เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้ติ๋วติด Facebook แต่ไม่ใช่ติดเพราะว่า "แชท" หรอกนะคะ ติดเพราะเล่นเกมใน Facebook เรียกได้ว่า "งอมแงม"
พอเลิกได้แล้วถึงเข้าใจว่า “เสียเวลา เสียโอกาส”
แทนที่จะเอาเวลาไปคิดงาน ปรับปรุงแก้ไขตนเอง จิตมันจะวน ๆ คิดแต่เรื่องปลูกผัก เก็บผักใน FB สุดท้ายพอเลิกแล้ว ก็เห็น mail ที่เข้ามาเป็นเรื่องรำคาญ จึงตั้งให้มันลบแบบอัตโนมัติ แต่แล้ววันหนึ่ง ด้วยหน้าที่ในการทำงาน ต้องใช้สื่อ ต้องส่งงาน ผ่าน FB รู้สึกในตนเองเลยว่า “เพิ่มงาน” ความรู้สึกรำคาญปรากฏขึ้นทุกครั้งที่ต้อง post งาน หรือ สื่อสารอะไร ๆ ผ่าน FB
แต่ก็ต้องยอมรับว่า “ถึงกันเร็ว เพราะช่วงนี้คนเห่อเยอะ”
มันเป็นกรรมหนอ ยิ่งไม่อยากเล่นยิ่งต้องเล่น แต่เมื่อสำรวจเข้ามาในตนเอง แม้ว่าจะขัดใจ แต่ก็ต้องทำ เหมือนที่ครูเคยเอ่ยว่า “ฝืนใจกู ขัดใจกู แต่เป็นประโยชน์ก็ต้องทำ”
มาเห็นชัด ๆ ก็ตอนนี้แหละ
เทคโนโลยี มีประโยชน์ก็จริง แต่หลงง่ายกลืนเวลาไปง่าย
ต้องประคองสติให้มาก ๆ จะได้ทำงานแบบไม่ขุ่นมัว
ตัวอักษร สะท้อนใจของคนเขียนชัดเจน ณ ขณะที่สื่อออกไป
ตั้งใจกับตนเองว่า “อดทน” แบ่งปันพลังงานด้านบวก ด้านลบเก็บไว้แล้วจัดการในตนเอง
ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า FB “ถึงคนอ่านจำนวนมาก และกลุ่มตัวอย่างเร็ว”
แต่ติ๋วก็ยังขอโอกาสใช้พื้นที่ของ gotoknow เป็นที่หลัก ในการเขียนบันทึก และนำเรื่องราวถอดบทเรียนต่าง ๆ มาลง
ส่วน ใน FB นั้นจะลงเพียงแค่บางตอนแล้วลิงค์กลับมาที่ฉบับเต็มที่นี่
รับรู้กับตนเองว่า “เพิ่มงาน” แต่ก็น้อมรับและเรียนรู้กับตนเอง
ให้อยู่เหนือความอยากและไม่อยาก กับการดำเนินไปของลมหายใจ
เพราะการดำเนินไปของลมหายใจคือการเรียนรู้ เพียงน้อมรับโอกาสแล้วก็ทำอย่างตั้งใจ เสียงที่บอกอยู่ภายในกับตนเอง
เห็นด้วยค่ะ... บางอย่างไม่เห็นด้วยกลับต้องใช้และหนีห่างไม่ได้เพียงเพราะคำว่าหน้าที่และการงาน แต่ถ้าไม่เลวร้ายมากนักก็ยอมๆ ไป นะค่ะ
สวัสดีค่ะ..คุณใบไม้ร้องเพลง..ถูกใจจริงๆ..กับ ความรู้สึกนี้..FB ยายธีก็เป็นคนขี้กลัวกับโลกเทคโน พาไป..ขอร่วม จุ๊ ด้วยคนเจ้าค่ะ...
ขอบพระคุณค่ะ คุณกศน.ตำบลกุดเค้า
คิดว่าหลายคนคงเจอ แบบนี้ไม่ต่างกันนัก ถือว่า "แชร์กัน"
สนามทดสอบใจ มีไม่จำกัด อยู่ที่เราเรียนรู้เป็นรึเปล่าจริง ๆนะคะ
(^-^)
ไม่เคยเล่นคะ มีเมล์ส่งมาชวนหลายครั้งหลายหนจากเพื่อนๆ แต่ยังไม่มีเวลา เพราะยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำคะ