เช้ามืดวันที่ ๓๑ ต.ค. ๕๓ ผมออกจากห้องพัก ๖๑๓ ออกไปวิ่งในบริเวณบ้านผู้หว่านท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ให้ความสดชื่นสุดประมาณ ในบริเวณปริมณฑลของกรุงเทพลมหนาวพัดลงมา ๓ วันแล้ว ทำให้ฝนหมดไป อากาศเริ่มแห้งและเย็นสบาย
ที่จริงบริเวณบ้านผู้หว่านเป็นที่คุ้นเคยสำหรับผม แม้จะมาพักไม่บ่อยนัก ผมจึงวิ่งออกไปทางสระน้ำ ไปทางทิศตะวันออกจนไปชนบริเวณก่อสร้างอาคาร จึงวิ่งย้อนกลับมาและข้ามสระไปทางทิศเหนือตรงสะพานที่มีศาลาใหญ่อยู่ตรงกลาง ทะลุไปออกถนนเลียบบริเวณสุสาน
ผมชอบวิ่งมาตรงสุสานเพราะช่วยเตือนมรณานุสติ และเป็นบริเวณที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นที่โล่ง ผมชอบที่โล่ง ตอนอยู่ที่ มอ. หาดใหญ่ก็ชอบวิ่งไปด้านทิศใต้ของวิทยาเขต ในพื้นที่ของคณะทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งตอนนั้นมีที่โล่ง
วิ่งไปจนถึงโบสถ์ ก็วิ่งไปทางโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ จากนั้นวิ่งเลาะรั้วที่ขนานกับถนนเพชรเกษมมาจนชนถนนทางเข้าบ้านผู้หว่าน ระหว่างวิ่งก็ถ่ายรูปวิวหรือต้นไม้ดอกไม้สวยๆไปด้วย คือได้ทั้งออกกำลังกายและได้ดูดดื่มสุนทรียภาพ ผมเป็นคนไม่มีสุนทรียภาพ จึงต้องฝึกตัวเองให้รับรู้สุนทรียภาพเป็น
ผู้มาพักและทำกิจกรรมที่นี่อีกกลุ่มหนึ่งออกมารียนโยคะที่ลานหน้าสระน้ำ เดาว่าเป็นกลุ่มจาก รพ. รามาธิบดี ผู้มา ลปรร. เทคนิคการเป็นคุณอำนวย R2R ก็ออกมาวิ่ง ๒ - ๓ คน
ที่ทางขึ้นอาคารบ้านผู้หว่านมีต้นหนำเลี๊ยบ ที่ดอกสีขาวสวย ทำให้ผมได้รู้จักต้นไม้ต้นนี้ ขอขอบคุณที่เขาติดป้ายบอกชื่อ ทำให้แขกที่มาพักได้ความรู้
ที่จริงผมเคยบันทึกการวิ่งออกกำลังที่บ้านผู้หว่านไว้ก่อนแล้ว แต่แปลกที่ค้นไม่พบ ผมขอแนะนำว่าที่นี่เหมาะสำหรับจัดสัมมนามาก สถานที่ดี อาหารอร่อย และราคาไม่แพง แต่เขาเลือกแขกที่จะมาพักและจัดกิจกรรม เขาไม่ต้องการกิจกรรมแบบอึกทึก หรือเป็นกิจกรรมของกลุ่มอกุศล
วิจารณ์ พานิช
๓๑ ต.ค. ๕๓
สุสานยามรุ่งอรุณ
|
ต้นหนำเลี้ยบ
|
ดอกและผลหนำเลี้ยบ
|
สระน้ำ
|
สถานที่ร่มรื่นให้ความสดชื่น
|
ลานริมสระ
|
สวนริมสระ
|
สวนหน้าห้องประชุม |
สวนหลังห้องประชุม
|
สวนหน้าอาคาร ถ่ายจากหน้าห้องพักชั้น ๖
|
ไม่มีความเห็น