การนิเทศงานโรงพยาบาลสายใยรักฯของ ศูนย์อนามัยที่ 8


จากการเข้าร่วมทีมประเมินด้วยในหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าศูนย์ฯ จะเป็นสไตล์นี้

    ด้วยศูนย์ฯเราเป็นศูนย์ฯขนาดใหญ่ ในการนิเทศงานก็เลยใช้ทีมผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ของศูนย์ฯ เป็นหลัก เพราะเป็นผู้ที่เรียนรู้นโยบายสายใยรักเองโดยตรงด้วย และเป็นผู้ปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่แล้วด้วย จะเข้าใจว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กรมอนามัยกำหนดมา เราก็จะเข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกประเมินด้วย เพราะก่อนที่เราจะไปประเมินเครือข่าย เราได้เริ่มที่

  1. ประชุมพูดคุย ทำความเข้าใจกับเกณฑ์การประเมินก่อน
  2. ทดลองประเมินตนเอง โดยทีมประเมินทำหน้าที่เป็นผู้ประเมิน ให้น้องๆ เป็นผู้ถูกประเมิน ประเมินทั้งหมดทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
  3. นำผลการประเมินมาลงบันทึกในโปรแกรมสายใยรักฯ แล้วค้นหาจุดอ่อน จุดแข็งในการพัฒนาตัวเอง
  4. จัดประชุมแกนนำของเครือข่ายเพื่อชี้แจงเกณฑ์การประเมิน
  5. นัดวันที่เหมาะสมในการนิเทศงาน ตามแต่ละบริบทของพื้นที่ โดยรพ.ประจำจังหวัดศูนย์ฯจะลงประเมินร่วมกับทีมอาจารย์ เช่น
  • จังหวัดนครสวรรค์ จะให้แต่ละรพ.ประเมินตนเองก่อน แล้วสสจ.รวบรวมประสานกับศูนย์ฯ  จากนั้นให้ศูนย์ฯ ลงนิเทศพร้อมทีมรพ.พี่เลี้ยง (รพ.สวรรค์ประชารักษ์) และสสจ.
  • จังหวัดอุทัยธานี นั้นทางรพ.พี่เลี้ยง(รพ.อุทัย) จะลงประเมินเองก่อนพร้อมสสจ. ถ้าดูแนวโน้มว่าจะผ่านระดับทอง แล้วจึงส่งผลมาให้ศูนย์ฯลงประเมินซ้ำ พร้อมสสจ.
  • จังหวัดกำแพงเพชร นั้นใช้ระบบเดียวกับอุทัยธานี
  • จังหวัดพิจิตร จะมีรพ.ขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ รพ.พิจิตร และรพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ที่ให้ศูนย์ฯ ลงประเมิน จากนั้นรพ.ชุมชน สสจ.ร่วมกับรพ.พิจิตร ก็จะลงพื้นที่เอง ติวน้องก่อน แล้วจึงส่งผลมาให้ศูนย์ฯ ลงประเมินซ้ำร่วมกับสสจ.

 6. ในวันประเมินจริง ศูนย์ฯ จะลงพื้นที่จริงวันละ 1 รพ. โดยจะมีกุมารแพทย์,สูติแพทย์,พยาบาลงานฝากครรภ์,งานห้องคลอด,งานหลังคลอด,งาน WCC ,งานโรงเรียนพ่อแม่,พยาบาลผู้ประเมินงานชมรมสายใยรัก และปีนี้จะมีทันตแพทย์ไปประเมินร่วมด้วย

7. เมื่อไปถึง ทางรพ.ก็จะนำเสนอกิจกรรมและผลการดำเนินงานภายใต้โครงการสายใยรักฯ  ก็จะเป็นการเล่าเรื่องกิจกรรมตั้งแต่ฝากครรภ์ ห้องคลอด หลังคลอด เด็ก wcc และชมรม และสรุปเป็นผลลัพธ์ 4 ตัวหลัก

8. ทีมประเมินซักถามข้อสงสัย ก่อนลงประเมินจริง

9. บ่ายก็ลงคะแนนตามโปรแกรม และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

    สิ่งที่ควรเตรียมก็ คือ ข้อมูลการดำเนินงานในโรงพยาบาลที่ผ่านมาอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง แต่เรื่องอื่นๆ ไม่น่าต้องเตรียมแล้ว เพราะงานเป็น routine แล้ว ก็ปีนี้แค่ไปตรวจเยี่ยม reaccradit เท่านั้นเอง

หมายเลขบันทึก: 413325เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2010 11:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 22:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท