บุคคลที่น่าให้ของขวัญ(ทิป)ปีใหม่


อาจารย์ทรงพจน์ สุภาผล ตีพิมพ์เรื่อง "ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันแนะนำหลักเกณฑ์การให้เงินทิป่ช่วงปีใหม่" ในเว็บไซต์ 'VOAnews' ภาคภาษาไทย, ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [ VOAnews ภาคภาษาไทย ]
.
.
อาจารย์คิมเบอร์ลี พาลเมอร์ ผู้เขียนหนังสือแนะแนวสำหรับคนรุ่นใหม่ด้านการใช้จ่าย ลงทุน และให้สิ่งตอบแทน แนะนำว่า ปีใหม่เป็นเทศกาลที่เราน่าจะพิจาณาให้ทิป (tip = เงินขอบคุณ เงินตอบแทนการบริการ) กับบุคคลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจให้เป็นบัตรกำนัล หรือของขวัญแทนได้
.
ตัวเลขเงินข้างท้ายเป็นตัวเลขทิปที่ควรให้ ซึ่งอาจารย์จูดิต บาวแมน ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศแนะนำไว้ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวเลขนี้คงจะไม่เหมาะสมกับสังคมไทย
.
.
(1). พนักงานไปรษณีย์ > 20$ = 20 ดอลลาร์ (ในสหรัฐฯ มีระเบียบห้ามพนักงานไปรษณีย์รับทิปเกินครั้งละ 20 ดอลลาร์ = 600 บาท)
.
(2). คนส่งหนังสือพิมพ์ > 10-20$ = 300-600 บาท
.
(3). คุณครูอนุบาล หรือคนเลี้ยงเด็ก > อย่างน้อย 100$ = 6,000 บาท
.
(4). คนทำความสะอาดบ้าน > 20% ของค่าบริการแต่ละครั้ง
.
(5). พนักงานยกกระเป๋า เปิดประตูตามตึกหรือโรงแรม > 20% ของค่าบริการแต่ละครั้ง
.
(6). คนทำผมเจ้าประจำ > 20% ของค่าบริการแต่ละครั้ง
.
(7). ครูฝึกสอนกายบริหาร หรือครูโยคะ > 20% ของค่าบริการแต่ละครั้ง
.
.
ส่วนกลุ่มที่คุณบาวแมนแนะนำว่า ไม่ต้องให้ทิปก็ได้ คือ ร้านเสริมสวย ร้านอาหารเจ้าประจำ พนักงานที่มีเงินเดือน พนักงานขายหรือบริการที่คิดค่าบริการไว้ในใบเรียกเก็บเงิน (บิล) แล้ว
.
คุณบาวแมนแนะนำว่า การให้ทิป 10-15% เป็นเรื่องล้าสมัย, ค่าตอบแทนในปัจจุบันไม่ควรต่ำกว่า 20%
.
พี่ชายผู้เขียนกล่าวว่า ความเสื่อมอย่างหนึ่งของสังคมอเมริกัน คือ การใช้จ่ายเงินเกินตัว (overexpenditure)...
เรื่องนี้ตรงกับที่ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า คนอเมริกันมีความเชื่อว่า คนที่มีฐานะมั่นควรจะมีบ้าน และบ้านก็ควรสร้างให้ "เกินตัว" สักหน่อย
.
ตัวอย่างเช่น ถ้าอยู่กัน 2 คนก็อาจมีห้องน้ำ 3 ห้องขึ้นไป... เรื่องการใช้จ่ายเงินเกินตัวนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาณาจักรใหญ่ๆ ล้มละลายมาหลายยุคหลายสมัย
.
ตัวอย่าง เช่น อาณาจักรอียิปต์สร้างปีระมิดก่อนล้มละลาย อาณาจักรขอมสร้างปราสาทก่อนล้มละลาย ฯลฯ
.
การให้ทิปหรือของขวัญเป็นเรื่องดี ทว่า... ไม่ควรให้มากจนเกินตัว (แบบที่อาจารย์บาวแมนแนะนำ)
 
ถ้าสังคมใดมีธรรมเนียมในการเรียกร้องค่าทิป หรือบริการมากถึงระดับหนึ่งแล้ว... ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริการจะเพิ่มขึ้นมาก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากไปเที่ยวหรือใช้บริการ (เมื่อเทียบกับสังคมที่เรียกร้องน้อยกว่า)
.
ผู้เขียนขอเรียนเสนอว่า คนที่เราน่าจะมอบของขอบคุณ หรือให้ของขวัญปีใหม่ ไม่ว่าจะปีนี้หรือปีไหนๆ ได้แก่ คุณแม่คุณพ่อ (ถ้าล่วงลับไปแล้วก็ควรทำบุญอุทิศให้), ญาติพี่น้อง, ครูบาอาจารย์, ผู้มีพระคุณหรือคนที่ช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆ, และที่ลืมไม่ได้ คือ ควรให้ของขวัญกับตัวเองด้วย
.
ของขวัญอย่างหนึ่งที่พนักงานไปรษณีย์ทั่วโลกอยากได้ คือ ขอให้ติดเลขที่บ้านให้ชัดเจน มีตู้ใส่จดหมาย มีกริ่งเรียกหน้าบ้าน เช่น เมื่อมีของลงทะเบียนที่ต้องลงชื่อรับเป็นหลักฐาน ฯลฯ
.
ขอให้ช่วยดูแลน้องหมา อย่าปล่อยให้ไปวิ่งไล่หรือกัด
.
ของขวัญอย่างหนึ่งที่คนเราให้กันได้ คือ คำ "ขอบคุณ-ขอบใจ" เมื่อได้รับบริการหรือความช่วยเหลือ, คำ "ขอโทษ" เมื่อล่วงเกินหรือพลาดพลั้ง ซึ่งถ้ามีการไหว้ตามความเหมาะสมแล้วจะเป็นของขวัญที่มีค่ามาก
.
เร็วๆ นี้มีการสำรวจว่า คนไทยต้องการอะไรในเทศกาลลอยกระทง... ผลปรากฏว่า คนไทยต้องการให้บ้านเมืองสงบ ร่มเย็น ซึ่งของขวัญนี้คนไทยให้กับแผ่นดินไทยได้ โดยการไม่สนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง-กลุ่มความคิดสุดโต่ง-กลุ่มนิยมความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นค่ายใดสีใด
.
นี่เป็นของขวัญที่พวกเราน่าจะช่วยกันตอบแทนแผ่นดินนี้ได้
.
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้... ผู้เขียนเพิ่งมีโอกาสไปทัวร์ลาว-เวียดนามกลางเป็นครั้งแรก (เชยสุดๆ เลย), ไกด์ชาวเวียดนามท่านหนึ่งบอกว่า การเมืองไทยไม่นิ่ง ทำให้คนทั่วโลกเข้าไปลงทุนไม่มากเท่าที่ควร
.
ผู้เขียนลองถามคนที่ไปเห็นเวียดนามมา... เกือบทุกคนตอบตรงกันว่า เวียดนามจะแซงไทยได้
.
ปัจจัยสำคัญ คือ คนเวียดนามมีความขยัน-เน้นการศึกษาเล่าเรียน-ซื่อสัตย์-กตัญญู-รักญาติพี่น้อง-รักชาติตามวัฒนธรรมขงจื๊อที่ทำให้ชาติในเอเชียตะวันออกไกล (จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี-เวียดนาม และรวมสิงคโปร์ที่รับวัฒนธรรมนี้ด้วย) เจริญรุ่งเรืองมานับพันๆ ปีแล้ว
.
เรื่องที่น่าชื่นชมเวียดนามมาก คือ การศึกษาก้าวไปไกลมาก
.
ถ้าคนไทยไม่สนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง-กลุ่มความคิดสุดโต่ง-กลุ่มนิยมความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นค่ายใดสีใด... บ้านเมืองของเราจะร่มเย็น เป็นสุข
.
นี่เป็นของขวัญปีใหม่ที่คนไทยน่าจะให้กับแผ่นดิน และให้กับคนไทยทุกคน
.
เรียนเสนอมาด้วยความเคารพ
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.

 > [ Twitter ]

ที่ มา                               

  • ขอขอบพระคุณ > [ VOAnews ภาคภาษาไทย ]
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 6 ธันวาคม 2553.
หมายเลขบันทึก: 412309เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2010 21:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • บันทึกดีดีทีควรให้ทิป....

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกๆท่านครับ..............

ชอบมากเลยค่ะที่ทำให้เห็นความก้าวหน้าของเพื่อนบ้าน

ยิ่งย่อหน้านี้ยิ่งทำให้อยากทำอะไรดี ๆ ขึ้นมาก

ปัจจัยสำคัญ คือ คนเวียดนามมีความขยัน-เน้นการศึกษาเล่าเรียน-ซื่อสัตย์-กตัญญู-รักญาติพี่น้อง-รักชาติตามวัฒนธรรมขงจื๊อที่ทำให้ชาติในเอเชียตะวันออกไกล (จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี-เวียดนาม และรวมสิงคโปร์ที่รับวัฒนธรรมนี้ด้วย) เจริญรุ่งเรืองมานับพันๆ ปีแล้ว

.... นี่เป็นเหตุที่คนไทยยังล้าหลังอยู่ทุกวันนี้ เพราะความขยันเราไม่ค่อยมี ไม่ค่อยสนใจหาความรู้

แถมยังไม่ซื่อสัตย์ โดยเฉพาะต่อตนเองค่ะ เห็นได้ทุกจังหวัดทุกอำเภอ แม้แต่ข้าราชการที่เป็นเจ้าคนนายคน ส่วนใหญ่ก็ยังไม่สัตย์ซื่อ แค่มาทำงานก็ยังมาทำงานสาย กลับก่อน ไม่เห็นใจชาวบ้าน แล้วโกหกตนเองและคนอื่นว่าทำหน้าที่ได้ดีแล้ว

อันที่จริง หากชาวบ้านมีการศึกษามากกว่านี้ และมีทางเลือกมากกว่านี้ พวกเขาคงจะฟ้องเอาผิดกับบรรดาคนเหล่านี้ที่มีอยู่ล้นประเทศไทย

ประเทศไทยคงจะเจริญรุ่งเรืองมากหากมีคนดีอยู่มาก ๆ ค่ะ ชาวบ้านที่พึ่งพาอาศัยอาจารย์คงจะภูมิใจไม่น้อยที่ได้มีคุณหมอที่เสียสละนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท