การปรับไลฟ์สไตล์สู่ชีวิตที่สมดุล


การปรับไลฟ์สไตล์สู่ชีวิตที่สมดุล สำหรับเทคนิคในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น สามารถเริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิต

ๆการปรับไลฟ์สไตล์สู่ชีวิตที่สมดุล
เจ้าของงานเขียน แก้ไขหน้านี้ ได้ที่นี่ 
ขอขอบคุณข้อมูลจากรักลูก 
               สำหรับเทคนิคในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น สามารถเริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิต เช่น การเลือกกินอาหารที่ปลอดสารพิษ วิธีในการล้างผัก การเลือกซื้ออาหารเสริม ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะวัยเข้าเลขสี่ คือหากเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมกับวัยแล้ว ถือเป็นเกาะป้องกันความเสื่อมของร่างกายได้ขั้นหนึ่ง แต่หากได้รับวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีคุณภาพ มีสารอาหารจากแหล่งกำเนิดที่ดี ยิ่งสามารถช่วยเพิ่มเกาะป้องกันโรคอันจะก่อตัวขึ้นได้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะเสื่อมถอยแล้ว กระบวนการในการผลิตฮอร์โมน หรือการดูดซึมสารอาหารก็มีประสิทธิภาพลดน้อยลงเช่นเดียวกัน
               แม้ว่าในธรรมชาติจะมีอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยสารอาหารมากมาย แต่ในอาหารเหล่านั้นน้อยมากที่ผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เช่น ส้ม หากเด็ดจากต้นได้วิตามินเต็มที่ 100% พอผ่านมา 7 วัน ผ่านความร้อน การขนส่ง กว่าจะถึงมือผู้บริโภควิตามินเหลืออยู่แค่ 1% ซึ่งปกติวิตามินซีที่ร่างกายต้องการคือ 1000-3000 มิลลิกรัม
               สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเจ นมถั่วเหลือง เต้าหู้ คุณหมอฝากบอกว่ามีผลในเรื่องของการชะลอวัยได้  เพราะถั่วเหลืองมีสารที่ชื่อว่า “ไอโชฟลาโวนอย” ช่วยในเรื่องของการต้านมะเร็งได้  ดังนั้น คนเอเชียที่กินถั่วเหลืองเป็นประจำอย่างน้อยมื้อละ 1 กำมือ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่งผลถึงในแง่ของการชะลอวัยได้ และจะช่วยลดอัตรามะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมนต่ำ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิง ผู้ชายก็กินได้  ซึ่งนอกจากถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ยังให้สารอาหารดี อีกทั้ง ยังย่อยง่ายเหมาะสำหรับผู้สูงวัย หรือเลือกทานปลา เนื้อแดง เพราะโปรตีนช่วยในการสร้างอิลาสตินใต้ผิวหนัง
               “ควรเลือกวิธีการปรุง เพื่อให้อาหารคงคุณค่าอยู่ เช่น ต้ม นึ่ง โดยหลีกเลี่ยงการหมัก ย่าง เพราะวิธีการดังกล่าวจะทำให้ไม่เหลือสารอาหารแล้ว และไม่ว่าอาหารชนิดใดก็ไม่ควรจะกินติดต่อกันนาน ควรกินให้อยู่ในภาวะที่สมดุล ควรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอาหาร การที่เรากินอาหารซ้ำๆ บ่อยๆ เช่น พืชผักซ้ำๆ ก็อาจทำให้เราได้รับยาฆ่าแมลงเป็นประจำ ทำให้ร่างกายเป็นภูมิแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ เพราะฉะนั้น การกินอาหารที่ถูกต้องควรจะหมุนเวียนใน 4 วันไม่ควรกินอาหารที่ซ้ำกัน เช้าก๋วยเตี๋ยว เย็นสลัด เปลี่ยนเมนู ชนิดอาหารไป... ที่สำคัญการเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่ แต่ควรเพิ่มการออกกำลังกาย อย่างน้อยเดินวันละ 30 นาที ต่อเนื่องกัน เช่น การเดินเร็ว ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด ไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงการนอน ปัจจุบันด้วยภาระหน้าที่ทำให้คนมักจะนอนดึกขึ้น ซึ่งการนอนที่ดี คือการนอนที่ไม่เกิน 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน เพราะจะมีฮอร์โมนดีที่หลั่งออกมา เพื่อซ่อมแซมร่างกาย หรือ growth hormone แต่เมื่อไหร่ที่คนทำงานหักโหม นอนตี 2 ฮอร์โมนแห่งความเครียดก็จะหลั่งออกมาทำลายร่างกายอย่างเดียว เพราะฉะนั้น คนที่เครียดมากจะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน และโรคความดันมากขึ้น” แพทย์หญิงกษิรา กล่าว
               นอกจากผู้เข้าเสวนาจะได้เรียนรู้ถึงเทคนิคการชะลอวัย ที่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่การรู้ทันโรคภัยก่อนเกิดปัญหา ด้วยหลักบำบัดตามธรรมชาติ และนวัตกรรมสุดไฮเทคจากวิทยากรแล้ว ยังได้ทราบถึงเทคนิคการดูแลผิวพรรณความงามแบบไม่พึ่งพาศัลยกรรม ที่ช่วยต้านริ้วรอยแห่งวัย และความหย่อนคล้อยของสัดส่วน โดย คุณเปิ้ล-หัทยา วงศ์กระจ่าง ดีเจแห่งคลื่น Get 102.5 มาบอกเล่าเทคนิคการดูแลผิวที่สวยแบบไม่ง้อศัลยกรรม พร้อมการกู้ชีวิตผิวหน้าแบบ 360 องศา
               “เปิ้ลเริ่มจากปัญหาผิวพรรณ เพราะเป็นคนชอบเล่นกีฬา กลางแจ้ง ตอนที่อายุ 20-30 ไม่มีปัญหากับผิวเลย... ว่ายน้ำได้ 2-3 ชั่วโมง ตีเทนนิส วิ่ง ไม่เคยทาครีมกันแดดเลย จนอายุ 40 กว่า ส่องกระจก ตีนกาเริ่มมา เริ่มมีริ้วรอยใต้ตา เริ่มมีรอยเหี่ยวย่น จับหน้าดูแล้วไม่กระชับเหมือนเก่า ซึ่งคิดว่าถ้าเราดูแลตัวเองดีๆตั้งแต่วัยรุ่น ปัญหาอาจจะน้อย  แต่ช่วงอายุ 45-46 ปัญหาเยอะมาก จึงตัดสินใจไปตรวจ เพื่อดูว่าฮอร์โมน และร่างกายข้างในของเราเป็นอย่างไร ซึ่งก็ตรงหลายอย่าง เพราะคุณพ่อเป็นเบาหวาน ในเครื่องบอกว่าให้เราระวังเรื่องของเบาหวาน เป็นสัญญาณที่บอกให้เราดูแลในจุดนี้เยอะๆ” 
               “สัญชาตญาณผู้หญิงเกือบทุกคนต้องการมีผิวพรรณที่ดีดูผ่องใสอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรต้องเริ่มดูแลอาหารการกินให้ดี คุณอาจจะไม่ได้เป็นคนผิวขาวผ่อง แต่เราดูแลผิวพรรณให้สะอาดสะอ้าน คือล้างหน้าให้เกลี้ยง ใช้ครีมบำรุงให้ถูกกับสภาพผิวของเรา ซึ่งเมื่อไหร่ที่เราหาเงินได้แล้วเราสามารถที่จะเจียดเงินของเรา โดยไม่เบียดเบียนคนอื่นที่จะซื้อครีมที่มีสรรพคุณที่ดี ไปนวดหน้าบ้าง ไปกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งอายุเปิ้ลใกล้จะเข้าเลข 5 แล้ว แน่นอนต้องสูดมลพิษรอบตัวมามาก แม้จะไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็คิดว่าร่างกายเราคงมีสารพิษตกค้างมาก เพราะผักที่เรากิน น้ำยาล้างจาน หรือสเปรย์ปรับอากาศก็มีสารพิษสะสมแล้ว... ได้เคยทำดีท็อกซ์ แบบ “คีเลชั่น” (การฉีดน้ำเกลือผ่านเข้าไปในชั้นผิว เพื่อไปชำระสารโลหะหนัก) เพื่อล้างพิษในร่างกายบ้าง และตัวเองไม่ได้เป็นคนผิวขาวออกจะแทนด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง ยิ่งต้องพยายามดูแลผิวพรรณให้ดี นอกจากนั้นก็ต้องออกกำลังกายให้เลือดลมไหลเวียน ให้เหงื่อหรือของเสียได้ขับออกมาบ้าง ที่สำคัญควรทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ใช่กินจุกจิกมื้อเย็น แล้วเข้านอนเที่ยงคืน แต่ต้องตื่นเช้ามาทำภารกิจต่างๆ ซึ่งนอกจากร่างกายเสื่อมถอยแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นผิวพรรณเราจะเห็นจุดบกพร่องได้ชัดกว่าสาวๆ และเมื่อตื่นขึ้นมาสภาพจิตใจยังไม่แจ่มใสอีก” คุณเปิ้ล-หัทยา กล่าว

การปรับไลฟ์สไตล์สู่ชีวิตที่สมดุล


               สำหรับเทคนิคในการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น สามารถเริ่มได้จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิต เช่น การเลือกกินอาหารที่ปลอดสารพิษ วิธีในการล้างผัก การเลือกซื้ออาหารเสริม ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะวัยเข้าเลขสี่ คือหากเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์เหมาะสมกับวัยแล้ว ถือเป็นเกาะป้องกันความเสื่อมของร่างกายได้ขั้นหนึ่ง แต่หากได้รับวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีคุณภาพ มีสารอาหารจากแหล่งกำเนิดที่ดี ยิ่งสามารถช่วยเพิ่มเกาะป้องกันโรคอันจะก่อตัวขึ้นได้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะเสื่อมถอยแล้ว กระบวนการในการผลิตฮอร์โมน หรือการดูดซึมสารอาหารก็มีประสิทธิภาพลดน้อยลงเช่นเดียวกัน
               แม้ว่าในธรรมชาติจะมีอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยสารอาหารมากมาย แต่ในอาหารเหล่านั้นน้อยมากที่ผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เช่น ส้ม หากเด็ดจากต้นได้วิตามินเต็มที่ 100% พอผ่านมา 7 วัน ผ่านความร้อน การขนส่ง กว่าจะถึงมือผู้บริโภควิตามินเหลืออยู่แค่ 1% ซึ่งปกติวิตามินซีที่ร่างกายต้องการคือ 1000-3000 มิลลิกรัม
               สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเจ นมถั่วเหลือง เต้าหู้ คุณหมอฝากบอกว่ามีผลในเรื่องของการชะลอวัยได้  เพราะถั่วเหลืองมีสารที่ชื่อว่า “ไอโชฟลาโวนอย” ช่วยในเรื่องของการต้านมะเร็งได้  ดังนั้น คนเอเชียที่กินถั่วเหลืองเป็นประจำอย่างน้อยมื้อละ 1 กำมือ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่งผลถึงในแง่ของการชะลอวัยได้ และจะช่วยลดอัตรามะเร็งที่เกิดจากฮอร์โมนต่ำ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิง ผู้ชายก็กินได้  ซึ่งนอกจากถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ยังให้สารอาหารดี อีกทั้ง ยังย่อยง่ายเหมาะสำหรับผู้สูงวัย หรือเลือกทานปลา เนื้อแดง เพราะโปรตีนช่วยในการสร้างอิลาสตินใต้ผิวหนัง
               “ควรเลือกวิธีการปรุง เพื่อให้อาหารคงคุณค่าอยู่ เช่น ต้ม นึ่ง โดยหลีกเลี่ยงการหมัก ย่าง เพราะวิธีการดังกล่าวจะทำให้ไม่เหลือสารอาหารแล้ว และไม่ว่าอาหารชนิดใดก็ไม่ควรจะกินติดต่อกันนาน ควรกินให้อยู่ในภาวะที่สมดุล ควรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอาหาร การที่เรากินอาหารซ้ำๆ บ่อยๆ เช่น พืชผักซ้ำๆ ก็อาจทำให้เราได้รับยาฆ่าแมลงเป็นประจำ ทำให้ร่างกายเป็นภูมิแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ เพราะฉะนั้น การกินอาหารที่ถูกต้องควรจะหมุนเวียนใน 4 วันไม่ควรกินอาหารที่ซ้ำกัน เช้าก๋วยเตี๋ยว เย็นสลัด เปลี่ยนเมนู ชนิดอาหารไป... ที่สำคัญการเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่ แต่ควรเพิ่มการออกกำลังกาย อย่างน้อยเดินวันละ 30 นาที ต่อเนื่องกัน เช่น การเดินเร็ว ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด ไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงการนอน ปัจจุบันด้วยภาระหน้าที่ทำให้คนมักจะนอนดึกขึ้น ซึ่งการนอนที่ดี คือการนอนที่ไม่เกิน 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน เพราะจะมีฮอร์โมนดีที่หลั่งออกมา เพื่อซ่อมแซมร่างกาย หรือ growth hormone แต่เมื่อไหร่ที่คนทำงานหักโหม นอนตี 2 ฮอร์โมนแห่งความเครียดก็จะหลั่งออกมาทำลายร่างกายอย่างเดียว เพราะฉะนั้น คนที่เครียดมากจะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน และโรคความดันมากขึ้น” แพทย์หญิงกษิรา กล่าว

