กศน.ตำบลนางาม
นาย เกียรติศักดิ์ อ๊อด หล้ามาชน

สร้างรูปหล่อ จางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษ เจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองมัญจาคีรี


สร้างรูปหล่อ จางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษ เจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองมัญจาคีรี

         

ประวัติเจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองมัญจาคีรี " จางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษ "  ( สน )

         

" พระเกษตรวัฒนา (สน) ปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณพระเจ้าอยู่หัวมิได้ขาดตกบกพร่อง ทั้งที่มีรองเจ้าเมืองช่วยงานเพียงตำแหน่งเดียวคือราชวงษ์  แต่มีความสามารถในการหาชายฉกรรจ์ที่ยังไม่มีสังกัดได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งเนื่องจากพระเกษตรวัฒนา(สน) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการสู้รบ ทำให้ผู้คนอพยบมาอยู่เมืองมัญจาคีรีเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เก็บส่วยได้มากขึ้น นอกจากนี้พระเกษตรวัฒนา ยังได้นำไพร่พลและชายฉกรรจ์ชาวมัญจาคีรีเข้าร่วมสงครามปราบฮ่อครั้งที่ ๒ ที่ทุ่งเชียงคำในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๓๔-๒๔๓๖ ซึ่งถือเป็นความดีความชอบที่ปรากฏอย่างเด่นชัด จึงได้รับบรรดาศักดิ์โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) โปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งเป็น จางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษ ซึ่งทำหน้าที่ปกครองเมืองมัญจาคีรี โดยบรรดาศักดิ์ จางวางเอก  นับตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หมายถึง หัวหน้ามหาดเล็กในพระบรมมหาราชวัง หรือเจ้านายต่างกรม ลำดับขั้นยศเทียบเท่ามหาอำมาตย์เอกในสมัยต่อมา ส่วนบรรดาศักดิ์ของเจ้าเมืองในสมัยนั้น ถ้าเป็นเมืองเล็กจะเป็น  พระ  ถ้าเป็นเมืองใหญ่ถึงจะเป็น  พระยา  กรณีที่พระเกษตรวัฒนา(สน) เจ้าเมืองมัญจาคีรีได้รับบรรดาศักดิ์เป็น  จางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษ  จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยจางวางเอกพระยาพฤติคุณธนะเชษได้ทำหน้าที่ปกครองเมืองมัญจาคีรีจนชราภาพ และถึงอนิจกรรมในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ "

        

                                   ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานในพิธี

          

         

                  

                                 

         

หมายเลขบันทึก: 419232เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2011 15:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ท่านทำทุกอย่างจนมีอำเภอมัญจาคีรีชาวมัญจาคีรีต้องรักและหวงแหนอำเภอนี้สมกับที่ท่านเจ้าเมืองท่านเสียสละมานะครับ

  • ประวัติน่าประทับใจมากค่ะ
  • ทำให้คนไทยรักและหวงแหนประเทศไทยค่ะ

...ประทับใจในคำกล่าว...“ข้าจะสู้โดยไม่หวั่นว่าจะไร้ซึ่งลมหายใจ ขอเพียงวันข้างหน้านั้นไซร้ลูกหลานข้ามีแผ่นดินอยู่” : ประวัติศาสตร์เจ้าเมืองจะไม่ถูกลบเลือนหายไปตามกาลเวลา หากลูกหลานถ้วนทั่วหน้ารู้สำนึกบุณคุณผู้สร้างแผ่นดิน

