ประเทศไทยจัดได้ว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโรคเอดส์ในระดับดี ที่น่าภาคภูมิใจ โดยมีกลไกคือ คณะกรรมการเอดส์ชาติ หนุนด้วยกลไกสร้างความรู้ คือ ศรอ. (ศูนย์ประสานงาน พัฒนารูปแบบและกลไกการรณรงค์ป้องกันเอดส์) ซึ่งดำเนินการโดยใช้ ๓ กลยุทธ์ แล้ว สวรส. จัดโครงการวิจัยเข้าไปหนุน เท่ากับมีมาตรการสร้างความรู้เชิงระบบ เอาไปป้องกันเอดส์
ผมชอบมาก ที่ประเทศไทยเน้นการทำงานแบบกระจายความรับผิดชอบให้แก่พื้นที่ ให้อิสระในการคิดรูปแบบของตนเอง ส่วนกลางไม่กำหนดรูปแบบการดำเนินการอย่างตายตัว แล้วใช้กลไกการประเมินดำเนินการค้นหาความสำเร็จ ทีมประเมินดำเนินการใน ๘ จังหวัด
หัวใจของความสำเร็จ คือระบบข้อมูลและวิชาการ ในการประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเมื่อวันที่ ๒๐ ธ.ค. ๕๓ ผศ. ดร. ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ แห่งคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มารายงานผลการวิจัย “การสร้างกลไกที่ยั่งยืนของจังหวัด ในการขับเคลื่อนการเป็นเจ้าของงานป้องกันเอดส์ในพื้นที่” ผมชื่นชมยุทธศาสตร์สำคัญคือ กำหนดให้พื้นที่หาทรัพยากรมาใช้เพื่อการนี้ได้จริง
และชื่นชมการประเมินโดย ดร. ชนวนทอง ที่ประเมินแบบเสริมพลัง ทำให้ผู้ทำงานมีความสุข ข้อเรียนรู้คือเคล็ดลับอยู่ที่ PLD (Participatory Learning for Development) ซึ่งให้บทเรียนว่า กลไกของความยั่งยืนที่เราต้องการนั้น มีความซับซ้อนมาก ต้องการปัจจัยหลากหลายปัจจัยมาประกอบกัน จึงจะเกิดกลไกป้องกันเอดส์ ที่ยั่งยืนได้ และกลไกของการประเมินแบบเสริมพลังเป็นกลไกหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐด้านสาธารณสุขน่าจะเป็นผู้ดำเนินการ
ผศ. ดร. สุคนธา คงศีล แห่งศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและการประเมินผล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอผลของโครงการวิจัยการควบคุมกำกับและประเมินผลโครงการพัฒนารูปแบบและกลไกรณรงค์เพื่อป้องกันปัญหาเอดส์ในกลุ่มเยาวชนและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ กลยุทธที่ ๒ การเสริมสร้างศักยภาพและการมีส่วนร่วมของเครือข่าย
วิธีการป้องกันโดยมอบให้แกนนำป้องกันเอดส์ไปดำเนินการ ๒๒ โครงการ ใช้เงินประมาณ ๑๕๐ ล้านบาท ใน ๒๖ จังหวัด โดยที่แกนนำนี้มักจะเป็น NGO ในพื้นที่ และมีวิธีทำงานแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ผลที่ได้ไม่น่าประทับใจ ผลการทำ marginal analysis บอกว่าการดำเนินการในเยาวชนให้ผลคุ้มค่ากว่าในชายรักชาย และผู้ใช้ยาเสพติด
ในกลุ่มชาติพันธุ์ต้องเข้าผ่านโครงการประวัติศาสตร์ชุมชน ให้เกิดความไว้วางใจก่อน
ผมมองว่า เรื่องการป้องกันเอดส์นี้ น่าจะเป็นหัวข้อของ PBL (Project-Based Learning) ของนักเรียน เริ่มตั้งแต่ชั้น ม. ๑ หรือ ป. ๕ ให้นักเรียนรวมกลุ่มกันทำโครงการป้องกันเอดส์ในชุมชนหรือในกลุ่มนักเรียน และมีการจัด contest สำหรับนักเรียนแต่ละช่วงอายุ และสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายกลุ่ม ถือเป็นการเรียนรู้สาระวิชาสุขศึกษา และฝึกทักษะชีวิตที่ซับซ้อน
วิจารณ์ พานิช
๒๖ ธ.ค. ๕๓
ไม่มีความเห็น