เกษตรอุตสาหกรรม : หวังดี ฤา ประสงค์ร้าย...!


เคยมีใครย้อนกลับไปถามพี่น้องเกษตรกรไทยจริง ๆ ไหมว่าเขาต้องการให้ชีวิตเขาเป็นอย่างไร...?

เหมือนกับมีเด็กคนหนึ่งที่หวังดีจูงคนตาบอดข้ามถนน ทั้ง ๆ ที่คนตาบอดนั้นไม่อยากจะข้ามถนน แต่ก็ไม่อยากจะปฏิเสธความหวังดีของเด็กคนนั้น เพราะกลัวว่าเด็กคนนั้นจะเสียใจ

พี่น้องเกษตรกรไทยเขารู้จัก "ความสุขแท้" แต่พวกนักวิชาการก็หวังแต่ผลงานทางเศรษฐกิจและสังคม นำความรู้นำทฤษฎีไปเจือปนกับวิถีชีวิตของเขา

วันนี้เราต้องย้อนกลับมามองดูตัวเราว่า ที่เราทำนั้นเพราะเราอยากทำ หรือที่เราทำนั้นเพราะเขา (พี่น้องเกษตรกร) นั้นต้องการ

ต้องลองวางใจเป็นกลางแล้วพิจารณาใจเขาใจเราให้ถ้วนถี่

และพิจารณาย้อนกลับไปต้องแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรกที่ยังไม่มีสังคมด้วยว่า นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ "ความสุขมวลรวม" ในประเทศเติบโตเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือไม่...?

แท้ที่จริงพี่น้องเกษตรกรของเราไม่ได้มีปัญหากับชีวิตอะไรมากนัก ถ้าหากนักเศรษฐกิจไม่หยิบยื่นสิ่งที่เรียกว่า "พัฒนา" เขาไป

เมื่อนักเศรษฐกิจคิดอะไรเป็นตัวเลขโดยใช้บรรทัดฐานของสังคมเกษตรกรรมอุตสาหกรรมเข้าไปจับ พี่น้องเกษตรกรของเราก็ตกมาตรฐาน ต่ำกว่าเกณฑ์ ล้าหลัง

แต่ความสุขของชีวิตเขาไม่เคยล้าหลัง

Large_resize_of_dsc08771

 

สังคมเกษตรกรรมไทยยังเป็นสังคมที่มีความสุขอยู่

เขาก็มีความสุขแบบพอเพียงของเขา ความสุขแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ ที่เรามองเขา นั่นคือความเพียงพอของชีวิต

เราต่างหากที่ยังไม่เพียงพอ เพราะเราใช้บรรทัดฐานทางเศรษฐกิจและวิชาการตัดสินชีวิตบุคคลอื่น

วันนี้จึงถึงวันที่เราจะต้องกลับมาทบทวนวิถีชีวิตของตนเอง ว่าเราหรือเขาเป็นคนที่เข้าถึงความสุข

Large_resize_of_dscn3451

ชีวิตที่เราดิ้นรนอยากให้คนอื่นเป็นสุข ไม่สุขเท่ากับชีวิตที่เราอยากให้เราเป็นสุข

 

ลาภและยศนั้นเป็น “เหยื่อของโลก” ที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ
เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่า เหยื่อนั้น มีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย
หรือเหมือนไก่ ที่แย่งไส้เดือนกัน จิกตีกัน ทำลายกัน จนพินาถกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก

ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่ เจือจาน โอบอ้อมอารี
ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีความเมตตากรุณาต่อกัน
และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาและดำเนินชีวิต
“โลกนี้จะน่าอยู่อีกมาก...”

แต่ช่างเขาเถิด...!
หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเอง ให้น้อยลง “แล้วจะประสบความสุข ความเยือกเย็นขึ้นมาก”
เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น... (พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)

 

ที่มาจากบันทึก พึงภูมิในใน "ความเป็นไทย..."

หมายเลขบันทึก: 411713เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2010 21:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 09:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท