๒ เหตุการณ์ไม่ปกติใน ๑ สัปดาห์
สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เกิดเรื่องไม่ปกติขึ้นกับดิฉัน ๒ เรื่อง เรื่องแรกเมื่อเช้าวันที่ ๒๓ ขณะขับรถจะไปงานมหกรรม KM แห่งชาติครั้งที่ ๕ แต่เช้า ระหว่างทางออกจากหมู่บ้าน ได้หลบรถสวนอยู่หลังรถปิ๊กอัพที่จอดอยู่ พอออกรถได้ ไม่เห็นทางซ้ายเลยเบียดรถปิ๊กอัพคันนั้น เดินหน้าหรือถอยหลังใหม่ก็ไม่พ้น รถ VIOS ที่เพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่กี่เดือนเลยบาดเจ็บเป็นทางยาว (ฮาไม่ออก)
วันที่ ๒๖ ดิฉันมีประชุมที่สภาการพยาบาลทั้งเช้าและบ่าย ตกเย็น ๑๖ น.กว่าได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ด้านบัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ สอบถามเรื่องการใช้บัตรเครดิต (บัตรนี้อยู่กับตัวตลอด) ถามว่าเมื่อวันที่ ๑๑ ดิฉันได้ซื้อตั๋วนกแอร์ไปเชียงใหม่หรือไม่ บอกชื่อคนเดินทางที่จะเดินทางไปเชียงใหม่วันนี้เป็นชื่อนาย...............ดิฉันบอกว่าไม่เคยรู้จักและไม่ได้เป็นคนซื้อตั๋วนั้น
มีการ Check ข้อมูลการใช้บัตรเครดิตเดือนนี้ พบว่าเมื่อวันที่ ๖ ก็มีคนใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปสกลนคร ดิฉันได้รู้จากเจ้าหน้าที่ของธนาคารไทยพาณิชย์ว่าทางนกแอร์ได้ติดต่อมาเพื่อให้ยืนยันการใช้บัตร เพราะชื่อเจ้าของบัตรและคนที่เดินทางไม่ตรงกัน สอบถามได้ความว่าได้มีการสั่งซื้อตั๋วที่มีปัญหานี้ทางโทรศัพท์
ตามปกติดิฉันจะซื้อตั๋วเครื่องบินนกแอร์เส้นทางระหว่างนครศรีธรรมราช-ดอนเมืองด้วยบัตรเครดิตเป็นประจำ เรียกว่าทุกเดือน โดยมักจะซื้อที่เคาน์เตอร์ของนกแอร์ที่สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ชอบซื้อทางอินเตอร์เน็ตเพราะไม่อยากใส่เลขที่และรหัสของบัตรผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ราวเดือนมิถุนายนและกันยายนดิฉันได้แลกตั๋วรางวัลของนกแอร์ซึ่งต้องแลกทางโทรศัพท์และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าอะไรสักอย่าง จึงต้องมีการให้ข้อมูลเลขที่และรหัสของบัตรเครดิต รวมทั้งเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ดิฉันได้ซื้อตั๋วนกแอร์ทางอินเตอร์เน็ต จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นเหตุให้ข้อมูลบัตรเครดิตหลุดไปถึงมือของคนอื่น
โชคดีที่ทั้งสายการบินนกแอร์และธนาคารไทยพาณิชย์มีระบบ monitor เราจึงได้รู้ปัญหา ธนาคารได้อายัดบัตรเครดิตใบนี้แล้ว จึงอยากฝากเตือนผู้ถือบัตรเครดิตให้คอยตรวจรายการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของตนเองด้วย
วัลลา ตันตโยทัย
ความเห็น (3)
วันนี้เพิ่งได้รับใบแจ้งยอดรายการบัตรเครดิต ทำให้รู้ว่าเมื่อวันที่ ๕ พ.ย.๒๕๕๓ ดิฉันได้โทรศัพท์แลกตั๋วรางวัลจากนกแอร์และตัดเงินผ่านบัตรเครดิต พอวันที่ ๖ ก็โดนสวมรอยใช้หมายเลขบัตรซื้อตั๋วเลย
ในการแลกตั๋วรางวัล นกแอร์จะออกตั๋วแยก ๒ ใบ (ขาไปและขากลับ) ตอนออกตั๋วใบแรก พอดิฉันแจ้งหมายเลขบัตรเครดิตไปครบ เขาจะแจ้ง Booking number ทันที (ซึ่งตามปกติก็จะเป็นเช่นนี้) พอถึงตอนออกตั๋วใบที่ ๒ เขากลับถามหมายเลขบัตรเครดิตแล้วบอกว่าจะส่ง Booking number ให้ทาง SMS ทีหลัง ตอนนั้นรู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องส่ง SMS ทีหลัง คิดในใจว่าเขาจะจดหมายเลขบัตรเอาไว้หรือเปล่า แต่ก็คิดว่าบริษัทคงจะมีระบบการทำงานที่เชื่อถือได้
ไม่รู้ว่าความสงสัยของดิฉันจะถูกหรือเปล่า ธนาคารเขาไม่ให้สืบ (ปกติชอบดูหนังประเภทสืบสวน) บอกว่าให้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาและนกแอร์
วัลลา ตันตโยทัย
ผม ทำกิจกรรมทุกอย่างผ่านบัตรหมดเลยครับ เพราะไม่สะดวกในการติดต่อกับสำนักงานต่างๆ(ชนบท ไปหน่อย)
อ่านเรื่องของอาจารย์แล้วคิดตาม ว่าต้องระวังอย่างไร แต่จำกัดวงเงินไว้แค่สองหมื่น ไม่น่าจะพอ เวลาจะซื้ออะไร ต้องคิดความน่าเชื่อถือด้วยซะแล้วครับตอนนี้ ว่าแต่ว่า นกแอร์ เยี่ยโอเคใช่ไม๊ครับ เพราะผมก็เป็นทั้งลูกค้าไทยพานิชและนกแอร์เหมือน อาจารย์เลย
เอนกพี่ว่าใช้บัตรไม่เป็นไร ปัญหาคงอยู่ที่การบอกหมายเลขบัตรให้คนอื่นทางโทรศัพท์ เรามองไม่เห็นว่าขณะนั้นเขาทำอะไร พี่กะว่าจะสอบถามไปยัง บ.นกแอร์ ว่าเขามีระบบการทำงานเรื่องนี้อย่างไร จะทำให้เรามั่นใจได้ไหมว่าบัตรของเราจะปลอดภัย