“เทียนน้อย…ริบหรี่แสง....อ่อนแรงด้วยเหนื่อยล้า...” เสียงเพลงประจำคณะแว่วเข้ามาในห้วงคำนึงโสตประสาทสัมผัสแห่งสำนึกและจิตวิญญาณ ภาพบรรยากาศแห่งความหลังเมื่อครั้งวัยเยาว์ไหลหลั่งผ่านเข้ามาในความทรงจำสีจาง...แต่ทว่ายังคงเด่นชัดอยู่ในดวงใจดวงน้อยๆของครูเทียนน้อยคนนี้อยู่เสมอ
ฉันได้มีโอกาสเข้าเรียนวิชาแห่งความเป็นครูในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งในภาคอีสาน อาจารย์ได้ถามฉันและเพื่อนๆว่าเพราะอะไรพวกเราจึงเลือกที่จะเรียนวิชาชีพครู ต่างคนต่างเหตุผลต่างที่มาและต่างที่ไป และแล้วพวกเราทุกคนก็ได้เป็นดอกบัวแก้วรุ่นที่ 34 ของศาสตร์แห่งการศึกษาวิชาชีพครู ฉันเองเริ่มมีความคิดที่จะเป็นครูตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็กเล็กๆตอนเรียนชั้นอนุบาล ที่พอครูถามว่า “โตขึ้นหนูจะเป็นอะไรคะ” คำตอบส่วนมากของเด็กบ้านนอกอย่างฉัน คงหนีไม่พ้นอาชีพครู หมอ ตำรวจ อาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสามอาชีพนี้อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกฉันนั่นเอง ฉันรู้สึกว่าตนเองโชคดีเพียงใดที่ในชีวิตแห่งการเรียนรู้ทั้งในระบบและนอกระบบฉันได้มีโอกาสเป็นศิษย์ของครูน้ำดีหลายๆท่านที่ได้เป็นต้นแบบที่ดีให้ฉันได้ประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งดีงาม แต่ทว่าจุดเปลี่ยนความคิดของฉันจริงๆที่ทำให้ฉันเกิดความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นครูและจะเป็นครูที่ดีเป็นครูมืออาชีพให้ได้นั้น คือครูสอนวิชาภาษาไทย ครูสมภพ ลืออุติกุลวงศ์ เมื่อครั้งฉันเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่สี่ ของโรงเรียนประจำอำเภอ ครูได้เป็นแบบอย่างแห่งความเป็นครูเพื่อศิษย์ การดำเนินชีวิตตามรอยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครูสอนให้ฉันคิดเป็น คิดดี พูดดี ทำดี และไม่ลืมที่จะตอบแทนคุณบนผืนแผ่นดินไทย ที่สำคัญท่านได้แนะนำให้ฉันอ่านหนังสืออ่านนอกเวลา เรื่อง “ปุลากง” ผลงานเขียนของคุณโสภาค สุวรรณ อันเป็นจุดเริ่มต้นให้ฉันรักการอ่าน และมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นหนูตุ่นอย่างนางเอกในเรื่อง คือการเป็นครู และพัฒนากร การได้ตอบแทนคุณบนผืนแผ่นดินเกิดในวิถีทางที่ฉันเองเลือกที่จะเป็น เลือกที่จะคิด และเลือกที่จะทำ ฉันจึงเลือกสอบเข้าคณะวิชาชีพครูเป็นอันดับต้นๆนั่นเอง ในความฝันความหวังแห่งการเป็นครูและจะเป็นครูที่ดีให้ได้ของฉันนั้น ฉันบอกตัวเองว่าฉันอยากเป็น “ครูบนดอย” ความคิดแห่งจิตสำนึกจิตอาสาเริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวใจ ฉันพยายามอย่างมากที่จะได้เป็นครูบนดอยอย่างปณิธานที่ตั้งไว้ ฉันเริ่มต้นจากกิจกรรมอาสาเล็กๆน้อย จนวันหนึ่งฉันได้มีโอกาสสมัครเข้าร่วมโครงการครูบ้านนอกหรือครูอาสาไปสอนเด็กๆบนดอย ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆแต่ที่นั่นก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้ได้ประสบการณ์แนวคิดที่ดีงามแห่งการเป็นครู “ครูบนดอย” สอนให้ฉันรู้ว่า “เทียน แม้จะมีเพียงเล่มเดียว แต่ก็สุกสว่างไปทั่วยอดดอย” อีกทั้งยังทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าการมีชีวิตที่มีคุณค่าทั้งต่อตนเองและผู้อื่นนั้น ฉันเองก็สามารถทำได้ง่ายๆขอเพียงแค่มี “ใจ” ที่พร้อมจะเรียนรู้ในการเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับที่ดีเท่านั้นเอง ความสุขเล็กๆก็จะก่อเกิดขึ้นในดวงใจน้อยๆอย่างมีสติและรู้ตัวอยู่เสมอ
ใจดวงนี้ขอก้าวข้ามผ่านจากการเป็นศิษย์ที่ดีของครูสู่การเป็นครูที่ดีของศิษย์ ขอน้อมคารวะครูเพื่อศิษย์ด้วยดวงใจ ขอกราบเท้าเทิดทูนพระคุณครู
สุขสันต์วันน้อมระลึกถึงพระคุณครูค่ะ ครูเมย์
อ่านบันทึกแล้วรู้สึกดีจัง...ถึงแม้จะเป็นเพียงเทียนเล่มเล็กๆ แต่ก็ให้แสงสว่างยามมืดมิดนะคะ แถมบางครั้งเทียนเล่มน้อยนี้ก็ยังจุดประกายไฟให้เทียนเล่มอื่นๆ อีกนับร้อยพัน...
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ^_^
สวัสดีปีใหม่ วันเด็ก และวันครูค่ะครู ฐานิศวร์ ผลเจ
ขอบคุณมากค่ะ...มีความสุขกายสบายใจในทุกๆวันนะคะ ^_^
สวัสดีค่ะหมอดาว..blue_star
ขอบคุณมากค่ะที่เป็นกำลังใจให้เทียนเล่มน้อยเล่มนี้เสมอค่ะ...^_^
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดีๆที่มีให้กัน...^_^ ดูแลสุขภาพนะคะหมอดาว..
มาถามข่าวสาวน้อย มีความสุข กับหน้าที่ครูอยู่เช่นเคย มีใจที่เป็นจิตอาสาที่ยิ่งใหญ่อย่างมั่นคง
อ่านบทความนี้แล้ว รู้สึกดี มีกำลังใจ มีคุณค่าและความหวังให้แก่เยาวชน เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณค่ะ ตู่จัง ;)
สวัสดีค่ะครูเทียน เรามีครูคนเดียวกันเลยค่ะ ครูสมภพ ลืออุตติกุลวงศ์ ครูดีในดวงใจของฉัน ครูต้นแบบของฉัน
ขุดบันทึกเก่าของน้องคุณครู เทียนน้อย ;)...