               นอกจากผู้เข้าเสวนาจะได้เรียนรู้ถึงเทคนิคการชะลอวัย ที่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่การรู้ทันโรคภัยก่อนเกิดปัญหา ด้วยหลักบำบัดตามธรรมชาติ และนวัตกรรมสุดไฮเทคจากวิทยากรแล้ว ยังได้ทราบถึงเทคนิคการดูแลผิวพรรณความงามแบบไม่พึ่งพาศัลยกรรม ที่ช่วยต้านริ้วรอยแห่งวัย และความหย่อนคล้อยของสัดส่วน โดย คุณเปิ้ล-หัทยา วงศ์กระจ่าง ดีเจแห่งคลื่น Get 102.5 มาบอกเล่าเทคนิคการดูแลผิวที่สวยแบบไม่ง้อศัลยกรรม พร้อมการกู้ชีวิตผิวหน้าแบบ 360 องศา
               “เปิ้ลเริ่มจากปัญหาผิวพรรณ เพราะเป็นคนชอบเล่นกีฬา กลางแจ้ง ตอนที่อายุ 20-30 ไม่มีปัญหากับผิวเลย... ว่ายน้ำได้ 2-3 ชั่วโมง ตีเทนนิส วิ่ง ไม่เคยทาครีมกันแดดเลย จนอายุ 40 กว่า ส่องกระจก ตีนกาเริ่มมา เริ่มมีริ้วรอยใต้ตา เริ่มมีรอยเหี่ยวย่น จับหน้าดูแล้วไม่กระชับเหมือนเก่า ซึ่งคิดว่าถ้าเราดูแลตัวเองดีๆตั้งแต่วัยรุ่น ปัญหาอาจจะน้อย  แต่ช่วงอายุ 45-46 ปัญหาเยอะมาก จึงตัดสินใจไปตรวจ เพื่อดูว่าฮอร์โมน และร่างกายข้างในของเราเป็นอย่างไร ซึ่งก็ตรงหลายอย่าง เพราะคุณพ่อเป็นเบาหวาน ในเครื่องบอกว่าให้เราระวังเรื่องของเบาหวาน เป็นสัญญาณที่บอกให้เราดูแลในจุดนี้เยอะๆ” 
               “สัญชาตญาณผู้หญิงเกือบทุกคนต้องการมีผิวพรรณที่ดีดูผ่องใสอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรต้องเริ่มดูแลอาหารการกินให้ดี คุณอาจจะไม่ได้เป็นคนผิวขาวผ่อง แต่เราดูแลผิวพรรณให้สะอาดสะอ้าน คือล้างหน้าให้เกลี้ยง ใช้ครีมบำรุงให้ถูกกับสภาพผิวของเรา ซึ่งเมื่อไหร่ที่เราหาเงินได้แล้วเราสามารถที่จะเจียดเงินของเรา โดยไม่เบียดเบียนคนอื่นที่จะซื้อครีมที่มีสรรพคุณที่ดี ไปนวดหน้าบ้าง ไปกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งอายุเปิ้ลใกล้จะเข้าเลข 5 แล้ว แน่นอนต้องสูดมลพิษรอบตัวมามาก แม้จะไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็คิดว่าร่างกายเราคงมีสารพิษตกค้างมาก เพราะผักที่เรากิน น้ำยาล้างจาน หรือสเปรย์ปรับอากาศก็มีสารพิษสะสมแล้ว... ได้เคยทำดีท็อกซ์ แบบ “คีเลชั่น” (การฉีดน้ำเกลือผ่านเข้าไปในชั้นผิว เพื่อไปชำระสารโลหะหนัก) เพื่อล้างพิษในร่างกายบ้าง และตัวเองไม่ได้เป็นคนผิวขาวออกจะแทนด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง ยิ่งต้องพยายามดูแลผิวพรรณให้ดี นอกจากนั้นก็ต้องออกกำลังกายให้เลือดลมไหลเวียน ให้เหงื่อหรือของเสียได้ขับออกมาบ้าง ที่สำคัญควรทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ใช่กินจุกจิกมื้อเย็น แล้วเข้านอนเที่ยงคืน แต่ต้องตื่นเช้ามาทำภารกิจต่างๆ ซึ่งนอกจากร่างกายเสื่อมถอยแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นผิวพรรณเราจะเห็นจุดบกพร่องได้ชัดกว่าสาวๆ และเมื่อตื่นขึ้นมาสภาพจิตใจยังไม่แจ่มใสอีก” คุณเปิ้ล-หัทยา กล่าว

อ่านบทความดีดีเพิ่มเิติมต่อได้ที่นี่จ้ะ http://www.vcharkarn.com/varticle/41939

หมายเลขบันทึก: 414504เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2010 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 11:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท