วันเวลาผ่านผัน นับวันภาษาเมืองล้านนาที่เป็นของพื้นเมืองจริงๆ ก็จะลบเลือนสูญหาย เด็กๆ หรือละอ่อนที่เกิดมาในยุคใหม่จะไม่รู้จักหรือไม่ทราบเลยว่าคำว่า "แสว" อ่านตัว "ว "สะกด ไม่อ่านว่า " สะ-แหว "
คำว่า แสว หมายถึงเนื้อสัตว์ทุกชนิดที่เป็นอาหาร ไม่ว่าเนื้อสัตว์สี่เท้าเช่น วัว ควาย ช้าง ม้า เต่า หรือสัตว์อื่นๆ เช่น ปลา กิ้งก่า ซะป๊ะอย่าง ถือว่าเป็น แสว ทั้งสิ้น
มีคำบอกคนล้านนาว่า "บ่ดีกิ๋นแสว มันช่างเป๋นด้อย" หมายความว่า ไม่ควรรับประทานเพียงแต่เนื้อในถ้วยหรือมื้ออาหารเท่านั้น เพราะว่ารับประทานแต่เนื้อมักจะทำให้เกิดอาการเป็นโรค " ด้อย " คือลักษณะพุงโรก้นป่อง มีตัวตืด ตัวพยาธิ์ในท้องมากมาย หากรับประทานอาหารแล้วต้องรับประทานข้าวเข้าไปด้วย ไม่ควรรับประทานเพียงแต่เนื้อดังในปัจจุบัน เช่น รับประทานเนื้อ ปิ้ง หย้าง เนื้อกะทะ จิ้มจุ่ม อะไรทำนองนั้น
หากรับประทานแต่ แสว รับประทานเพียงแต่เนื้อสัตว์ไม่รับประทานข้าวเป็นเครื่องแจม สิ่งที่ตามมาคือ โรคพยาธิ์ตัวตืด หรือ ตัวแบน หรือคำพูดเรียกกันว่า ตัวแป๊ว
ที่มักจะสลัดท่อนตัวที่แก่จัดออกมาตามรูทวาร มองเห็นคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ติดตามน่อง หรือท้องขา มันมีชีวิตดิ้นกระดุบๆ หากผู้คนอื่นเห็นก็จะทราบว่า คนๆนี้มีตัวตืดในท้องและผู้คนล้านนามักจะกล่าวเป็นคร่าวบอกว่า "ตั๋วตืกบ่ดี ช่างขายหน้าเจ้า..." หมายความว่า ตัวตืดนี้มันไม่ดี เพราะทำให้เจ้าของอับอายขายหน้า
นอกจากจะมีตัวตืดหรือตัวแบนแล้ว คนที่ชอบรับประทาน แสว ยังมีตัวพยาธิ์อีกหลายๆอย่าง ไม่ว่า แมงฮากหอม(ตัวรากหอม) ภาษาไทยกลางเรียกกันว่า พยาธิ์เส้นด้าย เพราะดูแล้วพยาธิ์นี้คล้ายรากหอม มักออกมาพล่านในเวลากลางคืน โดยเฉพาะเด็กๆมักจะนอนดิ้นกระดุกกระดิก นั่นแหละตัวแมงฮากหอมหรือพยาธิ์เส้นด้ายกำลังออกมาพลุกพล่านเดินเล่นที่รูทวารหนัก ต้องรีบเอาผ้ามาเช็ดออก และหายามาถ่ายให้เด็ก หากเป็นผู้ใหญ่จะมีอาการคันที่รูทวารหนัก เพราะผู้ใหญ่ก็ชอบรับประทาน แสว รับประทานลาบดิบ ส้า ก้อย เนื้อสุกๆดิบๆนั่นเอง
คำว่า ด้อย นอกจากหมายถึงโรคพุงโรก้นป่องในเด็กแล้ว ด้อยในคำกริยา ยังหมายถึง อาการหรือพฤติกรรมของคนที่ชอบทำอะไรแปลกๆ เช่น นั่งบนเก้าอี้แล้วต้อง ส่ายขา กระดิกเท้าไปมา เรียกกันว่า ด้อยขา บางคนชอบเอานิ้วมือแยงจมูกโดยไม่รู้สึกตัวและทำบ่อยๆเป็นอาจิณก็เรียกกันว่า ด้อยมือ บางคนอยู่ดีๆก็ส่ายหน้าจนเป็นนิสัย เรียกกันว่า ด้อยหน้า เป็นต้น
อ้าว....กำลังอู้หรือพูดคำว่า " แสว" อยู่ดีๆไพล่ไปหาคำว่า "ด้อย" อีกคำ ก็เลยเป็นอันว่า วันนี้ได้ถึง สองคำ ก็ถือว่าเป็นของแถมหรือ เตื่อมแถ้ง เป็นกำไรของผู้อ่านก็แล้วกันเน้อหมู่เฮา....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
"ด้อย" กับ "ตาลขโมย"
ความหมายเหมือนกันใช่ไหมคะอาจารย์
ขอบคุณจ๊าดนักครับ...สวัสดีครับ
ยากแต้ๆ ผมคนลำปางหนาก็พึ่งฮู้
มันคงยากมากจนในที่สุดมันก๊อเรียนหาย
ไหว้สาคุณครูkrujir และ อ้ายต๋องครับ....
ขอชมเชยว่าครูจิท่านเก่งมาก..เฉลยว่า " ถูกต้อง"...ครับ
ส่วนอ้ายต๋องครับ มันมีคำโบราณใช้กันอยู่ครับ แต่เราไม่นิยมเพราะเราพูดภาษาภาคกลางกันมาก แม้แนครอบครัวพ่อแม่คนเมืองยังอู้คำภาษาไทยกลางกับลูกๆ ก็เลยจบเห่....สำหรับคำเมืองล้านนาครับ..
หากเราช่วยกันฟื้นฟูคำล้านนาก็จะดีมาก ภาษาเราจะไม่เลือนหาย...เลือนหาย....ไปได้ครับ..
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
ไหว้สาคุณบุษราครับ..
ขอบคุณมากครับที่ช่วยนำภาพมาลงเสริมเนื้อหาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
น่ารักน่าชังแท้ละอ่อนหน้อย..ที่จะเป็นเจ้าของประเทศชาติในอนาคต...
ก็อย่าให้พวกหนูๆกินแสวเท่านั้น ชีวิตก็จะสมบูรณ์ทั้งร่างกานและจิตใจ( จิตดี-กายดี- ชีวิตก็จะดีแน่นอนครับ)
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา
คำว่า"แสว" ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินแล้ว บังเอิญผมเป็นคนบ้านนอก อายุเลยเลข4ไปแล้ว ยังเคยได้ยินคำนี้อยู่ เห็นคำนี้แล้วคิดถึงแม่ เพราะท่านได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี2538 แล้ว ตอนนั้นบ้านเรายังไม่มีร้านหมูกะทะ เคยได้ยินแต่เนื้อย่างเกาหลี แต่ก็หากินกันยาก ช่วง7-8 ปีมานี้ บ้านเรามีร้านหมูกะทะเปิดขายกันมาก ผมไปกินเมื่อไหร่ก็คิดถึงแม่ทุกครั้ง เพราะตอนเป็นเด็กแม่มักจะใช้คำว่า"แสว" บ่อยมาก เวลากินข้าวเด็กๆจะชอบกินแต่กับ(เนื้อสัตว์) แม่มักจะด่าว่า"กิ๋นก้าแสว ระวังจะเป็นตืก" ...ตืกหรือขี้ตืก ก็คือเป็นพยาธิ แม่เกิดเร็วและตายไปก่อนที่หมูกะทะจะมาเปิดทางบ้านเรา ก็เลยคิดถึงแม่ทุกครั้งไป"ใคร่ขุดเปิ้นขึ้นมาหันว่าสมัยบ่ะเด่วคนกิ๋นแสวกั๋นเป๋นว่าเล่น" เพราะสมัยที่ผมเป็นเด็ก กินแต่ปลาปูหอย..สัตว์น้ำ ถ้าสัตว์เลี้ยงทั่วไปก็มีไก่ ส่วนหมูและควายจะได้กินก็ต่อเมื่อมีเทศกาลสำคัญ ชาวบ้านจะรวมทุนกันแล้วไปซื้อมาฆ่าแล้วแบ่งกันเองเขาเรียกว่า"ตกหุ้นหรือตกปุ้น" สมัยก่อนตามบ้านนอกไม่มีขายเหมือนสมัยนี้ ทางเหนือเขาไม่นิยมกินเนื้อวัวและเป็ด คนลี้อและคนยองเขาบอกว่ากินแล้วปวดศีรษะ"กิ๋นจิ้นโงใส่แก๋งบ่าโถ่เจ๊บโหวันค่ำ"
ก็หมายถึงแกงถั่วฝักยาวใส่เนื้อวัวกินแล้วปวดหัวทั้งวัน จะว่าไปแล้วคำบางคำแม้จะเป็นล้านนาด้วยกันก็ยังมีหลายคำที่บางท้องถิ่นไม่เคยได้ยิน ...ว่าเรื่องแสวผ๊ดมาถึงเรื่องอะหยังแล้วก่บ่ฮุ้ ขอสูมาตวยครับ(พ่อของผมเป็นลูกหลานจาวยองหละปูน ส่วนแม่ของผมเป็นลูกหลานจาวลื้อบ้านกล้วยลำปาง ตั๋วผมเกิดเป็นลูกครึ่ง เกิดเจียงฮายมาใหญ่หละปูน บ่ะเด่วอยู่ลำปางหนา ไปอยู่หลายจังหวัดในภาคเหนือก็เลยพอจะได้ยินได้ฟังกำเมืองจากหลายท้องถิ่น มีเพื่อนเป็นลื้อ ยอง เม็ง ขะมุ ชาวเขา ฯลฯ คนลาวคนใต้ บางภาษาก็ฟังรู้เรื่องบ้าง แต่เรียนภาษาล้านนาบ่ตันจบเพราะอาจ๋ารย์เปิ้นย้ายไปที่อื่นก่อน
สวัสดีคุณยุทธ์ครับ..ขอบคุณที่เข้ามาแอ่วและเพิ่มเติมความหมายดีแต๊ๆ..
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์ จ๋าเป็นนักเขียน อยากศึกษาภาษาล้านนามากๆ ได้เข้ามาเวบนี้และได้พอทราบคำบางคำที่อาจารย์อธิบายโดยละเอียด ขอบพระคุณมากนะคะ
กำลังเขียนเรื่องเจ้าแก้วดาริกา สมมติเรื่องเป็นเจ้านายเมืองที่ถูกกลืนชาติไป ก็อิงประวัติศาสตร์หลายชาติพันธุ์ค่ะ แต่จ๋าอยากใช้ภาษาล้านนาให้เป็นภาษาของเมืองเจ้าแก้วดาริกา ซึ่งต้องใช้ภาษาโบราณมากๆ แต่ความรู้ก็น้อยเต็มที ได้แต่เข้ามาค้นหาจากท่านผู้รู้จริง เพื่อนำไปเรียบเรียงบางช่วงบางตอนค่ะ
หากผิดก็กราบขออภัยนะคะ แต่ถ้าอนุญาตให้นำไปเผยแพร่ได้ ก็กราบขอบพระคุณมากค่ะ