ทำไมจึงจับไก่ที่กำลังไข่มาฆ่า ทั้งๆที่มีไก่รุ่นกระทงที่เหมาะจะนำมาทำอาหารอยู่ตั้งหลายตัว
ไก่ตัวนี้มันกำลังไข่ก็จริง แต่เมื่อมันไข่แล้วมันไม่กระต๊ากไม่ควรเลี้ยงไว้มันบ่ค้ำบ่คูณ(บ๋ค้ำบ่คูณ คือไม่มีประโยชน์ต่อไป..ไม่ดี)
แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี กับคำสอนของบรรพบุรุษไทยเรา ที่อาจจะสวนทางกันสักหน่อย ผมมองว่า ทั้งสองคำมีประโยชน์ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ว่า เราจะใช้คำใดในเวลาและสถานที่ใด
เพิ่งเคยได้ยินค่ะ บางทีก็อยากปิดทองหลังพระ
ประเภทพูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง (เข้ากันรึเปล่าคะนี่)
ขอบคุณเรื่องแปลกๆ ค่ะ
ขอบคุณครับคุณวิไล นี่แหละครับที่ผมกำลังมองดูสังคมไทยอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ทำดีแล้วอย่าเด่น...แต่ถ้าเราทำดีแล้วไม่บอกให้ทราบ มันจะดีต่อสังคมได้แค่ไหน อันนี้ผมหมายถึงทำงานนะครับ อย่างเช่นครูคิดค้นนวัตกรรมขึ้นมา ก็ต้องเผยแพร่ใช่ไหมครับ มันก็เหมือนกับไก่ที่ไข่แล้วต้องกระต๊ากไงครับ ...เขียนไปเขียนมาผมก็ยังงงอยู่ครับ
เห็นด้วยครับ ทำดีต้องมี PR
ขอบคุณมาก ที่ทำให้คิดถึงเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว เป็นข้อคิดที่ภูมิปัญญาจริงๆ หากคนเรานำเรื่องใกล้ตัวที่เรารับรู้และสัมผัสกับมันโดยตรง แล้วนำมาหาเหตุหาผล เปรียบเทียบ เป็นอุปมา อุปมัย ได้ทุกๆ เรื่องก็คงจะดี อัจฉริยะ
ครับผม ขอบคุณครับ
เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมคนโบราณถึงบอกว่า ไก่ไข่แล้วไม่ขันให้ฆ่าทิ้ง 1ก่อนไข่ต้องขันเพื่อหาที่ไข่ ถ้าไม่ขันเจ้าของไก่ก็จะไม่รู้ว่าไก่ของคุณกำลังจะไข่น่ะ 2ไข่เสร็จแล้วตองขัน เพื่อบอกให้เจ้าของไก่รู้ว่าไข่เสร็จแล้ว มาเก็บไข่ไปกิน ไปขายได้อย่างไงค่ะ