ยังมี นายซ่างแก้ว สีมือเอกลือซา
นิมนต์ มหาเถร สู่เฮือนฉันเข้า
พอดี ในตอนนั้น เสนามาฮอด
ในมือ ถือลูกแก้ว แดงเข้มค่าแพง
บอกว่า พระยาสั่งให้ นายช่างปัดสี
มณีแดงสด ดั่งโลหิตเข้ม
เมื่อนั้น นกเขียนเลี้ยง ในเรือนหลิงล่ำ*
ลับตา นายช่างแก้ว เลยบินเข้าตอดกลืน
เถรเห็น ยังนั่งนิ่ง ยามนกกลืนกิน
บัดช่าง หวนคืนมา โลดบ่เห็นยังแก้ว
จักว่า ไปไสแหล้ว มณีแดงล้ำค่า
พระยา ต้องว่ากูเซื่องแก้ว มิพ้นโทษประหาร ละนอ
มันก็ ครวญคิดได้ ใผอยู่ในสถาน
เพียงมีเถร จึ่งหลูบตีกุมป้ำ
เตะตี เถรถามค้น โลหิตแดงย้อยหยาด
นกจึ่ง กินเลือดย้อย ตามพื้นด่างแดง
ช่างแก้ว กริ้วโกรธฮ้าย เตะนกตำฝา
คอหักตาย คอบตีนคนเลี้ยง
เถรเห็นฮู้ ซีวีดับมอด
คิดว่า อำเงื่อนไว้ พอให้นกยัง
บัดนี้ เฮาก็เจ็บปวดย้อน หวังซ่อยซีวี
ถ้าว่า เผยความจริง แม่นเห็นการฆ่า
เมื่อบ่ เผยการแจ้ง ความตายยังมาฮอด
คึดห่วงพุ้น พายพี้ท่กัน โอนอ
ในจิต หลิงหล่ำเลื้อย พิณพาดสามสาย
สายเทิ่งยาน บ่ออกเสียงพอดี้
สายลุ่ม เอาเสียงขึ้น หันแฮงจนขาด
สายกลาง หายากแท้ พอดีนั้น อยู่ซ่ำใด?
ทั้งที่ เจ็บปวดเนื้อ ยังเห็นช่างเป็นมิตร
ความเจ็บเฮา คอบเฮาโดยแท้
คนอาจ หลงเพียงน้อย โมโหเป็นเหตุ
สังเวชแท้ ฉันนี้มนุษย์เฮา โอนอ!
(5 พฤศจิกา 2010)
* หลิงล่ำ - แลดู, สังเกต
ไม่มีความเห็น