ผมเคยเขียนเกี่ยวกับแบบประกันอาวุโส โอเคหรือแบบประกันที่ใกล้เคียงกันปรากฏว่ามีหลายท่านสนใจที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้านที่บริษัทประกันมักจะไม่ได้ให้ข้อมูลลูกค้า
เนื่องจากแบบประกันอาวุโสโอเคแบบไม่ตรวจสุขภาพที่โฆษณาในโทรทัศน์นั้น
บริษัทประกันคาดว่าคนที่ซื้อประกันชีวิตอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพส่วนใหญ่คือคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้วจึงไม่อยากตรวจสุขภาพ เพราะกลัวบริษัทประกันปฏิเสธรับประกันหรือเพิ่มเบี้ยประกันหากรู้ว่าตนเองมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งบริษัทประกันชีวิตเองก็รู้ช่องว่างตรงนี้เป็นอย่างดี จึงออกแบบประกันอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพมาเพื่อจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยเบี้ยที่คำนวณมาสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้จะคิดเบี้ยประกันที่บวกค่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปด้วยเนื่องจากคนสมัครประกันแบบนี้ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ดังนั้นความเสี่ยงรวม (Risk Pool) ของคนกลุ่มนี้ย่อมสูงกว่ากลุ่มคนที่ตรวจสุขภาพ เพราะคนที่ตรวจสุขภาพ บริษัทประกันสามารถพิจารณาความเสี่ยงได้ตามภาวะสุขภาพของผู้เอาประกัน แต่เนื่องจากแบบประกันอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพ ทำให้บริษัทประกันไม่สามารถพิจารณาความเสี่ยงของผู้เอาประกันจากภาวะสุขภาพได้ หากจะรับประกันคนกลุ่มนี้ก็ต้องมีการคิดเบี้ยสูงกว่าแบบประกันที่มีการขอตรวจสุขภาพได้
เช่น
ผู้เอาประกันเพศชายอายุ 55 ปี ต้องการซื้อทุนประกันชีวิต 1 แสนบาท
หากชายคนนี้ซื้อแบบประกันอาวุโสโอเคที่ทุนดังกล่าวเขาต้องจ่ายเบี้ย 5700 บาทต่อปี
แต่หากเขาซื้อแบบที่ตรวจสุขภาพจะจ่ายเบี้ยประกันเพียงแค่ 4680 บาทเท่านั้น
เพศหญิงก็เช่นกัน หากผู้เอาประกันเพศหญิงอายุ 55 ปีต้องการซื้อทุนประกันชีวิต 1 แสนบาท
หากหญิงคนนี้ซื้อแบบประกันอาวุโสโอเคที่ทุนดังกล่าวเขาต้องจ่ายเบี้ย 4800 บาทต่อปี
แต่หากเขาซื้อแบบที่ตรวจสุขภาพจะจ่ายเบี้ยประกันเพียงแค่ 4115 บาทเท่านั้น
พึงคิดไว้เสมอว่าในเมื่อแบบประกันอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพนั้นมีความเสี่ยงในการรับประกันมากกว่า เบี้ยประกันก็ต้องสูงกว่าแบบประกันอื่นๆที่มีลักษณะของผลประโยชน์เหมือนกันกับแบบประกันดังกล่าว
เอาล่ะครับ ที่นี้มาดูที่เงื่อนไขการจ่ายผลประโยขน์ของแบบอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพบ้าง
ข้อสำคัญ
รายละเอียด
จะเห็นได้ว่าผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตภายในใน 2 ปีแรกนั้นหากเป็รการเสียชีวิตเนื่องจากเจ็บป่วยไม่ว่ากรณีใดๆก็จะได้เบี้ยประกันคืนบวกกับดอกเบี้ยอีกร้อยละ 2 ของเบี้ยที่ชำระมาแล้ว แต่ถ้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะได้ทั้งเงินทุนประกันและได้เบี้ยประกันคืนบวกกับดอกเบี้ยอีกร้อยละ 2 ของเบี้ยที่ชำระมาแล้วด้วย หากเสียชีวิตหลัง 2 ปีหลังเอาประกันก็จะได้แค่ทุนประกันเท่านั้น
อย่างที่บอกครับว่าคนที่ซื้อประกันชีวิตอาวุโสโอเคแบบไม่ต้องตรวจสุขภาพน่ะ คือคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัวซึ่งคนพวกนี้มักกลัวว่าตัวเองจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนทั่วไปเนื่องจากมีโรคประจำตัว
ที่นี้มันก็จะมีข้อสังเกตที่อยากให้ทุกท่านทราบว่าแบบประกันนี้คนที่มีโรคประจำตัวหรือสุขภาพไม่ดีหากเสียชีวิตในปีแรกๆน่ะก็จะได้กำไรจากการทำประกันนะครับ แต่หากเกิดโชคดีถึงมีโรคประจำตัวแต่ดันอายุยืนหรือตายช้าอาจขาดทุนจากการทำประกันชีวิตอาวุโสโอเคได้ลองดูเบี้ยประกันตามตารางข้างล่างนะครับ
ตัวอย่างเบี้ยประกันต่อปี
อายุ
|
ตัวอย่างทุนประกัน 100,000 บาท
|
|
เพศ
|
ชาย
|
หญิง
|
55
|
5,700
|
4,800
|
56
|
5,900
|
4,900
|
57
|
6,300
|
5,100
|
58
|
6,600
|
5,300
|
59
|
6,800
|
5,500
|
60
|
7,100
|
5,800
|
61
|
7,300
|
6,000
|
62
|
7,700
|
6,300
|
63
|
8,000
|
6,500
|
64
|
8,400
|
6,800
|
65
|
8,700
|
7,100
|
66
|
9,100
|
7,400
|
67
|
9,500
|
7,700
|
68
|
9,900
|
8,100
|
69
|
10,300
|
8,400
|
70
|
10,700
|
8,800
|
แบบประกันอาวุโสโอเค ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 90 ปี
ดังนั้นหากผู้เอาประกันเพศชายเริ่มต้นเอาประกันตอนอายุ 60 ทุนประกัน 1 แสนบาท
เขาต้องจ่ายเบี้ยประกันปีละ 7100 บาท ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเสียชีวิตหรืออายุถึง 99 ปี
เมื่อผ่านไป 15 ปีหรือตอนผู้เอาประกันอายุ 75 หากผู้เอาประกันยังมีชีวิตอยู่ ผู้เอาประกันจ่ายเบี้ยประกันไปแล้วทั้งหมด 106500 บาท เกินทุนประกันไปแล้วพูดง่ายๆคือเบี้ยที่จ่ายเยอะกว่าทุนประกันที่จะได้หรืออีกนัยหนึ่งคือขาดทุนนั่นเองครับ แถมยังหยุดส่งเบี้ยประกันไม่ได้นะครับ เพราะตามเงื่อนไขบอกว่าจะต้องส่งเบี้ยประกันไปจนกว่าจะเสียชีวิตหรืออายุครบ 99 ปี แต่ถ้าหยุดส่งกรมธรรม์ก็จะขาดผลบังคับ เบี้ยประกันที่ส่งมาก็จะแทบสูญเปล่า
นั่นหมายความว่าถ้าผู้เอาประกันยิ่งเสียชีวิตช้า ก็ยิ่งขาดทุนหากผู้เอาประกันเสียชีวิตตอนอายุ 80 รวมเบี้ยประกันที่ส่งไปทั้งหมด 142000 บาทแต่เวลาเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายให้ตามทุนประกันคือ 1 แสนบาท เท่ากับว่าขาดทุนไป 42000 บาท
ที่นำมาลงไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งใดๆแต่อย่างใดนะครับ เพียงแต่ว่าอยากให้เป็นข้อมูลรอบด้านสำหรับผู้ที่ต้องการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
เพราะบางคนไม่ทราบเลยว่าข้อเสียของแบบประกันมีอะไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่ตัวแทนหรือบริษัทประกันก็บอกแต่ข้อดีไม่พูดถึงข้อเสียเลย
หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้หลายๆท่านใช้ประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดีครับ
Very Good บทความ มีประโยชน์มากครับ ได้รู้อีกแง่มุมหนึ่ง ของแบบประกัน ว่างๆ หามาให้อ่านอีกนะ Thanks
ขอบคุณครับมัประโยชน์ในการตัดสิใจดีมาครับ....OK
ขอบคุณมากค่ะ ได้อะไรมากเลย หาอ่านมาเจอพอดี จะได้รู้ซะทีว่าเป็นยังไง
ข้อมูลดีมากๆครับ
เก่งอีกแล้ว ชอบมากๆๆ ได้ประโยชน์จริงๆ อยากให้เข้ามาดูกันเยอะๆ
ประกันชีวิตแบบนี้ เป็นการคุ้มครองความเสี่ยง เพราะคนเราไม่แน่นอน เสียชีวิตเร็วก็คุ้มในปีที่3-10 ของการชำระเบี้ยก็ถือว่าคุ้ม แต่เราก็ไม่อยากคุ้ม เพราะอยากอยู่กับลูกหลานนานๆ จริงมั๊ย
ถ้าจะมองอีกแง่มุมหนึ่งผมว่าการประกันเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่ใช่ทำแล้วต้องมาหวังผลกำไรจากการทำประกัน ถ้ามองในแง่มุมของบริษัทเกิดเหตุการณ์เสียชีวิตบริษัทก้อต้องจ่ายทุนให้สูงกว่าเงินเบี้ยประกันให้กับลูกค้าเหมือนกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างคุณไม่รู้หรอกว่ามันจะเกิดเหตุการณือะไรเกิดขึ้นก่อน ถ้ามีใครรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า คงไม่มีคำว่าการประกันหรือบริษัทประกันเกิดขึ้นมาหรอกครับ ผมก็ขอให้คุณลองคิดดูกันเอาน่ะครับเราทำเพื่ออะไรกับกลุ่มที่เราจะประกันให้วึ่งก็ถือว่ามีความเสี่ยงมากและใหนจะสุขภาพอีกไม่ต้องตรวจมีโรคประจำตัวก็ทำได้ ถ้าจะมาหวังเอาผลกำไรกับการทำประกันชีวิตผมว่าคงไม่ใช่เพราะประกันตัวอาวุธโสนี้ออกแบบมาเพื่อการกระจายความเสี่ยงร่วมกันมากกว่า ลองใช้การพิจารณาดูกันเองน่ะครับ(แต่ไม่อยากให้มองว่าเป็นการค้ากำไรน่ะครับ)
ขอบคุณมากคะ ข้อมูลนี้ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะซ้ือประกันแบบไหนดี
สุดยอด ดีๆๆๆ
ถ้าเราต้องการทราบว่าประกันอาวุโสokที่เราทำแล้วมีชื่อเข้าระบบหรือยังเราต้องทำอย่างไรค่ะ
ขอบคุณครับกำลังอยากทราบข้อมูลอยู่พอดีเลย
ขอบคุณครับเข้าใจแล้ว แต่ปัญหาคือ ทำให้คุณพ่อไป 2 ปีกว่าแล้ว แบบนี้ทำไงดีครับ คุณพ่ออายุ ทำตอน 60 ตอนนี้ 62 กว่า ไม่มีโรคประจำตัวเลยครับ ควรทำยังไงดีครับ ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ
ผมทำให้คุณพ่อไป 2 ปีกว่าแล้ว ตอนนั้นท่านอายุ 60 ครับ
แต่ท่านไม่มีโรคประจำตัวเลยครับ สุขภาพแข็งแรงดี
ตอนนั้นท่านอยากได้เลยทำให้ไม่อยากขัดใจ
หลังจากอ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย ทำให้รู้ว่า ไม่คุ้ม
ผมควรทำอย่างไรดีครับยกเลิกดีไหมครับ
แนะนำค่ะ ดิฉันเป็นตัวแทน AIA เหมือนกัน ถ้าอายุน้อยๆ แนะนำให้ทำประกันแบบสะสมทรัพย์ดีกว่าค่ะ เช่น ฝากเงินปีล่ะ 6,700฿ ต่อปี หรือจะฝากเป็นเดือน เดือนล่ะ 684฿ คุ้มครองชีวิต 100,000฿ ออมทรัพย์ต่อเนื่อง 15ปี คุ้มครองถึง25ปีเมื่อครบสัญญา ได้รับเงินที่เราออมทรัพย์ไว้ คืนทุกบาท+ได้เงินคืนปีล่ะ1,000(เสมือนดอกเบี้ย)+เงินปันผลโดยประมาน 2.75% ทุกๆ5ปี เท่ากับเราฝากเงิน 100% แต่ได้คืน 144%
แต่ถ้าผู้ขอรับประกันอายุมาก แนะนำแบบตลอดชีวิต ทำต่อเนื่อง20ปี คุ้มครองตลอดชีวิต ถึงจะเลิกส่งเบี้ย แต่ก็ยังได้รับการคุ้มครอง และมีเงินปันผลทุกๆปี 085-4285865 (ให้ข้อมูล สอบถามได้ต่ะ)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆเกือบจะตัดสินใจทำแล้วดีที่มาเจอบทความนี้ก่อน
ขอบคุณสำหรับข้อมูล มีประโยชน์มากเลยค่ะ แต่เราจะหาประกันผู้สูงอายุแบบใหนดี ที่มีค่ารักษาพยาบาลกรณีเข้ารับการรักษาที่รพ.แบบเบี้ยไม่สูง ไม่ต้องมีเงินปันผลก็ได้ค่ะแต่ขอให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทุกกรณี แบบว่ากำลังมองหาให้แม่อยู่แต่ทุนทรัพย์น้อย ประกันสังคมเขาก็ไม่มี ใครมีข้อมูลดีๆ ช่วยบอกกันบ้างนะคะ
อันก็เป็นคนนึงที่ทำประกันอาวุโสโอเคกับทางเอไอเอทุนประกัน200,000 บาทจ่ายเดือนละ1674 ต่อเดือนโดยหักผ่านบัญชี ให้กับคุนย่าเมื่อตอนแก70ปีพอดี เห็นมีข่าวว่าทางเอไอเอโกงเบี้ยประกันบ้างไม่จ่ายบ้างแล้วในโฆษนาก็บอกว่าไม่ต้องตรวจสุขภาพใดๆตอนนี่ก็จ่ายไปประมาน2ปีกว่าแล้วกลัวว่าถ้าถึงวันนั้นทางเอไอเอจะโกงเงินหรือบิดเบียวในการจ่ายเงินทุน +เงินที่จ่ายต่อเดือนใครเป็นตัวแทนช่วยตอบปัญหานี้ด้วยนะคะ
แล้วที่เขาแชร์มา 9 โรคที่ไม่จ่ายจริงใหมค่ะ
ตอนทำคิดว่า ดี แต่พอทำได้สองปี อยากยกเลิก เพราะมีอันอื่นที่ดีกว่า ไม่ควรมาถ่วง เวลา ต้องติดต่อไป ติดต่อแต่ไม่ติดต่อกลับมา ประกัน AIA อาวุโส OK ควรเข้าใจลูกค้าด้วย อย่าคิดแต่จะขาย ถ้าจะยกเลิก เป็นสิทธิ์ที่ลูกค้าได้ ไม่ต้องถ่วงเวลา จะได้ไปทำอย่างอื่น