เคล็ด (ไม่ ) ลับ : เมื่อลูกเป็นปอดบวม


                   

         เพิ่งกลับมาทำงานใหม่ ๆ ก็เจอเรื่องยุ่ง ๆ หลาย ๆ อย่าง เช่น ตัวเองป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก นอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน พออาการดีขึ้นมาทำงาน 2-3 วัน ลูกชายคนเล็กก็ป่วยเป็นปอดบวม นอนโรงพยาบาลอีกหลายวัน เกือบอาทิตย์พอดี

  

        ฝากให้พี่เลี้ยงดู น้องจะมีอาการหวัดมาก่อน คือ น้ำมูกไหลเป็นน้ำใส ๆ จาม ตอนกลางคืน คุณแม่คอยห่มผ้าให้หนา ใส่เสื้อกันหนาว ทุกอย่างทั้งถุงมือ ถุงเท้า ทาวิคส์ให้    ต่อมาเริ่มมีไข้ คุณแม่เช็ดตัวให้ สักหน่อยเริ่มมีเสียงครืดคราดในลำคอ พาไปหาหมอที่คลินิก บอกว่าปอดไม่เป็นไร วันถัดมาไข้ทั้งวัน ชักไม่ค่อยดีพากลับไปหาหมอที่ทำงานคุณแม่ ที่ รพ.โนนไทย

 

        หมอบอกว่า "เป็นปอดบวม" จากการถ่ายภาพรังสี หรือเราเรียกว่า เอกซเรย์  สรุปต้องนอนฉีดยา พ่นยา ให้น้ำเกลือ ดูดเสมหะ เจาะเลือด นอนดมออกซิเจนหลายวัน น่าสงสาร ตัวลายเริ่มเขียวตามฝ่ามือฝ่าเท้า

 

        สรุปว่าคุณแม่ก็โดนบ่นว่า  "เลี้ยงลูกอย่างไรถึงเป็นปอดบวม"

เรามาทบทวนโรคนี้กันดีกว่าค่ะ ว่าเป็นอย่างไร จะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ดูแย่ก่อนไปหาหมอ

 

                        

 

          ปอดบวม ปอดอักเสบ หรือนิวโมเนีย

 

ปอดบวม (Pneumonia) ก็คือ อาการอักเสบของเนื้อปอด  อาการอักเสบที่เกิดขึ้นมีสาเหตุได้หลายประการ ที่เราเรียกกันว่า ปอดบวมนั้น เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน

 

         เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคปอดบวม

 

   ปอดบวมที่เกิดจากเชื้อไวรัส มักจะมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า ปอดบวมที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย  มักจะเกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัสสเตรป นิวโมเนอี เอช.อินฟลูเอนซ่า และเครปเซียล่า

                         

                      

          อาการแสดงของโรคปอดบวม

 

        อาการ ไอ ไข้สูง เจ็บหน้าอก หายใจหอบ เสมหะใสเหนียว เสมหะข้นหรืออาจจะมีเลือดปนก็พบได้ อาการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นโดยรวดเร็ว    ในเด็กเล็กๆ อาจจะมีอาการไอเพียงเล็กน้อย   ส่วนมากเด็กมักจะมีอาการตัวร้อนจัด หายใจหอบจนซี่โครงบุ๋ม และมักจะมีประวัติเป็นหวัดหรือไข้หวัดมาก่อน ถ้าเด็กมีอาการตัวเขียวและอ่อนเปลี้ยมาก ควรที่จะพาเด็กไปหาหมอโดยเร็ว

 

         การวินิจฉัยและการรักษา      ต้องอาศัยหมอเป็นผู้ตัดสินโดยอาศัยประวัติการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และอาจจะต้องเอกซเรย์ปอด

 

                    การรักษา

       หากเป็นปอดบวมที่เกิดจากเชื้อไวรัส ก็อาจจะไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ก็มีหมอหลายคนนิยมให้ยาปฏิชีวนะควบไปเลย เพื่อป้องกันการแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรีย ทั้งนี้อาจจะต้องแล้วแต่อาการของคนไข้  หากเป็นโรคปอดบวมที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ก็ต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมกับเชื้อที่เป็นต้นเหตุ เช่น เพนนิซิลลิน ใช้ทำลายเชื้อนิวโมคอคคัสได้ดี แต่จะใช้ไม่ได้ผลกับ เอช.อินฟลูเอนซ่า เป็นต้น

 

          

                            

         การดำเนินของโรค

 

ปอดบวมที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะหายไปได้เองภายใน 7 วัน ส่วนที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หากได้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมแล้วจะหายไปภายใน 7-10 วัน แต่หากได้ยาที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ โรคก็จะลุกลามไปเป็นน้ำในเยื่อหุ้มปอด และมีหนองในเยื่อหุ้มปอดในที่สุด

 

          การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคปอดบวม

 

- เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคปอดบวม ควรไปหาหมอเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

- พักผ่อนให้ดี เพื่อที่จะฟื้นไข้ได้รวดเร็ว

- ดื่มน้ำให้มาก

 

          สรุปง่าย ๆ คือ เมื่อลูกเป็นไข้สัก 2-3 วันแล้วเรากินยาลดไข้ เช็ดตัวแล้วอาการไม่ทุเลา เราควรรีบพบแพทย์เมื่อหาสาเหตุของไข้ค่ะ อย่าปล่อยนานเกินไป

          หรือหากเด็กมีเสียงครืดคราดในลำคอ หรือเสียงดังหวีด ๆ ในลำคอ หายใจเร็ว หน้าอกบุ๋ม ควรรีบพบแพทย์เป็นการด่วน

                     

                                 

 

หมายเลขบันทึก: 418725เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2011 03:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2013 14:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ส่งกำลังใจมาให้ ตัวเล็กหายป่วยโดยเร็ว

โชคดีที่ลูกพี่ไม่เคย Admit ซักที  เลยไม่ต้องเครียดมาก

เคยเครียดตอนที่น้ำหนักลูกเกิน (อ้วน) พอเริ่มโต เขาก็เริ่มรู้จักยับยั้งตัวเอง กินน้อยลง ตอนนี้เลยกลายเป็นแม่ที่เริ่มจะอ้วนแทน เพราะเสียดายของ

สวัสดีปีใหม่ สวัสดีวันเด็กค่ะ

สวัสดีค่ะพี่กระติก

- ขอบคุณค่ะ ตอนนี้กลับมาบ้าน แต่ยังมีเสมหะในลำคอ

ตามมาด้วยลูกสูบยางแดงต่อที่บ้าน น่าสงสารค่ะ

- สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ลูกชายก็เคยเป็นโรคนี้เห็นแล้วน่าสงสารมากครับ

แต่ที่ไม่เข้าใจและมองไม่ออกเลยคือหน้าอกบุ๋มครับ... มองยังไงก็มองไม่ออก

สวัสดีค่ะ คุณ โยธินิน

- โดยปกติบริเวณหน้าอกจะราบเรียบ แต่หากเด็กหายใจหอบมากจะมีการใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกมาก ทำให้บริเวณนี้ยุบลงไปสักหน่อย จะเห็นว่าบุ๋มลงไป แสดงว่าหอบมากเลยค่ะ

 

 

หน้าอกบุ๋มจะเป็นลักษณะดังนี้ค่ะ 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท