8-10 ธค 53 ประชุมเรื่อง การพัฒนาศักยภาพผู้นำการบริการปฐมภูมิ ที่ โรงแรมอุบลบุรี จ. อุบลราชธานี จัดโดย มูลนิธิแพทย์ชนบท ผู้เข้าร่วมประชุมจาก รพช. และ รพ.สต. ต่างๆจากหลาย CUP เช่น แก่งคอย, เชียงยืน, ท่าแซะ, ลำลูกกา, กงไกรลาศ, รพ. 50 พรรษา(เจ้าถิ่น) และอื่นๆ ในส่วนหนึี่งจากการประชุมมีการระดมสมองในหัวข้อ primary care ที่ควรจะเป็นว่าจะต้องใช้คนเท่าไร ภายใต้เงื่อนไข
- ประชากรรับผิดชอบประมาณ 5000-10000 คน
- ดูแลประชาการที่มีปัญหาสุขภาพได้ 80-90 % ( 80-90 % ของ first contact จะดูแลรักษาได้ ไม่ต้อง refer)
- ทำงานส่งเสริมป้องกันได้ครบตามกำหนดโดยไม่ต้อง make ข้อมูล
- คิดโดยไม่ติดกรอบที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
- คิดอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ( ภายใต้วงเงินจำกัด แต่มากพอที่จะจูงใจให้อยู่ได้)
ผลที่ออกมาปรากฎว่า ทั้ง 4 กลุ่มที่แบ่ง ได้ผลมาเหมือนกันคือ
- ต้องมีบุคลากรประมาณ 14 คน
-ประกอบด้วย แพทย์ 1, ทันตแพทย์ 1, เภสัช 1, พยาบาลเวช 4 , เจ้าหน้าทีสาธารณสุข 2 , แพทย์แผนไทย 1 , ด้านข้อมูลและจัดการ 4
หลายคนดูแล้วอาจมองว่าเป็นไปได้ยาก แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ควรที่จะตั้ง vision หรือทิศทางที่ชัดเจนก่อนไม่ใช่หรือ ส่วนวิธีก็ค่อยมาว่ากันอีกที เพราะีถ้ายังคิดในกรอบเดิม การทำงาน primary care ก็คงต้องหนีคำว่า "ตามมีตามเกิด" ไปไม่พ้น ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม / Boss
สนับสนุนแนวคิด..และกิจกรรมดีดี ค่ะ
ยังคม กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็นเช่นเดิม พี่เรา
ดูแล้วน่าจะเหมาะกับกลุ่มมโนรมย์เรานะคะ เงื่อนไขก็คล้ายคลึงแนวคิดการทำงานของ Boss อยู่แล้ว ยิ่งมีทิศทางที่ชัดเจน หลายคนช่วยกันมองใหม่ว่าน่าจะทำได้ และเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ก็สำเร็จไปแล้วครึ่งละค่ะ cheer up/Wilawan
พี่คะ.... ผอ.รพ.สต ควรรวมอยู่ใน14คนไหมคะ แอบถามคะ
ผมยังไม่แน่ใจว่าชื่อ รพ.สต. ว่าจะยั่งยืนขนาดไหน จึงให้ความเห็นเรื่อง ผอ.รพ.สต.ไม่ได้ แต่คิดว่าสิ่งที่ยั่งยืนคือ หน่วยปฐมภูมิ ซึ่งจะเรียกอะไรต่อไปก็ยังไม่รู้ แต่มันก็คือคำตอบของระบบสุขภาพของประเทศไทย ที่เราต้องร่วมกันสนับสนุนต่อไป/ หมอบรรพต
รพสต.ปทุม อาจเป็นอีกโมเดลที่ออกนอกกรอบ
หากมองอีกทีอาจเหมือนการทำงานในครอบครัว หากไม่ใช่แพทย์ที่เป็นครอบครัวเดียวกับ 50 พรรษา ยังไม่มองไม่ออกว่าจะเวิร์คขนาดนี้ไหม