลายปีก่อน หากเธอฉุกคิดและใส่ใจตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่ดูดายว่าเรื่องไร้สาระ สนใจตัวเองให้มากขึ้นกับการดูแลรักษา และเยียวยาตั้งแต่อาการแรกเริ่ม คงจะไม่อยู่ในสภาพแบบนี้...กำลังใจที่ได้จากตัวเธอเอง นั้นมีค่าและยิ่งใหญ่ที่สุด ความเด็ดเดี่ยวในการหาทางรักษาตัวเอง นับว่าเธอ..เก่ง กล้า และสามารถมากกว่าใครบางคน โดยเฉพาะคนที่เธอเรียกว่า "สุดที่รัก"...
นมัสการด้วยความเคารพ ผมจะติดตามอ่านบันทึกของพระคุณท่านทุกบันทึกเพราะได้ประโยชน์เสมือนหนึ่งอ่านตำราวิชาการชีวิตที่บริสุทธิ บันทึกจากประสบการณ์ที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ของผู้อ่านได้อย่างมหาศาล นมัสการขอบพระคุณที่แบ่งปันครับและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงไม่นานเกินรอที่จะมีญาติโยมติดต่อรวมเล่มเพื่อเป็นวิทยาทานอย่างแน่นอน นมัสการด้วยความเคารพ