ใครๆก็มักพูดถึงความคิดเชิงบวกหรือ Positive Thinking และมองว่า Negative Thinking นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงมีพึงเป็น ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะใครเล่าจะชอบการถูกตำหนิ แต่ก็พึงระวังว่า Positive จนเกินพอดีก็มีผลเสียได้เหมือนกัน อาจทำให้คนที่เราหวังดีไม่มีโอกาสเห็นความจริงในตน หรือกว่าจะเห็นหรือรู้สึกได้ก็สายเสียแล้ว .. เพราะมัวแต่โอ๋หรือถนอมน้ำใจกัน
Positive Thinking สุนทรียสนทนา หรือการหยิบความสำเร็จแม้เพียงเล็กน้อยของผู้คนมาชื่นชม มาให้กำลังใจกัน เป็นสิ่งที่ผมชื่นชมเช่นที่หลายๆคนชื่นชอบ และก็ใช้สำเร็จมาหลายครั้งแล้วทั้งในระดับห้องเรียน และการทำงานโครงการใหญ่ๆดูแลงานวิจัยกว่า 30 โครงการ จึงขอยกมือให้ทุกท่านที่สนับสนุนเรื่องแนวนี้
การตำหนิติเตียนมันบั่นทอนกำลังใจ ไม่มีใครชอบ ไม่มีใครต้องการได้รับ แต่จากประสบการณ์อีกมุมหนึ่ง ในกลุ่มเพื่อนฝูงที่รู้ใจ และครูบาอาจารย์ที่เราเคารพบูชา เราใช้หมัดตรง หรือของแข็ง กันมากเหมือนกันและได้ผลดีมากเสียด้วย เช่นท่านอาจารย์ถามว่า ทำไมคุณโง่อย่างนั้น? .. เป็นอาจารย์เขา ทำได้แค่นั้นหรือ ? ฯลฯ
สรุปแล้วของแต่ละอย่างคงต้องเลือกให้เหมาะกับคนและสถานการณ์ .. ดีสำหรับคนหนึ่งอาจเลวร้ายสำหรับอีกคนหนึ่งได้เสมอ .. สรุปอีกทีก็คือจง ระวัง ระวัง และ ระวัง
ถ้าผมกำลังจะตกหลุมลึกโดยไม่รู้ตัวและมีใครสักคนกระโดดถีบจนผมล้มลงและรอดพ้นจากการตกหลุม ผมจะขอบคุณการถีบของเขาอย่างจริงใจ ผมไม่ต้องการให้ใครมาปลอบโยน ให้กำลังใจในภาวะวิกฤติเช่นนั้น .. ในที่สุด คิดบวก หรือ คิดลบ ไม่มีทางสู้ "คิดเห็นตามที่เป็นจริง" ได้หรอก ผมเชื่อเช่นนี้
บันทึกนี้โดนใจจริง ๆ ครับอาจารย์
ระยะหลังผมเริ่มรู้สึกเลี่ยนและเอียนกับ Positive Thinking และดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่มันเยอะเกินไป
หลายกรณีเป็นการปลอบประโลมกันไปมา
ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับ "การมองตามที่มันเป็นจริง การคิดและพูดในสิ่งที่เห็นตามจริง"
สิ่งนี้คือสิ่งที่พุทธศาสนาสอนครับ...
ผมคิดว่าผมเป็นอยู่คนเดียว ดีใจที่เป็นเหมือนอาจารย์ครับ...
สวัสดีค่ะ
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ค่ะอาจารย์
คิดบวก หรือ คิดลบ ไม่มีทางสู้ "คิดเห็นตามที่เป็นจริง" ได้....โดนใจค่ะ
ส่วนตัวผมคิดว่าคำนี้น่าจะมาจากฝรั่งมังค่า ตามประสาคนไทยชอบอะไรที่เป็นของนอกเลยเห่อใช้คำนี้กัน ฝรั่งศึกษาแนวพุทธเลยไม่เข้าใจคำว่า "สติ" การคิดแบบสติลึกล้ำกว่าการคิดเชิงบวก ยิ่งถ้าคิดแล้วทำความเข้าใจใช้หลักไตรลักษณ์ ท้ายสุดให้ปล่อยวางหรืออุเบกขาได้ คือสุดยอดของการคิดครับ บอกแบบนี้ให้คนไทยฟังก็ไม่ค่อยชอบ เอาเป็นว่าจะ Positive thinking แบบฝรั่งก็ถือว่าดีแล้วกันครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณ "คิดคม สเลลานนท์" ครับ ฝรั่งจับมาแค่กระพี้แล้วก็ขยายความเสียใหญ่โต เราก็เห่อตาม พูดบาลีแล้วมันไม่เท่ห์เหมือนภาษาอังกฤษ แท้ที่จริงแล้ว แนวคิดไตรลักษณ์นี่แหละคือสุดยอดของต้นตำรับเลยครับ หลวงพ่อดีเนาะ (http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-dee-nor-hist.htm) ท่านเป็นต้นตำรับของ Positive thinking ที่เห็นได้ชัดเลยครับ