พอเมื่อ อาทิตย์ลับยอดไม้ ลาโลกละครคน
ดวงดาวประดับ แผ่นพโยมภายฟ้า
วังแห่ง ราชาเจ้า ลมโซยผ้าม่าน
พระก็ นอนแนบน้อง เทวีเหง้ามิ่งเมือง
มเหษี หยาดย้อย นามว่า สาเทวี
ฝักใฝ่ ในกามา บ่แจบจมหลับจ้อย
คิดแต่ หาซายซู้ เคยซมซ้อนสวาท
บ่อาจ ฮู้เหลี่ยมเล่ห์ พระยาแกล้งเซือบกรน
สาเทวี จึ่งใช้ สะไบเบี่ยงผืนยาว
แทนเซือก แขวนลงวัง ลักไปหาซู้
ซายกายกล้าม แข็งแฮงกล้าแก่น
ดนนาน คองนั่งถ้า บังต้นม่วงกะสอ
อีสา เป็นหยังมึงจึงซ้า เดิกดื่นจึ่งมาหา กูนอ
ว่าแล้ว มือตบหู ราชเทวีเจ้า
ตุ้มหู เลยหลุดฟ้ง ไปตำตีน พระยาจอบ
ติดตาม มาแต่เค้า มีซู้เท็จจริง แท้บ่?
พอเมื่อ ฟ้าสว่างแจ้ง พระยาสั่งเสนา
สาวสนม เถิงบัณฑิต ฮีบเฮ็วโฮมเต้า
สาเทวีเยื้อน มาลุนหน้าซีด
คำสั่งฮ้อน โฮงแน่นนั่งฟัง
บัดนี้ พระองค์เฮาฮอบฮู้ หญิงซั่ว สาเทวี
ลักมี ซายเซยซม ผ่านมาคืนนี้
ตุ้มหู เป็นพยานได้ นางไปสมสู่
บัณฑิต ท่านผู้ฮู้ ควรฆ่า หรือว่าใด?
บัณฑิตเสียวสวาด จึ่งได้ ขอกราบบังคมทูล
ง้าวที่ ฟันคอนาง สิด่างพอยไปย้อน
ถ้าจัก ลงทัณฑ์แส้ คนสิลือ พระยาโหด
ควรที่ นำโผดถิ้ม กลางด้าวถิ่นไกล ก็ข้าเทอญ
คนเฮา ในโลกนี้ มียามชั่ว ยามดี
แปรเปลี่ยน ตามใจตน บ่ควรตายย้อน
อันหนึ่ง ผัวเมียซ้อย มาเห็นกัน ตอนใหญ่
เมื่อใด อยู่ฮ่วมกันบ่ได้ แหนงให้แยกทาง พระเอย
(12 พฤศจิกา 2010)
ไม่มีความเห็น