เห็นด้วยกับความเห็นของคุณ กศน.ท้องถิ่น ค่ะ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งและตระหนักถึงความเสียสละของท่าน แต่น่าเสียดายที่เราชาวเมืองมัญจาไม่เคยล่วงรู้ถึงประวัติและความสำคัญของท่านมาก่อนเลย แต่ก้อคิดว่าน่าจะยังไม่สายนะคะ ตอนนี้ทราบข่าวมาว่าผู้มีจิตศรัทธาทั้งจากทางอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น และจากจังหวัดอื่นๆ ที่ให้ความศรัทธาในตัวท่าน กำลังจะช่วยกันบูรณะและสร้างอนุสาวรีย์ให้กับเจ้าเมืองมัญจาครีรี สมกับความเสียสละที่ท่านได้สร้างไว้ให้กับประเทศชาติและที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวเมืองมัญจาคีรีของเรา แต่ติดปัญหาตรงที่ดินราชพัสดุที่กำลังมีนายทุนประมูลเพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์เพื่อให้เช่า ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างประโยชนท์เพื่อส่วนตน แต่หากว่าการทำประชาพิจารณ์เพื่อคัดค้านการสร้างอาคารพาณิชย์ในที่ดินราชพัสดุนี้ได้ ทางผู้มีจิตศรัทธาก็จะได้สร้างอนุสาวรีย์ให้กับท่านในบริเวณด้านหน้าและด้านข้าง นอกเหนือจากนั้นยังจะได้ทำพิพิธภัณฑ์ประวัติเมืองมัญจาคีรีและประวัติเจ้าเมือง รวมถึงข้าวของเครื่องใช้พระราชทานต่างๆ ของท่าน และสร้างศูนย์สินค้าโอทอปสำหรับผู้ผ่านไปมา เชื่อแน่ว่าหากโครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ อำเภอมัญจาคีรีจะต้องเจริญมากยิ่งขึ้นๆๆๆๆๆๆ เพราะเรารู้กตัญญูต่อผู้สร้างแผ่นดิน ตอนนี้รอฟังข่าวว่าจะมีการเปิดประชาพิจารณ์เมื่อไหร่ ยังไงก้ออย่าลืมไปช่วยกันนะคะ

อย่าลืมวันที่ 10 เมษายน 2554 เข้าร่วมพิธีอัญเชิญเจ้าเมืองขึ้นประดิษฐานรูปหล่อนะคับ ทราบข่าวมาว่าทางโหรหลวง กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง รวมทั้ง หลวงปู่ท่อน จะมาทำพิธีให้อีกเช่นเคย ดีใจมากๆ ที่มีการเริ่มต้นประวัติศาสตร์ให้กับลูกหลานได้ร่วมตอบแทนเจ้าเมือง อย่าลืมร่วมด้วยช่วยกันนะคับ

นางสาว ทิวาวรรณ สนธิโสมพันธุ์

อยากให้เจ้าคุณปู่มีความสุขและ เป็นร่มโพธ์ร่มไทรของลูกหลาน หรือเหลน หรือโหลน ตลอดไป คะ และขอให้คุ้มครองลูกหลานอย่าได้เจ็บได้ไข้ ไม่ได้ไปหานานแล้วคิดถึงมากคะว่างๆ เด๋วจะไปคะ

เมื่อคืนท่านมาลงทรงช่วยเหลือคนป่วยคะ น้องคนนึงเป็นโรคเลือดก็ไปรักษา เด็กบอกว่าท่านเอาเท้าเหยียบที่ท้อง แล้วเหมือนมีอะไรดิ้นขลุกขลักในท้อง แล้วดีดเลื่อนออกไปที่ท้องน้อยและออกไปปลายเท้า.. ท่านช่วยเหลือลูกหลานและศักดิ์สิทธิจริง

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับทุกความเห็น  สำหรับตัวผมเองเพิ่งมีโอกาสได้ไปกราบท่านเมื่อวานนี้เอง (17 สิงหาคม 2556) ได้ไปกราบท่านปู่ทั้ง 3 ท่าน  ได้สนทนาผ่านทางร่างทรง  ทำให้มหัศจรรย์ใจเมื่ออยู่ท่านก็เดินเข้ามหาแล้วถามเรื่องทุกข์ที่อยู่ในใจ(เพิ่งประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2556  ทำให้มีผู้เสียชีวิต) โดยท่านย้ำให้ไปทำบุญอุมิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต  ซึ่งในชีวิตตนเองเป็นที่มีความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม และการทำดีไดีอยู่แล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำสิ่งเหล่านี้และจะทำความดีมากยิ่งขึ้น  นอกจากนั้นท่านยังให้ผมยกเท้าท่านขั้นพื้นของศาลที่สถิตย์ซึ่งหนักมาก  แต่พอจิตใจสงบก็สามารถทำจนสำเร็จ . . . .แล้วผมจะกลับไปกราบท่านอีกครับ

ชัยทัศน์ ไพรินทร์

ผมไปกราบท่านปู่ฯเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายา 2556

ท่านปู่ฯเป็นเทพที่ทรงเมตตายิ่งต่อมวลมนุษย์

สิ่่งศักดิ์สิทธินี้มีอภินิหารสุดจะคาดคิดสำหรับคนทั่วไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท